เสมือนหนึ่งว่าการชุมนุมของกลุ่มมวลชนที่สารพัดเรียกหาตัวเอง ทั้ง “เยาวชนปลดแอก, กลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, กลุ่มทะลุฟ้า, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย และอีกหลากหลายสายพันธุ์” จะกลายเป็นการจลาจลซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้เอือมระอาแก่ชาวบ้านในแถบสามเหลี่ยมดินแดง(พื้นที่การชุมนุมและก่อเหตุจลาจล) แน่นอนการชุมนุมเป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงออกในการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ทว่าประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่เรียนรู้มาแต่อดีตถึงปัจจุบันนั้นแทบไม่เคยเกิดขึ้นอย่างม็อบถ่อยสถุลเยี่ยงปัจจุบันนี้

แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังควบคุมสถานการณ์ไม่เพลี่ยงพล้ำจนเกิดความเสียหายถึงแก่ชีวิต แต่การปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูแลการชุมนุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแทบเสียเกียรติยศและศักดิ์ศรีไปสิ้น ไม่แน่ใจด้วยซ้ำไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนี้จำเนื้อหาของเพลงมาร์ชผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้หรือไม่ โดยเฉพาะช่วงที่ว่า “ไม่ยอมเป็นมิตร ผู้ผิดกฎหมาย ปราบโจรผู้ร้าย กล้าตายเรื่อยมา เนื้อของเราเราเชือด พร้อมทั้งเลือดเราพลี เอาชีวีของเราเข้าแลกมา เพื่อประชาดำรงสุขสถาพรไป”

วันนี้ปวงประชาดำรงสุขสถาพรหรือไม่ เราเชื่อว่าภาพที่ปรากฏแก่สาธารณชนในทุกผ่านสื่อแขนงต่างๆ มันบอกทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แน่นอน... ปฏิบัติหน้าที่โดยละม่อมเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย แต่เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินปวงประชาที่ผู้รักษากฎหมายประกาศเอาชีวิตเข้าแลก ... ทุกวันนี้โลกวิวัฒนาการรุดหน้าไปมากแล้ว

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เราได้เห็นความสมานสามัคคีของคนไทยจนเป็นข่าวเกรียวกราวและเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่วโลกกับความเป็นนักสู้ใน “วีดีโอเกมที่ชื่อ POP CAT” หรือที่มีความพยายามบอกกันว่า โอลิมปิกเกมส์ของชาวเนต เป็นเกมที่สามารถเล่นได้ทั้งบนเว็บเบราเซอร์ ในคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เล่นง่ายๆ แค่คลิกไปเรื่อยๆ แมวบนหน้าจอก็จะเปลี่ยนจากยิ้มเป็นอ้าปาก และนับคลิกไปเรื่อยๆ แม้ว่าเราจะออกจากหน้าต่างเดิมก็ตาม แต่ก็ยังคงกลับมานับยอดต่อเนื่องให้อยู่ดี และสามารถกดพร้อมๆ กันหลายนิ้วได้ด้วย นี่คือความยอดเยี่ยมของระบบที่โปรแกรมเมอร์คนไทยสมควรศึกษาให้มาก

ถามว่าเราเห็นอะไรในเกมส์นี้ เราอยากบอกผู้อยู่เบื้องหลังมวลชนกลุ่มต่างๆ ที่ปลุกปั่นชักใยสนตะพายเยาวชนและมวลชนเหล่านั้นลงสู่ท้องถนนว่า ยุติการยุยงปลุกปั่นจนเกิดการปะทะบาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพื่อแบกศพโหนกระแส แต่หันมาร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มในรูปแบบคล้ายคลึงกับวีดีโอเกมส์นี้ เพื่อให้สังคมไทยได้แสดงพลังแสดงอาการเห็นด้วยไม่เห็นด้วยกับการเรียกร้องในเรื่องต่างๆ แทนการชุมนุมที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ลดการเผชิญหน้าและลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา จักดีกว่าหรือไม่ ส่วนจะดำเนินการอย่างไรอีแอบทั้งหลายการศึกษาสูงก็ลองไปประยุกต์ดู

เราเชื่อว่าบุคลากรในสังคมไทยมีความสามารถในการเขียนแพลตฟอร์มเหล่านี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนักเหมือนที่เขียนแพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” หรือแพลตฟอร์มของจังหวัดต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อลงทะเบียนฉีดวัคซีน ผลที่ได้คือข้อเท็จจริงที่ต้องยอมรับ โดยไม่ต้องมาสำรอกอวดอ้างความต้องการของสังคมไทย

เราเชื่อว่าข้อเสนอนี้หากได้รับการวิเคราะห์ศึกษาพัฒนาต่อยอดปฏิบัติจะเป็นแนวทางหนึ่งหยุดยั้งการเผชิญหน้าจนกลายเป็น “สงครามกลางเมือง” อย่างที่มีความหวาดวิตกอยู่ก็เป็นได้