โรคไวรัสโควิด-19 ที่ได้ระบาดทั่วโลก 210 ประเทศ เมื่อต้นปี 2563 ได้สร้างปัญหาต่อภาวะเศรษฐกิจการเงินของโลกใบนี้อย่างรุนแรงยิ่ง ธนาคารโลก (WORLD BANK) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้วิเคราะห์ว่า ผลการระบาดของไวรัสมหาภัยที่ทำให้คนทั่วโลกต้องติดไวรัสมากกว่า 123 ล้านคน และมีคนตายเพราะไวรัสประมาณ 2.8 ล้านคน ยังผลให้ภาวะเศรษฐกิจการเงินของโลกได้รับผลกระทบสูงถึงร้อยละ 15 ซึ่งบางประเทศเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยสูงกว่าร้อยละ 30 ก็มี
สำหรับประเทศไทยนั้น มีรายได้จากการเปิดรับนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ และได้รับผลกระทบเมื่อมีการปิดประเทศก็เดือดร้อนกันทุกฝ่าย แต่ปัจจุบันโลกมีวัคซีนฉีดป้องกันไวรัสนี้ได้แล้ว เป็นที่คาดหมายว่าอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยวจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 นี้
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเปิดประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อมั่นว่าระบบการสาธารณสุขของไทยที่ได้รับการยกย่องไปทั่วโลกในปัจจุบันนี้จะทำให้ประเทศกลายเป็นMEDICAL HUB หมายเลขหนึ่งของโลก ไปพร้อมๆ กับการก้าวไปสู่ประเทศที่เป็น WORLD BEST DESTINATIONอย่างมั่นคงในปี 2564 และปีหน้า 2565 อย่างไร้ข้อกังขา
สำหรับการกำหนดมาตรการในการฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจของประเทศนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ร่วมกับกระทรวงต่างๆได้แก่กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุขกระทรวงมหาดไทยฯลฯกำหนดกรอบการปฏิบัติงาน อย่างรอบคอบและรัดกุมมีมาตรการรองรับไว้ทุกขั้นตอนเพื่อผลักดันให้ประสบผลสำเร็จเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ขณะนี้จังหวัดสำคัญๆที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักและรองของไทย เช่น ภูเก็ต เกาะสมุย เกาะพะงัน หมู่เกาะอ่างทอง พังงา กระบี่ สตูล ตรัง ระนอง สงขลา เมืองพัทยา ระยองเกาะช้าง เกาะกูด เชียงใหม่ เชียงราย หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ฯลฯ ได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดความตื่นตัวได้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ไปสู่ประเทศที่เป็นตลาดหลักของไทยดึงให้กลุ่มนักท่องเที่ยว ที่เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงๆ เดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งปรากฏว่า เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เป็นเป้าหมายได้มีการจองโรงแรมในประเทศเข้ามาบ้างแล้วคาดว่าสถานการณ์ต่างๆจะค่อยๆ กลับคืนสู่ภาวะปกติตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 นี้ มาตรการเปิดประเทศสร้างรายได้ของรัฐบาลนั้นได้รับเสียงตอบรับที่ดีเป็นที่น่าพอใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเรือสำราญขนาดใหญ่ เรือยอร์ช กลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูงที่เดินทางเข้ามาในประเทศด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำได้ค่อยๆ ทยอยเข้ามาพำนักในประเทศไทยแบบ LONGSTAY กันบ้างแล้ว
ทางด้านกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ประเมินไว้ว่า กลุุ่มนักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจะเดินทางเข้ามาพำนักในประเทศไทย ในระหว่าง 5-6 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น โดยศคบ. ที่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้ออกมาตรการป้องกันอย่างรัดกุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซ้ำอีก จะทำให้แผนการเปิดประเทศสร้างรายได้เป็นไปได้ตามเป้าหมายในที่สุด เป็นที่น่ายินดีว่า มาตรการต่างๆ นั้น รัฐบาลได้เดินหน้าไปสู่ความสำเร็จอย่างเป็นระบบมีการประสานงานกันเป็นอย่างดีระหว่างภาค รัฐกับภาคเอกชนทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเชื่อว่าการเปิดประเทศสร้างรายได้ครั้งนี้น่าจะได้ผลตามเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการ นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประชาชนและประเทศชาติในที่สุด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี