ชาติตะวันตกสหรัฐอเมริกาตลอดถึงสื่อกระแสหลักกระแสรองโซเชียลมีเดียของนักกิจกรรมเอ็นจีโอ ต่างพากันโหนกระแสแห่ศพชาวพม่าที่เสียชีวิตระหว่างประท้วงในมัณฑะเลย์และกรุงเนปิดอว์ โดยหวังว่าหนึ่งศพในเนปิดอว์เมื่ออาทิตย์ก่อนกับสองศพที่ท่าเรือมัณฑะเลย์เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น จะปลุกกระแสความโกรธแค้นให้ชาวพม่าลุกฮือขึ้นมาเรือนแสนเรือนล้านเพื่อต่อสู้ต่อต้านคณะทหารที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลนางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564
แต่นักสังเกตการณ์ทางการเมืองในพม่าและตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ยังสงสัยอยู่ว่ามันจะเป็นดังที่ตะวันตกตั้งความหวังไว้หรือ
“ผมว่าเป็นไปได้ทั้งสองทางคือ ประชาชนโกรธแค้นลุกฮือขึ้นมาหรือไม่ก็หวาดกลัวเมื่อเห็นคนตายและถูกจับมากขึ้นไม่กล้าออกมาชุมนุม..” นักสังเกตการณ์ทางการเมืองในพม่ากล่าวและเสริมว่า.. “ผมคิดว่าเป็นอย่างหลังมากกว่า...”
ข้อมูลจากสมาคม “ช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองแถลงว่าตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ถึงวันเสาร์ที่ 20 ก.พ. นักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองถูกจับดำเนินคดีแล้ว569 คน นี้ไม่รวมถึงนาย Lu Min ดารายอดนิยมชาวพม่าที่ถูกตำรวจบุกจับข้อหาปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงหลังจากวัยรุ่นสองคนถูกยิงเสียชีวิตที่ท่าเรือมัณฑะเลย์
“การประท้วงที่ท่าเรือมัณฑะเลย์ มีคนต้องการให้เกิดความรุนแรงมีคนวางแผนให้บานปลาย ปลุกระดมให้ขัดขวางไม่ให้เรือโดยสารออกจากท่าเรือถึงสามครั้ง ขัดขวางตอนแปดโมงเช้า ตอนเที่ยงวัน ตอนสี่โมงเย็น
...เมื่อตำรวจเข้ามาจัดการให้เรือออกจากท่าก็ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กปาก้อนหินของแข็งใส่ จนชุลมุนวุ่นวายส่วนคนตายยังไม่รู้ว่าฝ่ายไหนยิง..” แหล่งข่าวใกล้ชิดกับเหตุการณ์กล่าว
นักสังเกตการณ์ทางการเมืองในพม่าเชื่อว่าการขัดขวางไม่ให้เรือโดยสารออกจากท่า จอดรถปิดถนน ขวางขบวนรถไฟ...ตลอดถึงหมอไม่ยอมรักษาคนป่วยทำให้ประชาชนแห่กันไปใช้โรงพยาบาลในค่ายทหาร ทำให้คนเบื่อหน่ายผู้ประท้วง
“ผมคิดว่าไม่น่าจะเกินปลายเดือนนี้การชุมนุมประท้วงจะฝ่อไปเอง..” แหล่งข่าวกล่าว
ในเวลาเดียวกันแหล่งข่าวในกลุ่มชาติพันธุ์เปิดเผยว่า ภาคประสังคมเอ็นจีโอตะวันตกพยายามปลุกเร้าให้กลุ่มชาติพันธุ์เข้าร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านการยึดอำนาจกับชาวพม่า
“ปล่อยให้คนพม่าทะเลาะกันเองกลุ่มชาติพันธุ์ไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง...ก็เห็นมีแต่ฝรั่งตะวันตกที่อยู่ห่างไกลโวยวาย เพื่อนใกล้ชิดเราอย่างจีนไม่เห็นพูดอะไร..”
แหล่งข่าวในกลุ่มชาติพันธุ์กล่าว เขากล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ในพม่าจีนล้ำหน้า อเมริกาและตะวันตกไปหลายก้าว
“อเมริกา..ตะวันตก เอะอะก็คว่ำบาตร เอะอะก็แซงก์ชั่น พม่าไม่แคร์หรอกอเมริกาแซงก์ชั่นนายพลเนวิน27 ปี คว่ำบาตรยุคนายพลซอ หม่อง 23 ปีพม่ายังอยู่ได้”
พม่ามีจีนซึ่งเป็นมหาอำนาจตะวันออกคอยช่วยเกื้อกูลทุกด้านทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคมและความมั่นคง ทางด้านเศรษฐกิจจีนลงทุนมากที่สุดเป็นอันดับสอง รองจากสิงคโปร์ ตัวเลขจากปี 2020สูงถึง 375,350 ล้านบาท นี้ไม่นับรวมจีนวางท่อส่งแก๊สจากทะเลอันดามันผ่านรัฐยะไข่ไปถึงยูนนานความยาวพันสองร้อย กม. และท่อส่งน้ำมันความยาว 774 กม. ส่งน้ำมันจากทะเลอันดามันผ่านพม่าไปสู่ตอนใต้ของจีน ส่งน้ำมันได้ถึง 22 ล้านตันต่อปี เมื่อท่อส่งแก๊สและน้ำมันเปิดใช้งานเมื่อปี 2556 จีน ก็เริ่มโครงการท่าเรือน้ำลึก “ยะผิว” และพัฒนารัฐยะไข่ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ นอกจากนั้นจีนยังมีโครงการพัฒนาเมืองย่างกุ้งให้เป็นฮับ one bell one road สร้างรถไฟความเร็วสูงจากยูนนานผ่านเมืองใหญ่พม่าสู่อันดามัน นอกจากนั้นยังมีโครงการเขื่อนพลังงานมิตโสนที่จีนได้ลงนามกับรัฐบาลพม่าแล้ว
ด้านการค้าจีนนำเข้าแร่เฮิร์ท (แร่หายาก) เพื่อทำวงจรอิเล็กทรอนิกส์จากพม่าถึง 92 เปอร์เซ็นต์ และเป็นคู่ค้าหยกรายใหญ่ที่สุดของพม่า ทางด้านความมั่นคงจีนให้ความร่วมมือทางด้านทหารกับพม่า ที่สำคัญกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดคือ “ว้า”
ว่ากันว่ามีกองกำลังแข็งแกร่งถึง 25,000 นายมีฐานที่มั่นอยู่ติดกับชายแดนจีน ว้า โกกั้ง คะฉิ่น ปะหล่องปะโอ อยู่ใกล้ชายแดนจีนล้วนแต่ยังไม่ได้ลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลกลางพวกเขาตั้งเงื่อนไขให้พม่าเป็นสหพันธรัฐเท่านั้น
ด้านสังคมทุกวันนี้มีคนจีนเข้ามาอยู่ในพม่าไม่น้อยกว่าสี่ล้านคน มีทั้งนักลงทุน นักธุกิจ วิศวกรพ่อค้า คนงานที่จีนรับเหมาก่อสร้าง จากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง และสังคม พม่าจึงเปรียบเหมือนไข่ในหินที่จีนไม่ยอมให้อเมริการุกรานได้ง่ายเหมือนในตะวันออกกลางและแอฟริกา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี