ใครที่ติดตามข่าวคราวการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศในภูมิภาคนี้อย่างต่อเนื่องแล้วก็จะเห็นความไม่ปกติ และย่อมตระหนักได้ถึงความเสียหายและผลกระทบ
ที่ร้ายแรงที่จะบังเกิดขึ้นแก่ประเทศไทย
เป็นเรื่องที่รัฐบาลและทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนชาวไทยต้องหันมาให้ความใส่ใจและหาทางแก้ไขให้ทันท่วงทีก่อนที่ประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศ Landlock เหมือนประเทศลาวในอดีต
ที่ผ่านมามีการพูดจากันในเรื่องนี้หลากความคิดหลายความเห็น บ้างก็จริง บ้างก็เท็จ บ้างก็เป็นการแก้ตัวหรือปกป้องความผิดพลาด แต่ในที่สุดความจริงก็ประจักษ์ชัดแล้วว่ากำลังมีการปิดล้อม
ประเทศไทยในด้านคมนาคม ซึ่งถ้าหากแก้ไขไม่ทันท่วงทีก็จะเกิดอันตรายใหญ่หลวงต่อผลประโยชน์แห่งชาติ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทย
การคมนาคมทางบกนั้นคือการคมนาคมทางรถไฟและทางรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันนี้การคมนาคมทางรถยนต์ระหว่างประเทศลดความสำคัญลงมากเพราะต้นทุนสูง ค่าใช้จ่ายสูง เสียเวลามาก และทำให้การโดยสารหรือการขนของได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
ประเทศไทยของเราได้ปิดเส้นทางคมนาคมทางบกเสียเอง โดยความผิดพลาดของเราเอง แต่ความผิดพลาดนั้นจะเกิดจากอะไรก็เป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบกันให้ดี ที่สำคัญคือการเบี้ยวข้อตกลง การเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตามข้อตกลงที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้อนุมัติไว้และบิดตะกูดกันจนเป็นคนละเรื่อง
เป็นผลให้ประเทศไทยยังไม่สามารถเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงกับจีนและไปยังทั่วโลกได้ ในขณะที่โครงการเดียวกันนี้ของประเทศลาวได้เปิดการเดินรถแล้ว ทั้งที่ทำข้อตกลงหลังประเทศไทยร่วมสองปี และส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งด้านการท่องเที่ยวและด้านการขนส่งสินค้า
ผลกระทบจากความบูดเบี้ยวดังกล่าวนั้นได้กระทบไปถึงการขนส่งทางรถยนต์เพราะเส้นทางที่เคยใช้กลับจะใช้ไม่ได้ และถูกกำหนดให้บรรดาสินค้าไทยต้องส่งผ่านประเทศลาวไปขึ้นรถไฟที่เมืองบ่อเต็นของประเทศลาว ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยนับร้อยกิโลเมตร
หรือหากจะไปทางเวียดนามก็ต้องขนส่งทางรถยนต์จากหนองคายหรือมุกดาหารผ่านกลางประเทศลาวไปยังชายแดนเวียดนามที่เมืองดั่งดง และถ่ายของขึ้นรถไฟแล่นไปครึ่งประเทศเวียดนามไปทางเหนือเข้าประเทศจีนที่ด่านผิงสิงก่วนที่มณฑลกวางสี ซึ่งเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย และเป็นไก่รองบ่อนให้กับลาวและเวียดนาม
ส่วนเส้นทางน้ำก็มีอยู่สองทาง คือจากแหลมฉบัง มาบตาพุด ออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งนับวันยิ่งได้รับผลกระทบจากการสร้างท่าเรือน้ำลึกของกัมพูชาของเวียดนามและพม่า เป็นเหตุให้มีการย้ายการลงทุนไปยังประเทศเหล่านั้น
อีกทางหนึ่งก็คือทางแม่น้ำโขง ซึ่งไทยได้เข้าร่วมแผนพัฒนาแม่น้ำโขงที่จะรองรับเรือท่องเที่ยวยักษ์ที่ขนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาประเทศไทย และขนส่งสินค้าจากไทยไปจีนและไปทั่วโลก โดยเรือขนส่งระวางขับน้ำ 500 ตัน แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลาลงนามในแผนปฏิบัติการที่กัมพูชาเราก็เบี้ยวเขาเสียเฉยๆ ทำให้ 5 ประเทศที่เหลือเขาร่วมกันพัฒนากันอย่างเอิกเกริก
ทำให้ประเทศไทยไม่ได้รับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโดยเส้นทางแม่น้ำโขง และไม่สามารถขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำโขงไปยัง 5 ประเทศและทั่วโลกได้
มีผลเป็นการปิดเส้นทางคมนาคมทางน้ำซึ่งไทยได้ประโยชน์สูงสุดเสียเอง และได้แต่ยืนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงชะแง้มอง 5 ประเทศเขารับเงินจากนักท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าขายกันอย่างสนุกสนาน และเป็นเรื่องน่ารันทดใจสักเพียงไหน
ส่วนการขนส่งทางอากาศนั้น นอกจากท่าอากาศยานในกรุงเทพฯ แล้ว นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกก็สามารถบินมาลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่และเชียงรายเพื่อท่องเที่ยวภาคเหนือและไปเล่นการพนันที่บ่อนฝั่งประเทศลาวและพม่าได้ เป็นการค้ำจุนเศรษฐกิจภาคเหนือมานานแล้ว
แต่เพราะผลจากการบูดเบี้ยวรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และแผนปฏิบัติการลุ่มแม่น้ำโขง จึงทำให้จีน ลาว ได้โอกาสสร้างสนามบินนานาชาติขึ้นที่เมืองบ่อแก้ว ห่างจากเชียงแสนไปไม่กี่นาที เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้าเขตเศรษฐกิจนั้นแทนที่จะมาประเทศไทย นี่ก็คือการปิดการคมนาคมทางอากาศของภาคเหนือที่จะมีผลกระทบอีกยาวไกล
ส่วนทางภาคใต้นั้นเมื่อมีการบูดเบี้ยวรถไฟเส้นทางสายไหมไทย-จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไนและมาเลเซียเขาก็เดือดร้อนเพราะถูกตัดโอกาสรับนักท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าตามไปด้วย
ดังนั้นประเทศในอาเซียนตอนใต้จึงเปิดการเจรจากับประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมภูมิภาคนั้นกับรถไฟเส้นทางสายไหม ซึ่งขณะนี้การเจรจาเริ่มปรากฏผลชัดว่าอาจมีการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงในเส้นทางสายไหมจากกัมพูชาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ไปยังสิงคโปร์หรือไม่ก็มาเลเซีย โดยอาจสร้างสะพานรถไฟหรืออุโมงค์ใต้ทะเล ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องยากลำบากในปัจจุบันนี้
อาจมีการเชื่อมต่อจากเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ของกัมพูชาไปยังมาเลเซียแล้วแยกเป็นสองสายสายหนึ่งไปสิงคโปร์ อีกสายหนึ่งไปบรูไนและอินโดนีเซีย หรืออาจเชื่อมไปยังสิงคโปร์แล้วเชื่อมต่อกับมาเลเซีย บรูไน และอินโดนีเซีย ทำให้เส้นทางสายไหมไม่จำเป็นต้องผ่านประเทศไทยอีกต่อไป และไทยก็จะกลายเป็น Landlock แทนประเทศลาวอย่างสมบูรณ์
แล้วจะแก้ปัญหานี้กันอย่างไร? เวลาไม่คอยท่าแล้ว!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี