ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยโดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย เป็นศูนย์กลางของลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งมีขีดความสามารถที่จะขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยวไปมา 6 ประเทศ คือ จีน เมียนมา ลาว ไทย กัมพูชา และเวียดนามได้
ขณะนี้ประเทศไทยตกรถไฟเส้นทางสายไหมไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเส้นทางรถไฟเส้นทางสายไหมไทย-จีน เพิ่งสร้างได้เพียง 3.5 กิโลเมตร แถบเขาใหญ่ ยังไม่สามารถเชื่อมต่อกับใครได้ อีก 6 ปีข้างหน้าก็จะแล้วเสร็จเพียงช่วงกรุงเทพฯ-โคราชซึ่งเชื่อมต่อกับใครไม่ได้เหมือนกัน
และขณะนี้ไทยก็ตกเรืออีกอย่างหนึ่งแล้ว เพราะหลังจากได้ลงนามเป็นภาคีในปฏิญญาณซานย่า เพื่อพัฒนาแม่น้ำโขงกับจีน ลาว เมียนมา กัมพูชาและเวียดนามแล้ว เราก็เบี้ยวไม่ลงนามในแผนปฏิบัติการพัฒนาแม่น้ำโขง ทำให้ 5 ประเทศที่เหลือเขาร่วมกันพัฒนาต่อไป
ทำให้แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำแห่งการเดินเรือท่องเที่ยวขนาดยักษ์ที่รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาท่องเที่ยวในแถบลุ่มแม่น้ำโขงแต่มาไทยไม่ได้ และยังเป็นแม่น้ำแห่งการเดินเรือขนส่งสินค้าระวางขับน้ำถึง 500 ตัน ที่จะขนส่งสินค้าจาก 5 ประเทศและทั่วโลกไปมาถึงกัน แต่ไทยใช้ประโยชน์ไม่ได้
จึงเป็นอันว่าไทยตกทั้งรถไฟ ตกทั้งเรือ ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและขนส่งสินค้าไปขายทั่วโลก ซึ่งเป็นความเสียหายใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ ซึ่งเกิดจากการเบี้ยวข้อตกลงตาม MOU ไทย-จีน ว่าด้วยข้อตกลงในการสร้างทางรถไฟเส้นทางสายไหมไทย-จีน และเบี้ยวแผนปฏิบัติการตามปฏิญญาซานย่า
การเบี้ยวดังกล่าวนั้นจะเกิดขึ้นเพราะความโง่เขลาเบาปัญญาหรือเพราะความเป็นนักเบี้ยวหรือเพราะถูกกดดันจากต่างชาติเพื่อให้ปิดประเทศทางด้านเหนือและอีสานก็ยากที่จะกล่าว แต่ที่แน่ชัดก็คือความเสียหายทั้งหลายนั้นบังเกิดแก่ประเทศชาติและประชาชนเป็นส่วนรวม
เพราะเหตุที่ไทยไม่สามารถเชื่อมรถไฟเส้นทางสายไหมไทย-จีน ไม่สามารถเชื่อมต่อการขนส่งทางน้ำทางลุ่มแม่น้ำโขงได้ จึงคงเหลือแต่ทางอากาศ
ซึ่งก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมทั้งประเทศจีน จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยก็สามารถบินตรงมายังสนามบินนานาชาติเชียงรายหรือเชียงใหม่ได้ จากที่นี่ก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยและข้ามฟากแม่น้ำโขงที่ท่าเรือเชียงแสนและเชียงของไปท่องเที่ยวยังประเทศลาว ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำนั้นเป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างจีนกับลาว มีสถานกาสิโนที่ใหญ่และมาตรฐานที่สุดในย่านนี้ มีร้านค้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ และประเทศจีน มีภัตตาคารร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงาม
ครั้นเมื่อไทยเบี้ยวข้อตกลงรถไฟเส้นทางสายไหมไทย-จีน และเบี้ยวข้อตกลงตามปฏิญญาซานย่าจึงทำให้เกิดแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำครั้งใหญ่ที่สุด จะเรียกว่าเป็นเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจไทย-ลาว-เมียนมา ก็ว่าได้
การพัฒนาครั้งใหญ่ที่สุดก็คือการก่อสร้างพัฒนาเขตเศรษฐกิจนี้ให้เป็นแหล่งเศรษฐกิจการค้าชายแดนที่สมบูรณ์ จะมีการลงทุนสร้างห้างสรรพสินค้าปลอดภาษีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ ที่จะมีสินค้าจากทั่วโลกและจากประเทศจีนมาจำหน่ายขายในพื้นที่นี้ มีการสร้างโรงแรมและจัดระบบการท่องเที่ยวที่ใหญ่โตกว้างขวางในพื้นที่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจดังกล่าว
ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งหลายจากทั่วโลกและจากประเทศจีน จึงมีการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติขึ้นที่เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำนี้ในพื้นที่บ้านก่อแก้ว โดยจีน-ลาว ลงทุนร่วมกัน เป็นสนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ที่รองรับเที่ยวบินจากทั่วโลกได้ และการก่อสร้างได้ดำเนินการไปอย่างรวดเร็วจนแล้วเสร็จ
สายการบินลาวได้ทดสอบการบินไปยังท่าอากาศยานบ่อแก้วแล้วเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน และจะเปิดให้บริการในต้นปีหน้าเป็นต้นไป
ทันทีที่สนามบินนานาชาติบ่อแก้วเปิดให้บริการแล้ว ย่อมเป็นที่แน่นอนว่าจะเกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เพราะนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกและจากประเทศจีนซึ่งเคยบินมาลงที่ท่าอากาศยานเชียงรายและเชียงใหม่ จากนั้นก็ลงเรือข้ามแม่น้ำโขงไปยังเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ ไม่ว่าจากท่าเรือเชียงแสนหรือท่าเรือเชียงของก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาใช้ท่าอากาศยานเชียงรายและเชียงใหม่ต่อไป
เพราะสามารถบินตรงไปลงที่สนามบินนานาชาติบ่อแก้วได้ จากนั้นก็เข้าไปท่องเที่ยวและใช้บริการสารพัดที่เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำ จากนั้นก็สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเมียนมา ประเทศจีน หรือประเทศลาวได้ตามใจชอบ แต่ในขณะเดียวกันหากจะมาประเทศไทยก็ต้องนั่งเรือข้ามฟากมาที่ประเทศไทยซึ่งซบเซาลงอย่างถนัดตา
ใครไปในพื้นที่แถบนั้นในเวลายามค่ำให้ลองไปยืนดูที่ฝั่งแม่น้ำโขงเถิด ก็จะเห็นว่าฝั่งไทยเงียบสงัด มีแต่ลม แม่น้ำ พลิ้วโผยโชยมาให้เย็นเป็นที่สบาย แต่ฝั่งตรงกันข้ามที่เป็นเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมทองคำนั้นแสงไฟสว่างไสวไม่ต่างกับฮ่องกงในยามราตรี
ทีนี้แหละภาคเหนือซึ่งเคยคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวและการค้าขายก็จะได้รับผลกระทบจนย่อยยับตามๆ กัน นี่คือผลของความเป็นนักเบี้ยว ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลที่จะต้องรีบเร่งหาทางแก้ไขโดยด่วนที่สุด ก่อนที่จะเกิดหายนะไปมากกว่านี้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี