ในวิกฤติการแพร่ระบาดของ “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไม่ได้มีแต่เรื่องเลวร้ายขยี้สังคมไทยเท่านั้น แต่เกิดโอกาสที่ดีหลายประเด็นที่รัฐบาลปล่อยให้เป็น “ไฟไหม้ฟาง” เสียอย่างนั้น
รัฐบาลต้องตระหนักข้อเท็จจริงที่ว่า “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)” นี้เป็นโรคอุบัติใหม่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก
ในโลก ทำให้ยังไม่มียาปฏิชีวนะเพื่อทำการรักษาสกัดกั้นการแพร่ระบาดและเชื้อนี้ยังต้องอยู่กับมวลมนุษยชาติไปอีกนาน
เท่านาน ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขหามาตรการออกมาให้ ทีมไทยแลนด์ ที่ประกอบไปด้วยทุกอณูของสังคมไทยปฏิบัติได้รับเสียงชื่นชมจากประชาคมโลกโดยเฉพาะจากองค์การอนามัยโลก เสียงแซ่ซ้องสรรเสริญนี้เองทำให้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่น่าเริ่มต้นลงทุนมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก จากรายงานของ “U.S. News & World Report1 สหรัฐ”
สังคมไทยไม่ได้ตั้งรับเพียงอย่างเดียว ในเชิงรุกวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์และนักวิจัยของไทยก็ค้นพบเสื้อเกราะและอาวุธที่จะสามารถหยุดยั้งสกัดกั้นการแพร่กระจายขยายอิทธิพลในประเทศไทยโดยพบบางสิ่งบางอย่างอาทิ 1.สมุนไพรไทยบางชนิดเช่น ฟ้าทะลายโจร ที่ศูนย์สมุนไพรอภัยภูเบศรโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรได้ศึกษาวิจัยแล้วพบว่าสามารถสกัดกั้นการแบ่งตัวและชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสร้ายนี้ได้ 2.มีการวิจัยพบว่ามีสารสกัดบางตัวในสมุนไพรไทยอาทิ “กระชายขาว” สามารถฆ่าไวรัสนี้ได้ ซึ่งค้นคว้าวิจัยโดยคณะวิทยาศาสตร์ม.มหิดลร่วมกับคณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี พบว่าในกระชายขาวมีสารสกัด 2 ชนิด ที่มีฤทธิ์ทำหน้าที่เป็นกลไกยับยั้ง “เชื้อโควิด-19” นั่นคือ 1.แพนดูราทิน เอ (Panduratin A) กับ 2.ไพโนสโตรบิน (Pinostrobin)
ไม่เพียงเท่านี้คณะเภสัชกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย โดยผศ.ภญ.ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ, ดร.วรัญญู พูลเจริญ ยังสามารถสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ โดยการใช้พืช เป็นตัวกลางในการผลิตสารชีววัตถุ ผลิตสารชีวโมเลกุลโดยใช้พืช โดยในกรณีของโควิด-19 นั้นพบว่าใบยาสูบมันให้ผลดีที่สุด เพื่อไปกระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกัน
วัคซีนเพื่อคนไทย โดยคนไทย ผลิตในไทย จาก ใบยา ไฟโตฟาร์ม เป็นวัคซีนชนิดโปรตีน (Protein-based Vaccine) โดยกระบวนการสร้างโปรตีนเพื่อนำมาใช้ผลิตวัคซีน ซึ่งทีมงานวิจัยได้ออกแบบชิ้นส่วนโปรตีนในรูปร่างที่เหมือนกับไวรัสโควิด-19 แล้วนำยีนฉีดเข้าไปในพืช เพื่อให้พืชผลิตโปรตีนรูปแบบนี้ออกมาภายหลังการฉีด 1 สัปดาห์ ทีมงานสามารถตัดใบยาสูบ และใช้กระบวนการเพื่อทำให้โปรตีนบริสุทธิ์แยกออกจากโปรตีนอื่นๆของพืช ก่อนนำมาวิเคราะห์ลักษณะโครงสร้าง และนำไปใช้ทดสอบวัคซีนในลำดับถัดไป ไม่ใช่แค่วัคซีนโควิด-19 เท่านั้นที่นักวิทยาศาสตร์ไทยวิจัยอยู่ แต่ยังมียารักษาโรคมะเร็งที่กำลังวิจัยและคาดหวังผลได้ในที่สุด ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในงานขั้นตอนสร้างโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์งานวิจัยนี้ เพื่อให้คนไทยทุกคนเข้าถึง “วัคซีนเพื่อคนไทย โดยคนไทย ผลิตในไทย” ได้
การสาธารณสุขไทยจะยืนด้วยขาของตนเองอย่างที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข”วาดหวังไว้ได้ก็ต้องกล้าที่จะปฏิรูปวงการสาธารณสุขไทย นำแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พุทธศักราช 2560-2564 มากางศึกษาบนพื้นฐานที่ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์ ทิ้ง “ทิฐิ – ศักดิ์ศรี” หากไม่เข้าใจไม่มีความรู้ก็ควรสรรหาบุคลากรวงการสาธารณสุขที่มีความรู้ความสามารถเข้าใจแผนแม่บทมาร่วมตั้งสมมุติฐานสร้างแพลตฟอร์มศึกษาต่อยอดวิจัยเพื่อพัฒนาวงการสาธารณสุขไทยให้มีบทบาทสำคัญในระบบสาธารณสุขโลก ถ้ายังปล่อยให้ผลประโยชน์ผุดในสามัญสำนึก ปล่อยให้เวียนว่ายอย่างไม่รู้จบวงจรอุบาทว์ในวงการสาธารณสุขจะมิอาจหมดสิ้นไปได้เลย ผู้บริหารต้องกล้าปฏิรูปนำชีววัตถุมาผลิตสารชีวโมเลกุลเพื่อนำประโยชน์มาใช้ในการสร้างภูมิคุ้มกันมาปกป้องรักษาโรคร้ายต่างๆ ไม่เพียงแค่โควิด-19 เท่านั้น
นี่แหละ!!! ยืนด้วยขาตนเอง “อนุทิน” สำเหนียกสำนึกให้ถูกต้อง อย่าลืมว่า ไวรัสนี้ต้องอยู่กับมวลมนุษยชาติชั่วกัปชั่วกัลป์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี