“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com อุดมการณ์มั่นคง ตรงไปตรงมา” ... ทำโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ นำข้อเท็จจริงมาตีแผ่ทั้งการเมืองบันเทิงเศรษฐกิจรายงานผลกีฬาที่น่าสนใจเที่ยงตรงฉับไว ... ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” มาปฏิบัติภารกิจตามสัญญาเริ่มต้น “บุคคลแนวหน้า”ฉบับนี้ ขอสะสาง “วงจรอุบาทว์ในกระทรวงอุตสาหกรรม” ยุคที่ “รัฐบาลทหารแก่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”ประกาศปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็น “วาระแห่งชาติ” ว่าด้วยเรื่อง ... “ขยะทองคำ” ขุมทรัพย์ก้อนมหึมา “โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)”ที่แพร่ระบาดลุกลาม กัดกร่อนสังคมไทยนำความทุกข์ยากเดือดร้อนให้กับปวงประชาทุกหย่อมหญ้า แต่กลับไม่อนาทรร้อนใจตั้งหน้าตั้งตาแสวงหาผลประโยชน์จนลืมวันตาย!! รวมหัวออกแบบวิธีบริหารจัดการเพื่อตบทรัพย์จากผู้ประกอบการเป็นขบวนการ ยิ่งกว่านั้น “ไต้ก๋งเรือแป๊ะ” ย้ำชัดหนักหนาไม่ “ยุบสภาฯ” ทว่าบรรดาลิ่วล้อก็ออกตัวล้อฟรีกันฝุ่นตลบแอบอ้างความเดิมต้องเก็บยอดส่ง “นาย” อุเหม่!!!อะพิโธ่อะพิถัง กะละมังแตกงานนี้ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้ากระทรวงอุตสาหกรรม” ไม่รู้สึกอนาทร ไม่สำเหนียก การใดเพื่อยับยั้ง หรือทบทวนกลไกในการบริหารจัดการ “ขยะพิษขยะเน่าเหม็น” ที่อยู่รายล้อมรอบตัวท่านจนกลิ่นคละคลุ้งอบอวลบ้างเชียวหรือ??? ...
nn ปัญหาใหญ่ระดับชาติ “การลักลอบทิ้งขยะพิษเถื่อน” ท้าทายกฎหมาย สะท้อนให้เห็นถึงความ “ล้มเหลวด้านคุณธรรมจริยธรรม” ของหน่วยงานที่ผู้มีอำนาจตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” กำกับดูแลใช่หรือไม่ ปริมาณขยะพิษที่เกิดขึ้นแต่ละปี ไม่สัมพันธ์กับธุรกิจโรงงานรับกำจัดขยะพิษ แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากบรรดา “นักวิชาการ” ที่เป็นห่วงสิ่งแวดล้อมกระหึ่มมาอย่างต่อเนื่อง ควรเปิดเสรีส่งเสริม “ผู้ประกอบการกำจัดขยะกากอุตสาหกรรม” เพื่อรองรับมลพิษในอนาคตแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด อ้างเหตุผลคือกฎระเบียบที่สลับซ้ำซ้อน และการให้ดาบเจ้าหน้าที่ใช้ “ดุลยพินิจ” การออกใบอนุญาตประกอบการ และถึงแม้จะได้ (รง.4) มาแล้วก็ใช่ว่าผู้ประกอบการเหล่านี้ จักสามารถบริหารจัดการรับกำจัดขยะได้ด้วยตนเอง ทุกโรงงานล้วนต้องรอผู้มีอำนาจใช้ “ดุลยพินิจ” รับกากเหล่านี้ไปกำจัด ทั้งการฝังกลบ และเผา ในความเป็นจริงโรงงานเถื่อนหลายแห่งอยากเข้าสู่ระบบ ทว่าสำนักกากฯ ก็ตั้งกำแพงปฏิบัติสูงเทียมฟ้า แต่ที่สาหัสกว่าคือ “ดุลยพินิจ” อะไรคือมาตรฐาน อะไรคือตรรกะที่ถูกต้อง เกี่ยวข้องกับ “ธนบัตร” ที่สามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร กับยุทธการดองเค็มใบอนุญาตตั้งแต่ 1 เดือน จนถึง 6 เดือน ช้า-เร็ว มันก็อยู่ที่ความสามารถเฉพาะตัวของนักวิ่งว่าใครใจถึงพึ่งได้จ่ายหนักก็ได้อย่างไวโดยมิชักช้ากระนั้นหรือไม่??? ...
nn น่าสนใจตรงที่แม้จะได้รับ “รง.4” ประกอบการเรียบร้อยแล้วแต่การนำกากเข้าโรงงานเพื่อกำจัดต้องได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานฯ อีกครั้งแล้วอย่างนี้จะอนุญาตให้เขาไปทำธุรกิจอะไร ในเมื่อการกำจัดกากขยะฯ เป็นตาม “ดุลยพินิจ”ทุกขั้นตอน เท่ากับกรอ.คือเจ้าของกิจการทั้งหมด กฎระเบียบลักษณะ “ชงเองกินเอง” พูดง่ายๆ “กรอ.อนุญาตตั้งโรงงาน แต่ไม่อนุญาตให้มีวัตถุดิบไปผลิตเขียนกติกาคล้ายปากว่าตาขยิบ ครั้นปลัดฯได้รับการร้องเรียนมาหนาหูจึงเรียกเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามถึงเหตุความล่าช้า ก็รีบแทงเรื่องโดยเร็ว “ไม่อนุญาต”เสียอย่างนั้น” แล้วจะดองเรื่องไว้เพื่อ!!!...
nn ที่กว่านั้น ก็คือการจัดประกวดแจก “รางวัลเหรียญทอง” ให้ผู้ประกอบการ ก็ไม่ต่างอะไรไปจากการเล่นแร่แปรธาตุ เพราะไม่ได้มีวิธีกระบวนการคัดสรรผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติ มีธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง อาจเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์อย่างน่าละอายเสียมากกว่า ถ้าบุคลากรกรอ.มีสมองคัดสรรได้แค่นี้ก็ควรนำระบบ “ปัญญาประดิษฐ์” (AI) เข้ามาบริหารจัดการ เพราะ AI มันตบทรัพย์ไม่เป็น ไร้กิเลส ตัณหา รับประทานใต้โต๊ะไม่เป็น ซึ่งระบบที่ว่านี้ “การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย” (กนอ.) หน่วยงานร่วมชายคาใช้บริหารจัดการได้เป็นอย่างดี...
nn “ไม้หน้าสาม” ขอทวนความจำให้คนกรอ.ได้สำเหนียก ว่ามีอดีตผอ.ท่านหนึ่ง ต้องชื่นชมกับผลงานสำคัญๆ มากมายที่ไม่สู้ทนเห็นพฤติกรรมเพื่อนร่วมงานรุมทำลายชาติบ้านเมือง โดยผอ.ท่านนี้สามารถปกป้องผลประโยชน์ชาติไม่ให้นักลงทุนต่างชาติ ฝรั่ง ญี่ปุ่น และจีน หอบเงินลงทุนนับแสนล้านบาทหนี ครั้งนั้น “บริษัทข้ามชาติที่ลงทุนในภาคตะวันออกเกิดปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารสูญหายแต่มีการทำสำเนาเก็บไว้ เมื่อนำมาแสดงแทนตัวจริง หัวหน้าส่วนรายหนึ่งไม่ยอมปล่อยผ่าน อ้างว่าเอกสารไม่ใช่ต้นฉบับ พร้อมตั้งสนนราคาค่า “ดุลยพินิจ”ในการพิจารณาอนุญาตกว่า 15 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติรายนั้นปฏิเสธไม่ต้องการเข้ามาวังวนระบบส่วยราชการ “หัวหน้าส่วนฯ” นายนั้นยังคงดึงดันใช้“ดุลยพินิจอุบาทว์” จนผอ.ต้องตบโต๊ะเรียกเอกสารทั้งหมดมาจัดการหลังจากถูกดึงเรื่องมาครึ่งปี เซ็นใบอนุญาตออกไปทันที” ด้วยเหตุผลที่ว่า ข้อมูลในสำเนาสามารถตรวจสอบต้นขั้วที่สำนักงานเขตได้ กรณีนี้ผู้จัดการบริษัท ซึ่งเป็นคนไทยเล่าว่านายฝรั่งบัญชาว่าถ้าวันนี้คุยกันไม่รู้เรื่องยังต้องมี “ดุลยพินิจด้านธนบัตร” จะเลิกโครงการแล้วย้ายไปลงทุนที่ประเทศเวียดนามแทน เดชะบุญที่ยังโชคดีผอ.ท่านนั้นใช้ “ดุลยพินิจคุณธรรม” เซ็นให้รับใบอนุญาต...
nn “ไม้หน้าสาม” ก็นึกว่าเอวังด้วยประการฉะนี้หลัง “ศาลพิจิตรตัดสิน” ให้ “พระชัยวิทย์ สมขาว พระป่าสายธรรมยุต” ออกจากบ้านพักของข้าราชการบำนาญครู 2 สามีภรรยา “วีระ-อุไร น่าบัณฑิต” จากกรณีพระชัยวิทย์ฟ้อง 2 สามีภรรยาให้รีบถวายที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์เพื่อสร้าง “วัดป่าน่าบัณฑิต” โดยศาลมีคำสั่งให้ “พระชัยวิทย์”ออกจาก “พื้นที่บ้านพักส่วนตัวของ 2 สามีภรรยา” โดยให้พระชัยวิทย์ไปอยู่ในพื้นที่วัด ซึ่ง “พระชัยวิทย์”ก็ยอมออกจากบ้านพักส่วนตัวหลังดังกล่าวนั้น ทว่ากลับนำแม่ชี 3 คนมาพักอาศัยแทน “ไม้หน้าสาม” ยังได้รับข้อร้องเรียนมาล่าสุดว่า ทางสองสามีภรรยาได้รับหนังสือทวงถามค่าไฟฟ้าบ้านพักหลังดังกล่าวว่าไม่ได้จ่ายค่าไฟฟ้าจากรหัสเครื่องวัด 30585844 BTUK00041 จำนวน 3,100 บาท72 สตางค์ อีกต่างหาก และยังมีบิลเรียกเก็บค่าไฟอีกเกือบพันบาท รวมแล้วสี่พันกว่าบาท ทวงถามพระชัยวิทย์ก็ตีมึนความนี้โบราณท่านว่า “เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่งเอากระดูกมาแขวนคอ” โดยแท้...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม”ฝากความเคลื่อนไหวโครงการดีๆ สักโครงการ “เรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า - กฟผ.ชลพัฒน์ 1 และ 2” โดยความร่วมมือพัฒนาจาก “การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย”ในระบบขนส่งทางน้ำ ซึ่งเป็นพลังงานที่สะอาดก่อนขยายผลสู่การใช้ประโยชน์ของภาคประชาชน เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง“ล้อ ราง เรือ” ตามนโยบายของ “ไต้ก๋งเรือแป๊ะและรัฐบาลทหารแก่” ต่อไป...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี