วันพรุ่งนี้วันที่ 14 เมษายน 2564 เป็นวันมหาสงกรานต์ คือเป็นวันเวลาที่พระอาทิตย์โคจรพ้นราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นของปีใหม่ตั้งแต่เวลา 3 นาฬิกา 39 นาที 36 วินาที โดยทางจันทรคติตรงกับอังคารขึ้น 2 ค่ำเดือน 6 ปีฉลู
ดังนั้นในวันนี้ ซึ่งกำลังจะเข้าเขตมหาสงกรานต์แล้วจึงควรที่จะได้ทำความรู้ทำความเข้าใจในเรื่องนี้ เพราะนางสงกรานต์ที่จะเข้าเวรในปีนี้มิใช่นางสงกรานต์ธรรมดา ซึ่งจะมีปกติผลัดกันเข้าสองเวร 2 ปีครั้ง 3 ปีครั้ง หรือ 5 ปีครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นนางสงกรานต์พิเศษที่ทรงพระนามว่าพระนางรากษสเทวี
พระนางรากษสเทวีเข้าเวรแต่ละครั้งก็จะมีการผันแปรเปลี่ยนแปลงขึ้นทั้งในสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งถ้าหากย้อนไปในอดีตพระนางรากษสเทวีเคยเข้าเวรเมื่อปี 2558 ย้อนไปก็เป็นปี 2547 ถัดขึ้นไปอีกก็ปี 2530 ก่อนนั้นขึ้นไปอีกก็มีการเข้าเวร นานทีปีครั้งเหมือนกัน และแต่ละครั้งก็จะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ขึ้น และส่วนใหญ่การเปลี่ยนแปลงนั้นก็จะเป็นไปในทางดีเป็นไปในทางยุติปัญหาหรือวิกฤติเสมอ
อย่าได้คิดว่าพระนามท่านเป็นยักษ์เป็นมารจะมีจิตใจโหดร้ายเหมือนกับเหล่าพาลทั้งหลาย เพราะหน้าตานั้นไม่ใช่เป็นเครื่องวัด ไม่เห็นหรือคนที่รูปหล่อหรือสวยงามแต่กลับเป็นคนทรามต่ำช้าไม่น้อย
พระนางรากษสเทวีเข้าเวรในปีนี้เสด็จประทับนอนหลับพระเนตรมาบนหลังวราหะหรือบนหลังหมู เพราะวันเวลาที่พระอาทิตย์โคจรข้ามราศีนั้นเป็นเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว อิริยาบถของพระนางจึงนอนหลับเนตร
พระนางรากษสเทวีแต่งตัวด้วยเครื่องทรงคือทรงพาหุรัด ทัดดอกบัวหลวง อาภรณ์แก้วโมรา ภักษาหารโลหิต พระหัตถ์ขวาทรงตรีศูล พระหัตถ์ซ้ายทรงธนูศร ซึ่งเหล่านี้โหราจารย์แต่อดีตมาก็ได้ใช้เป็นหลักๆ หนึ่งในการพยากรณ์สงกรานต์
ปัญหาวิกฤติและความขัดแย้งจะยกระดับขึ้นสูงจนนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง และความเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นไปในทางที่สร้างสรรค์ดีงามดอกบัวหลวงที่พระนางทัดมานั้นเป็นดอกบัวหลวงที่ได้รับประทานจากเครื่องบูชาพระศิวะเป็นเจ้า พระนางจึงมีพรที่จะทรงไว้ซึ่งอำนาจในการแก้ไขปัญหาสารพัด อาภรณ์ของพระนางคือแก้วโมรา ซึ่งโดยทั่วไปจะมีโมราสีเขียว สีแดง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ การค้า และการพัฒนาการปกครองต่างๆ แต่ก็ยังมีแก้วโมราอีกชนิดหนึ่งมีสีขาว และถ้าทรงคุณมีคุณลักษณะเป็นพยับเมฆอยู่ภายในแล้วก็จะมีฐานะเป็นแก้วกายสิทธิ์ดังที่สุนทรภู่ได้นำมาพรรณนาไว้เป็นตราพระราหูในเรื่องพระอภัยมณีนั้น
อาภรณ์ของพระนางจึงบ่งบอกว่าเศรษฐกิจ การค้า การปกครองที่เป็นวิกฤติย่อยยับอับจนอยู่ในขณะนี้จะกลับฟื้นคืนตัวขึ้น โดยจะมีสัญญาณปรากฏให้เห็นตามกำลังพระอาทิตย์ที่โคจรเข้าสถิตในราศีเมษ คือต้องผ่านพ้น 6 องศาไปแล้วซึ่งจะตกราววันที่ 21 เมษายน 2564 ก็ลองสังเกตกันดู
แม้ว่าเป็นพระนางสงกรานต์แต่ก็ไม่ใช่สตรีละอ่อน แต่ทรงไว้ซึ่งความองอาจกล้าหาญและความเป็นนักรบ เหตุนี้พระนางจึงได้รับประทานธนูศิลป์เทพศาสตราวุธประจำองค์พระนารายณ์และได้รับประทานตรีศูลซึ่งเป็นเทพศาสตราวุธประจำพระองค์พระอิศวรที่ประทานแก่พระนารายณ์ในการสยบกลียุค และพระนารายณ์ก็ได้ทรงประทานให้แก่พระนางรากษสเทวี ประหนึ่งว่าโปรดให้พระนางเป็นกองหน้าในการชำระสะสางวิกฤติต่างๆ ในสามโลก
ในเรื่องนี้คงจะพรรณนามากไปกว่านี้เห็นจะไม่ได้แล้ว เพราะอาจจะถูกนำไปตีความไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในภาคภูมิดลหรือภาคพื้นดินให้เกิดความสับสนไปได้
พระนางรากษสเทวีเสวยโลหิตเป็นภักษาหาร โลหิตก็คือเลือด แต่มีคำกำกับอยู่ที่ต้องตั้งข้อสังเกตด้วยคือคำว่า “ภักษาหารโลหิต” โดยภักษาหารนี้ในทางนิรุกติหรือรากแห่งภาษานั้นหมายถึงพืชผักผลไม้ที่มีสีแดง ไม่ใช่เลือดมนุษย์หรือเลือดของสัตว์ ซึ่งผู้เขียนก็เคยเข้าใจผิดในเรื่องนี้มาก่อน
ดังนั้นนับแต่วันสงกรานต์ไปพืชผักอันมีสีแดง รวมทั้งกัญชาพันธุ์ไทยก้านสีแดงก็จะทรงคุณค่ามีราคาเป็นที่นิยมมากขึ้น ชะดีชะร้ายประชาชนชาวไทยอาจจะมีโอกาสในการพิทักษ์รักษากัญชา กัญชง ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติให้เป็นประโยชน์แก่ชนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองของเรา
ในปีใหม่นี้มีเกณฑ์นาคให้น้ำรวม 6 ตัว จึงก่อให้เกิดสภาพฝนสม่ำเสมอตลอดทั้งปี แต่เนื่องจากพระเสาร์เป็นอธิบดีฝนจึงบันดาลให้ฝนตกรวมทั้งสิ้น 400 ห่า ตกในพื้นที่เขาจักรวาล 160 ห่า ตกในเขตป่าหิมพานต์ 120 ห่า ตกในมหาสมุทร 80 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 40 ห่า โดยเกณฑ์ธาราธิคุณไปตกเรือนธาตุน้ำที่ราศีกรกฎ จึงทำให้บางช่วงเวลาน้ำฝนบ่าน้ำทะเลหนุนก็จะเกิดภัยน้ำท่วมขึ้น และในปีใหม่นี้แม้จะมีน้ำท่วมก็คงจะไม่มากครั้ง
แม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาของการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี แต่ซากปรักหักพังที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันมาจะยังคงทำให้ราษฎรยังคงต้องตรากตรำลำบากยากเข็ญทั้งในการทำมาหากินโรคภัยไข้เจ็บและความเป็นอยู่
แม้กระนั้นแสงอรุณในยามเช้าก็ยังประโลมใจ เพราะความสว่างไสวแห่งรัศมีพระสุริยันเบื้องบูรพาทิศนั้นก็คือนิมิตหมายว่ากลางวันกำลังมาถึงแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี