โครงการขุดคลองไทยแนว 9 A เชื่อมระหว่างทะเลอันดามันกับอ่าวไทย กลับมาเป็นประเด็นข่าวอีกครั้ง
1. ตามแนวคิดโครงการคลองไทยแนว 9 A นั้น จะผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด คือ สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช ตรัง และกระบี่รวมระยะทาง 135 กิโลเมตร
อ้างว่า จะช่วยย่นระยะทางการเดินเรือได้ 1,200-3,500 กิโลเมตร และยังมีข้อเสนอให้มีการจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษคลองไทยขึ้นบริเวณปากคลองไทย รวมงบกว่า 2 ล้านล้านบาท
2.การพิจารณาความคุ้มค่าของโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้จะต้องพิจารณาให้รอบคอบรอบด้าน มิใช่ตาโตแต่เฉพาะกับมูลค่าผลประโยชน์ที่เสกสรรขึ้นมากล่าวอ้างเท่านั้น แต่จะต้องตระหนักถึงความเสี่ยง ผลกระทบ ความคุ้มค่า และทางเลือกเชิงนโยบายอื่นๆ ด้วย
3.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊คกระตุกให้คิดไว้เบื้องต้น ระบุว่า
“มีข่าวเรื่องคลองไทยอีกครั้ง จึงอยากอัพเดทให้เพื่อนธรณ์ในส่วนที่ไม่มีในข่าว
- การศึกษาความเป็นไปได้ในการเชื่อมต่ออ่าวไทย/อันดามัน ดำเนินการโดยสภาพัฒน์ มาตั้งแต่ต้นปี 64 มีกำหนดเสร็จต้นปีหน้า
- การศึกษาทำโดยศูนย์บริการวิชาการ จุฬาฯ มีการรายงานความก้าวหน้าเป็นระยะ
- การศึกษาไม่ใช่มีแค่คลองไทย ยังรวมความเป็นไปได้ในโครงการอื่นๆ เช่น แลนด์บริดจ์
- ทีมจากสภาพัฒน์และคณะกรรมการพิจารณาฯ ลงพื้นที่ทั้งฝ่ายอ่าวไทย/อันดามัน ในเดือนพฤศจิกายน/ธันวาคม
- ยังมีโครงการคู่ขนาน ในส่วนของทรัพยากรทางทะเล ทำโดยคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ สนับสนุนโดย สวทช. กรมทะเล และกรมอุทยาน ทำการศึกษาสิ่งมีชีวิตปากคลองไทย ฝั่งอันดามัน
- ผมเพิ่งจัดประชุมเพื่อนำเสนอข้อมูลเมื่อสัปดาห์ก่อน มีนักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมหลายสิบท่าน เช่น กรมทะเล กรมอุทยานหน่วยงานท้องถิ่น จนถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น IUCN
- การศึกษาทำเพื่อปรับฐานข้อมูลความหลากหลายทางทะเล/สมุทรศาสตร์ ฯลฯ ให้มีรายละเอียดและทันสมัย สำหรับการพิจารณาที่รอบด้าน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนบางโครงการในอดีตที่ข้อมูล
สิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ สิ่งแวดล้อม ไม่เพียงพอ และอาจทำให้เกิดความสงสัยในฐานข้อมูลทรัพยากร/สิ่งแวดล้อม
- โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ เสร็จต้นปีหน้า จึงไม่สามารถลงรายละเอียดได้ แต่บอกได้ว่ามีการพบสิ่งมีชีวิตเพิ่มเติมจากฐานข้อมูลเดิมของสผ. บางชนิดเป็นสัตว์ที่พบเป็นครั้งแรกในไทย
- ในส่วนของสัตว์ทะเลหายาก marine mammal ข้อมูลจากกรมทะเลระบุว่า พบในพื้นที่ 19 ชนิดจาก 28 ชนิดของไทย
โดยพบสัตว์ที่ IUCN จัดให้อยู่ในสถานะใกล้สูญพันธุ์ (EN) 2 ชนิด
- มีรายงานสัตว์สงวนทางทะเลในพื้นที่ 4 ชนิดจาก 5 ชนิดของไทย
ฯลฯ
สุดท้าย การตัดสินใจสำหรับโครงการขนาดยักษ์ คงไม่ใช่เพียงแค่ใคร “คิด” อะไร
การตัดสินใจต้องอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาข้อมูลให้รอบด้าน
ข้อมูลที่ใช้พิจารณา จึงต้องทันสมัยและมีรายละเอียดมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
นั่นคือเหตุผลที่พวกผมทำโครงการชีวิตปากคลองไทยฯ โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน
เพราะความคุ้มค่าจะต้องอยู่บนรากฐานที่เราไม่ “ด้อยค่า” ธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อมทางทะเลครับ”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี