กลายเป็นวิวาทะตอบโต้กันอย่างผู้ไร้สปิริต ไร้วุฒิภาวะ ไร้ความรับผิดชอบ ไร้สามัญสำนึก ที่เขาเรียกกันว่า “เดรัจฉาน” จากเหตุการณ์การเกิดการปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ

สภาล่มองค์ประชุมไม่ครบ ไม่ใช่เพิ่งเกิดในสภาฯชุดนี้ แต่ล่มมาแล้ว 15 ครั้ง

เข้าใจได้ว่าการนับองค์ประชุมเป็นอาวุธหนึ่งของพรรคฝ่ายค้านที่มีเสียงข้างน้อยจะใช้กระตุ้นการบริหารของฝ่ายรัฐบาลที่แน่นอนว่าต้องมีเสียงสนับสนุนเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็คือ ตีรวนให้การดำเนินการเป็นไปอย่างทุลักทุเล ซึ่งทำให้เกิดความยากลำบากในการบริหารประเทศ

พรรคเพื่อไทยบอกว่า นี่คือเกมที่จะตอกย้ำ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ควรยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่ และเป็นการตอกย้ำ ขณะที่ “พรรคก้าวไกล” ออกมาขย้ำน่อง “พรรคเพื่อไทย” ทันทีว่าหักหลังเพื่อนเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง

ท่านทั้งหลายจำได้หรือไม่ว่า เมื่อครั้งที่พวกท่านมีสภาพแค่ผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้น ท่านและคณะของท่านได้สัญญิงสัญญาวิงวอนขอโอกาสประชาชนในพื้นที่ของพวกท่านไว้อย่างไร ก่อนที่ประชาชนเหล่านั้นจะตัดสินใจผิดกากบาทเลือกท่านมากอบโกยผลประโยชน์อย่างที่ปรากฏ แม้ก่อนปฏิบัติหน้าที่จะมีการปฏิญาณสาบานตนด้วยซ้ำไป แล้วท่านทั้งหลายปฏิบัติตามคำปฏิญาณนั้นหรือไม่

ฤๅนี่คือพฤติกรรมปกติของนักเลือกตั้งไฟลัมไม้หลักปักขี้เลน หรือ ถ่มน้ำลายรดฟ้าก็ไม่ผิดนัก

ตรรกะในการตอบโต้ให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชนนั้นไม่แน่ใจว่า “ภูมิธรรม เวชชยชัย อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย” และ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่” 2 นักการเมืองผู้คร่ำหวอดในรัฐสภาออกมาแสดงต่อสาธารณชนเพื่อกดดันและตอกย้ำให้รัฐบาลตระหนักถึงมารยาทและความรับผิดชอบทางการเมือง เพื่อให้ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่นั้น ท่านทั้งสองคิดว่าเป็นวิธีการและการดำเนินการที่ถูกต้อง หรือท่านยัง “หวงกระดูก หวงเงินรายได้และผลตอบแทนที่ได้รับ” ซึ่งเป็นเงินภาษีประชาชนทั้งหมด มัน “เสียข้าวสุก”มากมาย

ย้อนกลับไปก่อนการรัฐประหาร “รัฐบาลรักษาการของนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล” ในปี 2556 “พรรคประชาธิปัตย์” ภายใต้การนำของ “บุรุษอหังการไม่พายเรือให้โจรนั่ง-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เป็นแกนนำพรรคฝ่ายค้านงัดไม้ตายตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญจี้ “นายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่เนื่องจากทรยศประชาชน-ไร้สปิริต-บิดเบือน โดยสส.ของพรรคทั้ง 153 คนลาออก หมายถึง ไม่ทำหน้าที่ตามที่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็ลาออกไม่รับเงินเดือนและผลประโยชน์ตอบแทนต่างๆ เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนให้รัฐบาลมีการจัดการเลือกตั้งใหม่

ท่านทั้งหลายทราบไหมสิ่งนี้เรียกกันว่า สปิริต ที่สละผลประโยชน์ส่วนตน เพื่อผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมาย แต่สิ่งที่นักการเมืองฝ่ายค้านกระทำอยู่นั้นเขาเรียก สันดานแปลว่าอุปนิสัยใจคอที่มีมาแต่กำเนิดอาจผ่านทางสายเลือด ต่างกับนิสัยที่แปลว่าการกระทำที่เคยชิน ไม่รู้จริง หรือปัญญามีแค่นี้

เหมือน “จ่าเกลียดสารวัตร” เลยไม่รับแจ้งความ ไม่ทำคดี นั่งดูมือถือแชทไลน์ ไปวันๆ เพื่อกดดันสารวัตร…จะได้ลาออก