ซารา ดูเตอร์เต ลูกสาวคนโปรดของ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ เมื่อใกล้จะพ้นจากอำนาจพ้นจากตำแหน่งในวาระหกปี นายดูเตอร์เต ก็พยายามผลักดันให้ลูกสาวลงสมัครชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดี เพื่อที่หากเธอได้รับเลือกตั้งขึ้นมาจะได้ช่วยเหลือบิดาจากคดีความและปัญหารุมเร้ารอบด้าน

เนื่องจากว่าศาลอาญาระหว่างประเทศกำลังสอบสวนดำเนินคดีนายดูเตอร์เต จากนโยบายสงครามยาเสพติดของเขาที่ทำให้มีคนตายนับหมื่นคนแต่ตัวเลขเป็นทางการแจ้งว่าแค่ประมาณ 5,600 คน นอกจากนั้น ดูเตอร์เต กำลังถูกสอบสวนในกรณีคอร์รัปชั่นที่ แมนนี ปาเกียว อดีตแชมเปี้ยนนักมวยสากล ผู้เคยเป็นสหายกลายเป็นศัตรูทางการเมืองกล่าวหาว่าเขาคอร์รัปชั่น ประกอบกับคู่แข่งทางการเมืองโจมตีว่าเขาเอาใจจีนเกินไป

นายดูเตอร์เตได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2559 ตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ เขาได้แสดงความโอหังไล่ฐานทัพสหรัฐอเมริกาให้พ้นจากเกาะฟิลิปปินส์ นอกจากนั้นยังสาปแช่งด่าว่าท้าทายประธานาธิบดีบารัค โอบามา และประกาศตัดญาติขาดมิตรกับอเมริกา หันมาคบค้าหาประโยชน์ร่วมกับจีนบนพื้นที่ขัดแย้งในทะเลจีนใต้

แต่พอใกล้หมดวาระประธานาธิบดีนายดูเตอร์เตกลับมาเป็นญาติดีกับวอชิงตัน เพราะรู้ว่าสหรัฐฯเป็นตัวตั้งตัวตีที่นำคดีสงครามยาเสพติดขึ้นสู่ศาลอาญาระหว่างประเทศ

เมื่อประสบปัญหารอบด้าน นายดูเตอร์เต จึงพยายามผลักดันลูกสาวคนโปรด ซารา ดูเตอร์เต ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ว่าฯเมืองมินดาเนาให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 พ.ค. นี้

จากการสำรวจของ PuleAsia สามครั้งในปี 2564ผลปรากฏว่าซารา มีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งทั้งสามครั้ง นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ บองบองลูกชายของอดีตจอมเผด็จการมาร์กอส มีคะแนนนิยมตามมาเป็นอันดับสอง

ครอบครัวดูเตอร์เตกับครอบครัวมาร์กอสเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดแนบแน่นกัน เพราะครอบครัวมาร์กอส ซาบซึ้งและไม่ลืมบุญคุณที่นายดูเตอร์เตอนุญาตให้ศพของมาร์กอสผู้ล่วงลับได้ฝังในสุสานวีรชนแห่งชาติ

แต่นายดูเตอร์เต อ้อนวอน บังคับ ขู่เข็ญอย่างไรซาราก็ไม่ยอมสมัครชิงตำแหน่ง ประธานาธิบดี ซาราอาจคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ภาระที่ต้องช่วยเหลือบิดามันหนักหนาสาหัสอย่างไร ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทุกคนประกาศล่วงหน้าว่า จะผลักดันให้ความร่วมมือกับศาลอาญาระหว่างประเทศดำเนินคดีนายดูเตอร์เตให้ถึงที่สุด แต่สำหรับ บองบอง ซึ่งเป็นพันธมิตรกับดูเตอร์เตประกาศว่าเขาไม่ให้ราคาศาลอาญาระหว่างประเทศ

“เจ้าหน้าที่ศาลอาญาระหว่างประเทศมาเยือนฟิลิปปินส์ได้ในฐานะนักท่องเที่ยวเท่านั้น (ไม่ใช่มาสอบสวน)

เมื่อได้ยิน บองบอง ประกาศขัดขวางการพิจารณาคดีของศาลอาญาระหว่างประเทศในกรณีสงครามยาเสพติดของ นายดูเตอร์เต ซาราดีดลูกคิดรางแก้วแล้วได้ข้อสรุปว่า ให้พันธมิตรช่วยคดีบิดา ดีกว่าทำเองส่วนเธออยู่เบื้องหลังนั่งดูอยู่ใกล้ๆไม่วางตา ซารา ดูเตอร์เต เลยตัดสินใจลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี

เมื่อซารา สมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดี คะแนนนิยมของบองบองก็นำโด่งขึ้นมาทันที ผลของการสำรวจ PuleAsia เดือน ก.พ. 2565 พบว่าทั้งซาราและบองบอง มีคะแนนนิยมทิ้งห่างคู่แข่งหลายช่วงตัวแมนนี ปาเกียว นักมวยสากลขวัญใจชาวฟิลิปปินส์และแฟนมวยทั่วโลกกับผู้ว่าฯ มะนิลา มีคะแนนตามมาห่างๆ ในอันดับที่ห้าเท่าๆกัน

ครอบครัวดูเตอร์เต มีคะแนนนิยมอยู่ทางภาคใต้โดยเฉพาะเมืองมินดาเนา ส่วน บองบอง มีคะแนนนิยมอยู่ทางภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดอีลากัง ฮีโลโคส ซึ่งเขาเคยได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯถึงสองสมัยก่อนมาทำงานการเมืองระดับชาติในฐานะวุฒิสภา

เมื่อสองพันธมิตรประสานมือกัน ตำแหน่ง ประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี อีกหกปีข้างหน้า ทำเนียบมาลากันยัง น่าจะเป็นที่นั่งทำงานของสองท่านนี้

จึงพูดได้ว่า ซารา ดูเตอร์เต เป็นพันธุกรรมทางการเมืองที่มีสติปัญญา มีความสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าว่าเธอต้องแก้ปัญหารุมเร้าของบิดา ซึ่งถือเป็นเรื่องในครอบครัวจนเกินไปไม่ใช่ปัญหาของประเทศชาติ สู้หลีกทางให้พันธมิตรรับตำแหน่งใหญ่กว่าเป็นหนังหน้าไฟแก้ปัญหาให้โดยที่เธอไม่เปลืองตัวมากนัก

นับว่าเป็นพันธุกรรมที่มีมันสมองมีสติปัญญา ไม่ใช่พันธุกรรมหุ่นเชิด เหมือนในประเทศไทยที่เจ้าของพันธุกรรมสั่งให้ลงนรกก็ไป สั่งให้หนีทางหมาลอดก็ทำได้ สั่งให้ไม่มีที่ยืนบนผืนแผ่นดินไทยก็ยอมให้ ขอเพียงให้ได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวพรรคการเมืองสักคราที่เกิดมาชาติหนึ่ง

ซารา ดูเตอร์เต รู้ดีว่า หนทางข้างหน้าจะเผชิญปัญหาที่พ่อทิ้งไว้อย่างไร ซาราไม่ใช่ประเภทพันธุกรรม ที่เจ้าของพันธุกรรมทำชั่วไว้กับแผ่นดิน อย่างไรก็ต้องช่วยเจ้าของพันธุกรรมให้พ้นผิดให้ได้ เพราะมีความทะเยอทะยานเหมือนเจ้าของพันธุกรรม ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรียังไม่พอขอเป็น ประธานาธิบดี ตอนที่ประเทศไทยเปลี่ยนจากราชอาณาจักรเป็นสาธารณรัฐและได้พยายามมาหลายปี ใช้สมุนบริวารให้โจมตีสถาบันมาหลายรุ่นหลายสมัยก็ยังไม่สามารถสั่นคลอนสถาบันที่มั่นคงอยู่คู่กับประเทศไทยได้

ซารา รู้ดีว่า บารมีของพ่อก็เหมือนกับเจ้าของพันธุกรรมในเมืองไทยที่เสื่อมคลายหมดไปพร้อมกับอำนาจ แต่สำหรับในประเทศไทยบารมีเจ้าของพันธุกรรมเสื่อมคลายลงและค่อยๆ หมดไปตั้งแต่หมอผีเขมรเสกคาถาคำว่า “มันจบแล้วนาย” ตั้งแต่นั้นมาสมุน บริวารก็กระจัดกระจาย จะให้แลนด์สไลด์เหมือนในอดีตนั้นไม่มีวันเป็นไปได้แล้ว

ซารา ถึงแม้จะอยู่ประเทศฟิลิปปินส์ ก็ติดตามข่าวการเมืองภูมิภาคอาเซียนอย่างใกล้ชิด เธอรู้ดีว่าแลนด์สไลด์ที่ได้ในทศวรรษ 2544 นั้นเป็นเพราะเจ้าของพันธุกรรมไปรับซื้อที่ดินจากนักการเมืองผู้มีอิทธิพลซึ่งโกงมาจากวัด เมื่อได้ตัวนักการเมืองโกงที่ดินวัดมาทำสนามกอล์ฟ แล้วสุดท้าย ก็ได้เทคโอเวอร์พรรคความหวังใหม่ มาไว้ใต้ร่มเงาพรรคไทยรักไทย นอกจากนั้น ยังซื้อตัวนักการเมืองไร้อุดมการณ์มาจากทุกพรรคเพื่อให้ได้เสียงข้างมากในสภาจนฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้

การเทคโอเวอร์ พรรคพลังธรรม พรรคความหวังใหม่พรรคมัชฌิมา มาอยู่ใต้ร่มเงาไทยรักไทยจึงกลายเป็นเผด็จการรัฐสภา นั่นคือที่มาของคอร์รัปชั่นทางนโยบาย ซึ่งสุดท้ายศาลสั่งยึดทรัพย์เจ็ดหมื่นกว่าล้านบาท

และศาลยังตัดสินจำคุกหลายคดีรวมกันเป็นสิบปีได้แล้ว และยังมีคดีค้างอยู่ในศาลอีกหลายคดีจำเป็นต้องกลายเป็นสัมภเวสีหนีคุก

ถึงแม้กลายเป็นสัมภเวสีมากว่าสิบสี่ปี แต่ความอาฆาตพยาบาทประเทศไทยมันยังไม่หมดไป มันถึงได้สร้างนอมินีขึ้นมาคนแล้วคนเล่าพร้อมประกาศว่า ถ้า “ผมอยู่ไม่เป็นสุข คนไทยอย่าหวังว่าจะได้อยู่เป็นสุข” สัมภเวสีหนีคุกสร้างคนเป็นนายกรัฐมนตรีนอมินีขึ้นอีกสามราย

ซารา รู้ว่า สัมภเวสีหนีคุกมันให้พี่เขยเป็นนายกรัฐมนตรีนอมินีที่ไม่ได้เข้าทำเนียบรัฐบาลแม้แต่วันเดียว เท่านั้นยังไม่พอมันไปหลอกหัวหน้าพรรคประชากรไทยให้มาเป็นนายกรัฐมนตรีสุดท้าย มันหักหลังผู้ก่อตั้งพรรคประชากรไทยจนหมอผีเขมรทนไม่ได้ถึงเสกคาถาว่า “มันจบแล้วนาย”

ตั้งแต่นั้นมา มันส่งสมุนบริวารมาเผาบ้านเผาเมืองในปี 2553 สมุนบริวารของมันอาละวาดได้เต็มที่เพราะมีตำรวจสองแสนคนเป็นสมุนบริวารมันเหมือนกันนอกจากนั้น ทหารรุ่นเดียวกับมันยังมีอิทธิพลอยู่หลายคน ส่งผลให้สัมภเวสีหนีคุกปลุกปั่นน้องสาวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้ง 2544 ซึ่งมีเป้าหมายทำให้มันกลับบ้าน

นายกฯน้องสาว ก็ทำตามคำสั่งพี่ชาย โดยใช้อำนาจเผด็จการสภาลักหลับออกกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย จนมวลมหาประชาชนทนไม่ได้ลุกฮือขึ้นมาประท้วงขับไล่

สุดท้ายน้องสาว มันถูกศาลตัดสินจำคุกคดีจำนำข้าวแต่มันหนีไปในวันที่ศาลตัดสิน ปล่อยให้ลูกน้องสมุนบริวาร 48 คน ถูกศาลตัดสินจำคุกตั้งแต่ 18 ปี ถึง 48 ปี

ซารา ยังรู้ด้วยว่า ชะตากรรมของทายาทอสูรต้องจบลงในนรกทุกราย เธอถึงไม่ยอมเป็นพันธุกรรมการเมืองแบบประเทศไทย เธอไม่ยอมเป็น หัวหน้าครอบครัวทางการเมืองแต่วางตัวแค่ผู้สมัครเป็นรองประธานาธิบดี โดยที่ไม่ต้องมี หัวหน้าพรรคมายืนกุมเป้าโค้งคำนับ

ซารา ตัดสินใจลงชิงตำแหน่ง รองประธานาธิบดีที่อาจต้องทดแทนคุณบิดาได้โดยที่เธอไม่ต้องออกหน้าเพราะปัญหาสำคัญระดับโลก อาทิ ให้การกับศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของประธานาธิบดี หรือ คนที่ประธานาธิบดีมอบหมายให้ทำ และหากมีเรื่องผิดกฎหมายขึ้นมา เธอไม่ต้องหนีออกนอกประเทศตามบิดา ตามป้า ตามอาเหมือนในประเทศไทย

ซารา ดูเตอร์เต ทำอย่างนี้ได้เพราะเธอเป็นบัณฑิตที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยและเรียนจบปริญญาได้ด้วยตัวเอง เธอไม่ได้ร้องไห้กระทืบเท้าขยี้หัวให้พ่อแม่ไปสั่งให้อาจารย์ในมหาวิทยาลัยขโมยข้อสอบออกมาให้ หรือนำคำตอบเข้าห้องสอบจนคนจับได้ เหมือนพันธุกรรมเลวทรามในสยามเมืองยิ้ม

เธอยังรู้ด้วยว่า ที่ละเมอเพ้อพกอยู่กับคำว่าแลนด์สไลด์ น่ะมันฝันกลางแดด ยุคนี้ไม่มีคนอย่างจิ๋วหวานเจี๊ยบ ไม่มีอีบ้าลำโพงกระยางขาวพระพุทธเจ้าน้อยคอยหนุนหลังให้ ไม่มีหมอผีเขมรคอยจับหูช้างให้นั่งเหมือนดังแต่ก่อน

ดังนั้นคำว่า แลนด์สไลด์ ไว้พูดกันชาติหน้าตอนบ่ายๆ นะ พันธุกรรมผู้นำครอบครัวพรรคการเมือง

สุทิน วรรณบวร