วัคซีนเข็มแรกฉีดให้คนอังกฤษอายุ 90 ปี เป็นคนแรก แล้วคาดว่าในอเมริกาและในประเทศอื่นๆ คงจะตามมาอย่างรวดเร็ว ภายในปี 2564 และวัคซีน
มาไทยด้วย หวังว่าสถานการณ์ของโควิดจะดีขึ้น
วัคซีนเข็มแรกไม่ใช่ว่าโควิดในโลกจะหายไปทันที เพราะในอเมริกา ที่คาดว่าวัคซีนของ Pfizer และ Moderna จะเริ่มอย่างรวดเร็ว น่าจะเห็นผลได้ภายในต้นปี พ.ศ. 2564
แต่สถานการณ์โลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ ยังมีปัญหาอย่างมาก ช่วงนี้สูงสุด ผู้ป่วยสูงสุดกว่า 200,000 คนต่อวัน ตายวันละกว่า 2,000 คน ปัญหาจากการไม่สนใจของผู้นำอย่างทรัมป์ ประธานาธิบดีที่ไม่สนใจวิทยาศาสตร์ มีผลร้ายคือ แพ้เลือกตั้งอเมริกา มีคนว่างงานมากมาย ถ้าทรัมป์ชนะต่ออีก4 ปี โลกในอนาคตจะเป็นอย่างไร ยังดีที่ไบเดน ชนะยังมีความหวังที่จะแก้โควิด-19 ทั้งโลกหลังวัคซีนมาแล้วดี
ในประเทศไทยของเราต้องยกการ์ดให้สูงไว้ สัปดาห์นี้มีปัญหาคนไทยลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายจากประเทศเมียนมา เกิดกระแสความกลัวโควิด-19 จะมารอบ 2 ยิ่งมีข่าวปลอมว่าจะเข้ามามากมายว่าจะล็อกดาวน์ประเทศอีกรอบ โควิด-19 ยังไม่รุนแรงจัดการได้ เพราะการติดตาม (Trace) อย่างได้ผลน่าพอใจ น่าชื่นชมการแพทย์ชาวไทย แต่ก็ไม่ควรประมาทเด็ดขาด การแพทย์ของเราสามารถทำได้อย่างน่าชื่นชมมาก แต่ก็ไม่ควรประมาท ต้องแจ้ง และอย่าตระหนกเกินไป
ผมขอยกปัญหาของไทยว่า หลังจบโควิด-19 ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น ภาคส่งออก ภาคการท่องเที่ยว ยังไม่ดี ซึ่งเศรษฐกิจไทยพึ่งพามากไป ต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อรับหลังโควิด-19 แต่ประเทศจีน ที่เชื่อมโยงระหว่างต่างประเทศกับการบริโภคในประเทศได้ดีเศรษฐกิจจีนหลังโควิด-19 สามารถปรับตัวกลับมาบวกได้อย่างรวดเร็ว เพราะผู้นำของจีนสร้างระบบเศรษฐกิจให้สมดุลระหว่างการบริโภคในประเทศระหว่างการส่งออก และการลงทุนจากต่างประเทศ
ประเทศไทยเริ่มมาตรการปรับตัวดีขึ้น เช่น โครงการออกคนละครึ่งซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าได้รับผลดีจากการกระตุ้นใช้จ่ายในเมืองและชนบทมากขึ้นอย่างได้ผล ธุรกิจรากหญ้าและทุกร้านเล็กๆ สามารถเข้าโครงการคนละครึ่งได้ โดยรัฐออกครึ่งต่อผู้เข้าร่วมโครงการผู้ขายเป็นธุรกิจชุมชน และกระตุ้นให้ธุรกิจรากหญ้าใช้ดิจิทัลได้ดีทุกระดับ สามารถร่วมโครงการได้น่าชื่นชม เพราะเป็นการดึงเอาเงินจากประชาชนที่มีกำลังจ่ายไปสู่ธุรกิจรากหญ้า ให้ระบบเศรษฐกิจของไทยหมุนไปได้หลายรอบ น่าชื่นชม ผมเห็นชาวบ้านที่ทำธุรกิจมีโครงการคนละครึ่งหลายแห่ง
หญิงชาวอังกฤษ วัย 90 ปี ได้รับวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 คนแรกของโลก
ยุคคุณประยุทธ์ทำโครงสร้างพื้นฐานได้ดี นอกจากการสร้างรถไฟฟ้าและรถใต้ดินเชื่อมโยงกรุงเทพฯ หลายจุด และจังหวัดใกล้เคียงได้ดี ทำให้คนกทม. มีความสะดวกสบายมากขึ้น ลดค่าใช้จ่าย ค่าขนส่ง ใช้เวลารถติดน้อยลง ครอบครัวอบอุ่นมีข้อมูลว่า กรุงเทพฯมีรถไฟฟ้าอันดับ 3 ของโลก
หลายกลุ่มอาจโจมตีว่ามีผลประโยชน์ตอบแทนแต่ในฐานะนักเศรษฐศาสตร์ ผมขอชื่นชมรัฐบาลคุณประยุทธ์ ยุคที่คุณประยุทธ์อยู่ต่อเนื่องกว่า 6 ปี ทำให้การตัดสินใจลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทำได้ดีต่อเนื่อง โครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟความเร็วสูง เชื่อมกับกรุงเทพฯ กับอีสาน มีมอเตอร์เวย์หลายสายที่รอจะเปิด เช่น สายกรุงเทพฯ-โคราช ที่จะช่วยได้มากก็คือ มอเตอร์เวย์สายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี เชื่อมโยงยังเมียนมาได้
หลายกลุ่มอาจโจมตีรัฐบาลประยุทธ์มีโครงสร้างพื้นฐานมากเพราะผลประโยชน์มาก ซึ่งอาจจะจริง แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้ามไปคือ ถ้าเป็นยุคที่มีพรรคการเมืองเป็นรัฐบาลผสม ทำได้ช้า แต่ผลประโยชน์ตอบแทนมากคล้ายๆ กัน
แต่ยิ่งสร้างช้าค่าก่อสร้างยิ่งแพงขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือ ค่าเวนคืนที่ดินแพงขึ้น ก่อสร้างเสร็จเร็วก็สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากขึ้นและเร็วขึ้น ผมไม่ได้เชียร์คุณประยุทธ์ แต่สร้างโครงสร้างพื้นฐานได้เสร็จเร็ว มีคุณภาพ ช่วยประเทศได้มาก เพียงแต่ขอให้ระวังเรื่องความโปร่งใสด้วย
ขอยกตัวอย่างสายสีม่วงจากบางซื่อไปบางใหญ่ช่วงแรกๆ ขึ้นต่อไปจากบางซื่อไม่ได้ แต่ยุค คสช. ตัดสินใจเชื่อมทางกับบางซื่อ โดยต่อจากสายสีน้ำเงิน ซึ่งสะดวกมาก เพราะคนมาจากสุขุมวิทต่อรถจากบางซื่อไปบางใหญ่ได้เลย ล่าสุดผมทดลองใช้สายสีม่วงไปบางใหญ่ สะดวกมาก และผู้โดยสารบางใหญ่-บางซื่อ มีจำนวนมากขึ้นเป็นลำดับ ช่วยการเดินทางได้ดี
ยุคหลังโควิด-19 ถ้าทั้งโลกดีขึ้น มีวัคซีนเรียบร้อย ปลายปี 2564 ธุรกิจจะกลับมาบูมอีก โครงสร้างพื้นฐานของนายกฯประยุทธ์น่าถูกเรียกว่า4.0 ถ้ามีโครงสร้างพื้นฐานดีแต่คนไทยไม่มีคุณภาพเป็นทุนมนุษย์ที่ไม่เป็นมืออาชีพ เพราะการปฏิรูปการศึกษาทุกระดับตั้งแต่ประถมศึกษา ถึงมหาวิทยาลัยของ คสช. มาถึงรัฐบาลคุณประยุทธ์ล้มเหลวอย่างมาก ผมขอเสนอว่า ถ้าจะทำให้ประเทศของเราไปได้ดีหลังโควิด-19 นอกจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี4.0 แต่การศึกษาและคุณภาพของทุนมนุษย์ รัฐบาลคุณประยุทธ์ทำไม่สำเร็จ ทำให้การปรับตัวหลังโควิด-19ไปได้ไม่ดีนัก จึงอยากให้เร่งเรื่องดังกล่าวมากขึ้น
ยุคหลังโควิด-19 รัฐบาลน่าจะเอาใจใส่ เรื่องการศึกษาและทุนมนุษย์ทุกๆ ระดับให้มีคุณภาพ การใช้เทคโนโลยีทั้งด้านดิจิทัล เรื่องธุรกิจขายออนไลน์ไปได้ดีขึ้น แต่ควรนำดิจิทัลมาพัฒนาการศึกษาทุกระดับแม้กระทั่งระดับผู้ทำงานในเมืองและชนบท และระดับผู้สูงอายุต้องทำจริงจังมากขึ้น ปัจจุบันยังทำได้ไม่ดีพอ ผมเลยเรียกว่าเรื่องการศึกษา เรื่องทุนมนุษย์ และจริยธรรมว่ายัง 0.4 อยู่
หลังโควิด-19 ถ้าเรายังมีนักการเมืองไม่โปร่งใสมีข้าราชการไม่ซื่อสัตย์ ประเทศก็ไม่สามารถสร้างวิกฤติหลังโควิด-19 เป็นโอกาสได้ วิกฤติครั้งนี้ใหญ่หลวง แต่ถ้านำวิกฤติมาเป็นโอกาสในเรื่องการศึกษา การพัฒนาทุนมนุษย์ให้รองรับโอกาสใหม่ๆ หลังโควิด-19 ก็จะไปได้ดี รวมทั้งปรับคุณธรรม จริยธรรมไทยให้เป็น 4.0 ซึ่งปัจจุบันอาจจะเรียกว่าคุณธรรม จริยธรรม ของรัฐบาลประยุทธ์ยัง 0.4
พึ่งรัฐบาลไม่ได้ทั้งหมด เพราะ 6 ปี การศึกษา ทุนมนุษย์และจริยธรรมล้มเหลวคงจะต้องหันมามองตัวเรา สร้างพลังของคนในสังคมให้รวมกัน จะได้ปรับการศึกษา ทุนมนุษย์ และทุนทางจริยธรรม จาก 0.4 เป็น 4.0 ให้สำเร็จ
ต้องเอาจริงครับ เพราะรัฐบาลคุณประยุทธ์ล้มเหลวเรื่องทุนมนุษย์ การศึกษาและจริยธรรม
มีโครงสร้างพื้นฐาน 4.0 จึงไม่พอเพียง
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี