พิเคราะห์จากข่าวที่หน่วยงานมั่นคงของสหรัฐอเมริกาและผู้นำกลุ่มประเทศอียูออกมาแสดงความเป็นห่วงความปลอดภัยของนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน สหรัฐฯ เสนอพาเขาหนีออกนอกประเทศเพื่อไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเซเลนสกี ปฏิเสธความหวังดีของอเมริกา และจะอยู่สู้กับทหารรัสเซียเพื่อปกป้องประเทศยูเครนต่อไป เมื่อนายเซเลนสกีปฏิเสธความหวังดีอเมริกาก็มามุขใหม่เสนอหาแหล่งหลบภัยให้นายเซเลนสกี ขอให้เขาลงไปหลบซ่อนในที่ปลอดภัยทางภาคใต้ของยูเครน
โดยกล่าวว่า ทางตอนใต้ของประเทศยูเครน นายเซเลนสกีมีความปลอดภัยกว่า คงเป็นเพราะสหรัฐฯ ยังมั่นใจในศักยภาพของกองกำลังนาซีใหม่ที่สหรัฐฯ จัดตั้งไว้ในภาคใต้ของประเทศยูเครน ตั้งแต่ปี 2546 มีข่าวหลายแหล่งยืนยันว่า กองกำลังนาซีใหม่ของอเมริกานี่แหละ ที่ปฏิบัติการณ์รุนแรงโหดร้ายทำให้มีคนตายประมาณ 100 ศพในระหว่างที่สหรัฐฯ ปลุกปั่นให้ประชาชนลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดีวิคเตอร์ ยานูโควิช ในปี 2557
สหรัฐฯ ไม่พอใจนายยานูโควิช เพราะเขาเป็นผู้ฝักใฝ่รัสเซียและฉีกใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ที่สหรัฐฯ เตรียมไว้ให้ อเมริกาจึงต้องโค่นล้มเขาลงให้ได้ และผลักดันนายเปโตรโปโรเชนโก ขึ้นเป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดของสหรัฐฯแทน
นายโปโรเชนโก ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีในปี 2557 ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างรัสเซียกับยูเครนก็เพิ่มขึ้น เมื่อมีรายงานว่าสหรัฐฯ ได้เพิ่มกองกำลังนาซีใหม่เข้าไปในยูเครนเป็นจำนวนมาก
กองกำลังนาซีใหม่ปฏิบัติการภายใต้การกำกับของซีไอเอไม่ได้ขึ้นตรงกับ ปธน.ยูเครน แต่ใช้ฐานทัพและฐานที่มั่นของกองทัพยูเครนออกทำการสู้รบกับฝ่ายแยกดินแดนในเขตโดเนตสก์และเขตลูฮันสก์
รายงานข่าวจากมอสโกบอกว่า กองกำลังนาซีใหม่ในยูเครนนี้แหละเป็นทหารรับจ้างที่โหดร้ายทำให้คนเชื้อสายรัสเซียในเขตโดเนตสก์กับเขตลูฮันสก์ตายไปกว่า 140,000 คนโดยที่ ปธน.ยูเครนนั่งมองตาปริบๆ ทำอะไรไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นสมัย ปธน.โปโรเชนโก หรือ ปธน.เซเลนสกีที่เป็นรัฐบาลหุ่นของอเมริกา ไม่สามารถควบคุมกองกำลังนาซีใหม่ที่สหรัฐตั้งเอาไว้ได้
จึงไม่เป็นเรื่องประหลาดใจที่ ปธน.เซเลนสกีพูดใส่หน้านางกมลา แฮร์รีส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อคราพบปะหารือกันระหว่างประชุมสัมมนาที่เรียกว่า มิวนิค ซีเคียวริตี้ คอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ว่า
“นี่เป็นประเทศของเรา....โปรดนำความสงบสันติภาพของเราคืนมา..เราไม่ต้องการมาตรการคว่ำบาตรของคุณหลังจากรัสเซียบุกถล่มประเทศของเราหลังจากไฟสงครามเผาผลาญประเทศของเราแล้ว...”
คำพูดของนายเซเลนสกี บ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการรบกับรัสเซีย แต่เขาไม่สามารถควบคุมกองกำลังที่อเมริกาส่งเข้าไปในยูเครนได้ ปธน.เซเลนสกี จึงตกอยู่ในฐานะลำบากเหมือนกับอดีตประธานาธิบดีอัชราฟ ฆานี แห่งอัฟกานิสถานที่เป็น ปธน.แต่อำนาจสั่งการควบคุมทหารอยู่ภายใต้การกำกับของทหารอเมริกัน ดังนั้นเมื่อทหารอเมริกันถอนกำลังทหารชุดสุดท้ายออกจากอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2564 และในคืนนั้นเองที่มีรายงานว่านายฆานี หอบเงินสด 17 ล้านดอลลาร์หนีออกจากอัฟกานิสถานโดยไม่มีใครรู้ว่าเขาหนีไปไหน จนกระทั่งเขาออกแถลงการณ์มาจากประเทศยูเออี ปฏิเสธว่าตอนหนีออกมาไม่ได้นำเงิน 17 ล้านดอลลาร์มาด้วย
ผู้นำประเทศที่เป็นรัฐบาลหุ่นของอเมริกาส่วนใหญ่ไม่มีกองทัพอยู่ในมือ หรือไม่ก็ควบคุมทหารไม่ได้ จากสถานการณ์และเหตุผลทั้งหมดที่เล่ามาทำให้เราเชื่อว่า “บัดนี้นายเซเลนสกีหนีออกจากกรุงเคียฟไปแล้วและเป็นไปได้สูงว่าเขาไม่ได้อยู่ในประเทศยูเครนแล้ว..”
ข่าวเขาปรากฏตัวในวีดีโอที่เสนอโดยสำนักข่าวตะวันตกเชื่อว่าเป็นวีดีโอที่จัดฉากขึ้นจากเมืองหนึ่งเมืองใดในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ชิด
ผู้เขียนเคยแปลหนังสือการปฏิวัตบอลเชวิคเมื่อสี่สิบกว่าก่อน และประสบการณ์ทำข่าวสงคราม ทำข่าวสงครามเกี่ยวกับกองโจรและผู้ก่อการร้ายทำให้เชื่อว่าผู้นำที่ปากกล้าขาสั่นส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในสมรภูมิระหว่างการสู้รบหรือระหว่างสงคราม
และเชื่อด้วยความจริงใจว่า ในเวลานี้ยูเครนสู้รบกับรัสเซียด้วยสงครามข่าว สงครามตัวแทน กับอเมริกาผู้มีความสามารถพิเศษในการปั้นน้ำเป็นตัวและสร้างกระแสสงครามตัวแทนขึ้นมา
ตัวอย่างง่ายๆ ใกล้ชายแดนไทย-พม่า อเมริกาสร้างกระแสข่าวขึ้นมาว่ากองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ที่อยู่ใกล้ชายแดนไทย อาทิ กะเหรี่ยง เคเอ็นยู และทหารคะยาของนายพลบีทู กำลังสู้รบอย่างดุเดือดเลือดพล่านกับทหารพม่า นายพลบีทู บัญชาการสู้รบกับทหารพม่าอย่างกล้าหาญในเมืองลอยก่อ (Loikaw) ของรัฐคะยา
เมื่อผู้เขียนโทรศัพท์ไปถามนายพลบีทูถึงการสู้รบ คนที่รับโทรศัพท์บอกว่านายพลบีทูกำลังทานอาหารอยู่ในบ้านพักที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน และบอกให้โทรฯกลับไปภายหลัง เมื่อผู้เขียนโทรฯกลับไปสามสิบนาทีหลังจากนั้น คนรับโทรศัพท์บอกว่านายพลบีทูเข้าไปธุระในแม่ฮ่องสอนแล้ว และเมื่อถามว่านายพลบีทูออกมาจากลอยก่อวันไหน? ก็ได้รับคำตอบว่านายพลบีทูไม่ได้เข้าไปในรัฐคะยานานแล้วเพราะมีด่านทหารพม่าปิดกั้นเส้นทางไว้ แต่สำนักข่าวตะวันตกวันนั้นเสนอข่าวว่านายพลบีทูบัญชาการรบอยู่ในเมืองหลวงรัฐคะยา
กรณีของนายพลบีทู ก็เหมือนกองกำลังกลุ่มชาติพันธ์ุต่างๆ ที่อยู่ตามชายแดนไทยพม่าซึ่งส่วนใหญ่ล่มสลายไปแล้วตั้งแต่ปี 2545 แต่ถูกสหรัฐฯอุปโลกน์ให้เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งต่อสู้กับทหารพม่าร่วมกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ที่อดีตทหารอเมริกันสร้างขึ้นมา แล้วปั่นกระแสให้ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ ทำสงครามน้ำลายไปจากประเทศไทย
ตัวอย่างเช่นผู้นำกะเหรี่ยง เคเอ็นยู อยู่ในแม่สอด และท่าสองยาง จ.ตาก ผู้นำคะยามีบ้านพักอยู่ที่ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮองสอน ฯลฯ
ผู้นำกลุ่มชาติพันธ์ุเหล่านี้ถูกอเมริกาเอาไปโพนทะนาว่า กำลังบัญชาการบกับทหารพม่า นี่คือตัวอย่างสงครามน้ำลายที่อเมริกาทำไปจากประเทศไทย
ในบรรดาผู้นำกลุ่มชาติพันธ์ุที่ทำสงครามน้ำลายไปจากประเทศไทยส่วนใหญ่ถือบัตรสีชมพูหรือไม่ก็ถือบัตรประชาชนแต่ไม่มีหมายเลข 13 หลัก มีสิทธ์ิอยู่ในประเทศได้ในพื้นที่จัด และผู้นำกลุ่มชาติพันธ์ุบางท่านช่วยปกป้องประเทศไทยจากภัยคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็น
อดีตผู้นำกะเหรี่ยงนายพลโบเมี๊ย เล่าว่าเขาเคยไปช่วยทหารไทยรบกับคอมมิวนิสต์ (ทหารป่า) ที่เขาค้อและเอารูปนุ่งกางเกงว่ายน้ำมาให้ดูด้วยความภาคภูมิใจตอนที่ทหารไทยพาไปเลี้ยงขอบคุณที่บางแสน
ผู้เขียนไม่เคยแพร่งพรายเรื่องนี้ในที่สาธารณะ แต่พอเห็นอเมริกาดึงเอากลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้มาเป็นเครื่องมือทำสงครามน้ำลายอุปโลกน์ให้เป็นผู้บัญชาการรบกับทหารพม่า ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย ที่อเมริกาทำให้ประชาคมนานาชาติเข้าใจว่ากลุ่มชาติพันธุ์ใช้ดินแดนไทยเป็นฐานทำลายความมั่นคงของประเทศเพื่อบ้าน ซึ่งไม่มีมูลความจริงเลย ข่าวทั้งหมดที่ออกมาเป็นการปั่นกระแสของอเมริกาและตะวันตก
ประสบการณ์ที่ได้สัมผัสมาด้วยตัวเอง และการเห็นอเมริกาสร้างสถานการณ์ปั่นกระแสสงครามกลางเมืองในพม่า โดยอ้างกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทยเข้าไปบัญชาการรบกับทหารพม่าทำให้เชื่อว่า
“บัดนี้เซเลนสกีไม่อยู่ในกรุงเคียฟหรือยูเครนแล้ว”
กองทัพยูเครนล่มสลาย ทหารหนีทัพไม่มีศักยภาพที่จะต่อสู้กับทหารรัสเซียได้ตั้งแต่วันที่ห้าของสงคราม และตัวอย่างที่ชัดเจนคือเมื่อทหารรัสเซียเข้ายึดโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เชอร์โนบิลกับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริซเซียซึ่งทั้งสองโรงไฟฟ้าฯที่ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่รัสเซียยึดได้โดยที่ไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด ทหารยูเครนหายไปไหนถึงคุ้มกันสถานที่สำคัญไม่ได้
ยูเครนทำได้แต่เพียงแจ้งไปยังทบวงพลังปรมาณูเพื่อสันติระหว่างประเทศในกรุงเจนีวา โดยผู้อำนวยการทบวงพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ นายราฟาเอล กรอสซี แถลงว่าได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ยูเครนว่าทหารรัสเซียยึดโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริซเซียได้แล้วและบังคับให้เจ้าหน้าที่ยูเครนปฏิบัติตามคำสั่งของทหารรัสเซีย
ประธานาธิบดีปูตินประกาศว่ารัสเซียมีเป้าสลายกองทัพยูเครนเท่านั้นมิได้มีเป้าหมายทำร้ายพลเรือน ดังนั้นในการเจรจาระหว่างผู้แทนจากยูเครนและรัสเซียจึงตกลงกันได้ในประเด็นเปิดระเบียงอพยพพลเรือนอย่างปลอดภัยโดยทหารรัสเซียหยุดยิงให้เป็นบางช่วงเวลาขณะที่อพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ปิดล้อม
ตั้งแต่ห้าวันแรกของสงครามขีปนาวุธที่มีความแม่นยำสูงของรัสเซียทำลายจุดยุทธศาสตร์ทางทหารของยูเครนไม่ว่าจะเป็นสนามบินทหาร ท่าเรือ กองบัญชาการทหาร ตลอดถึงฐานที่มั่นของทหารรับจ้างอเมริกาที่เรียกว่ากองทัพนาซีใหม่ได้เกือบทั้งหมด และเชื่อว่านายเซเลนสกีหนีออกจากกรุงเคียฟตั้งแต่วันนั้น
แต่การเผยแพร่คลิปวีดีโอของนายเซเลนสกีที่ประกาศว่ายังอยู่ในกรุงเคียฟและสู้รบต่อไป เชื่อว่าเป็นสคริปต์ที่อเมริกาเขียนให้
อเมริกาต้องการรบกับรัสเซียต่อไป ถึงได้ประกาศรับอาสาสมัครจากทั่วโลกไปรบกับรัสเซีย รวมทั้งรับอาสาสมัครทหารรับจ้างจากประเทศไทย แต่เชื่อว่านั้นคือเป้าหลอก เป้าหมายที่แท้จริงของอเมริกาคือจัดหาทหารรับจ้างที่เป็นฝรั่งเข้าไปทำสงครามตัวแทนกับรัสเซียต่อไป เพราะอ้างได้ว่าไม่ใช่ทหารนาโต แต่เป็นอาสาสมัครผู้รักความเป็นธรรมจากทั่วโลก
ดังนั้นอเมริกาใช้นายพลบีทูทำสงครามน้ำลายไปจากประเทศฉันใด ก็ใช้นายเซเลนสกีให้ทำสงครามน้ำลายไปจากประเทศเพื่อนบ้านฉันนั้น
ผู้เขียนเคยแปลหนังสือเรื่องสิบวันเขย่าโลก เป็นเรื่องเล่าเหตุการณ์สิบวันสำคัญที่บอลเชวิค ปฏิวัติโค่นล้มพระเจ้าชาร์นิโคลัสที่ 2
วลาดิมีร์ เลนิน ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำทางความคิด ผู้นำจิตวิญญาณผู้จุดกระแสปฏิวัติ แต่ถ้าผู้อ่านสังเกต จะพบว่าเลนินใช้เวลาส่วนใหญ่ทำสงครามน้ำลายมาจากโปแลนด์ไม่ร่วมต่อสู้ในสมรภูมิสงครามจริงเลยแม้แต่น้อย
ซึ่งเหมือนกับนักวิชาการไทยบางคนที่ทำสงครามน้ำลายเพื่อโจมตีใส่ร้ายทำลายสถาบันจากใต้กระโปรงนักศึกษา
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี