เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคมที่ผ่านมา โลกโซเชียลได้รับรู้รับทราบความกังวลใจของผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนในสังคมไทยไม่ว่าจะเป็นความห่วงใยของอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง “นายมาร์ค ทาสแมว-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หรืออย่าง“ลุงกำนัน-สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.หรือคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
หลัง “สัมภเวสีเร่ร่อนหนีคุก-โทนี่ วู้ดซัม-ทักษิณ ชินวัตร” ออกมาสำรอกผ่านคลับเฮาส์แคร์ คิดเปลี่ยนไทย ปั่นวาทกรรมสร้างกระแสตอกย้ำ “เพื่อไทยแลนด์สไลด์ - พรุ่งนี้เพื่อไทยเพื่อประชาชน” จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวหลังการเลือกตั้ง โดยมี “สาววัย 35 กะรัต อุ๊งอิ๊ง - แพทองธาร ชินวัตรพันธุกรรมทางสายเลือดและหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี ตามเป้าหมายที่หนึ่ง
เพื่อเดินหน้าไปยังเป้าหมายที่สองที่ต้องการสัมภเวสี กลับหลุมกลับฮวงซุ้ยตามที่แพทองธารเคยบอกไว้ว่า “พ่อยังปรารถนาอยากกลับมากราบผู้มีพระคุณ เพื่อก้าวข้ามทุกความขัดแย้ง” ผู้ต้องหาที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วใช่ว่าจะกลับประเทศไม่ได้ แต่หมายความว่าต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามคำพิพากษาของศาล จะกลับมาอย่างเท่ๆ ก็คงไม่พ้นใช้เผด็จการรัฐสภาออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่อาจจะนำมาซึ่งความห่วงใยอย่างที่“มาร์ค ทาสแมว” เตือนสติ อาจเกิดรัฐประหารอีกครั้งจากความไม่เห็นด้วยของสังคมไทย
“พลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์” โพสต์เรื่องราว “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ภาค 2 จำได้ว่าประโยคนี้ถูกนำมาเป็นวาทกรรมเป็นมอตโต้เป็นคำขวัญหาเสียงเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 23 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 หลังจากที่การเลือกตั้งก่อนหน้านั้น พรรคไทยรักไทยของทักษิณ ชินวัตร สร้างประวัติศาสตร์การเมืองหน้าใหม่กวาดที่นั่งภาคเหนือ กลาง อีสานกว่า 248 ที่นั่ง
จำได้ว่าขณะนั้น “อาจารย์ป๋อง-สัญญา สถิรบุตร”อดีตสส.กทม.พรรคประชากรไทย เข้ามาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ในตำแหน่งผู้อำนวยการพรรค พร้อมกับพลตรีมนูญ รูปขจร,บิ๊กตุ๋ย-พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้งัดคำขวัญนี้มาเพื่อสกัดกั้นพรรคไทยรักไทย แต่ประสบความล้มเหลว จน “ทักษิณ” ก่อร่างสร้างระบอบทักษิณและทักษิโณมิกส์”
วันนี้จึงเกิดคำว่า “ภาค 2” พ่วงท้าย แต่ที่พลโทนันทเดชประหวั่นกลับเป็นการเลือกตั้งเก้าอี้ “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพ” แน่นอนผลการเลือกตั้งจะมีผลต่อการเลือกตั้งทั่วไปอย่างแน่นอน
เราเชื่อสังคมไทยไม่อยากเห็นความวุ่นวายแตกแยกอย่างที่ผ่านมาอีกครั้ง “ไม่เลือกเราเขามาแน่” จึงถูกนำมารีรันอีกครั้งเพื่อสกัดกั้นวาทกรรมปั่นกระแสใบตองแห้ง “เพื่อไทยแลนด์สไลด์” ใบตองแห้งที่หมายถึง คนที่ชอบพูดเอะอะแสดงว่าเก่งแต่ไม่กล้าจริง หรืออาการสุนัขที่นิยมอวดอ้างอวดตัวเก่งเห่ากระโชกเสียงแกรกกรากของใบตองแห้งที่ติดอยู่กับต้นเวลาลมพัดเห่าแต่ไม่กล้าไปกัดใบตองแห้ง
อาการนี้จึงไม่แตกต่างไปจากสัมภเวสีเร่ร่อนหนีคุกที่สำรอกสำรากการกลับมาตุภูมิอย่างเท่ๆ โดยอาศัยบารมีติ่งและเครือญาติสนตะพายเดรัจฉานคอก “จันทร์ส่องหล้า”ให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเหมือนเกือบสำเร็จอย่างที่ผ่านมา แต่สังคมไทยรู้เช่นเห็นชาติรู้ทันอย่างเท่าเทียมจึงลุกฮือต่อต้านจนวงศ์วานว่านเครือต้องมุดรั้วธรรมชาติตามตะเข็บชายแดนหนีหัวซุกหัวซุนอย่างที่ปรากฏ
“คุณไม่จำเป็นต้องไปเดินตามอะไรที่แย่ๆเพียงเพราะพยายามหวังอย่างคนสิ้นหวังว่ามันจะพากันไปถึงที่ที่คุณอยากไป ถ้าลึกๆ คุณรู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่ถูกต้อง ไม่เข้าท่า ก็ฟังเสียงในใจแล้วเดินออกมาไม่โดดเดี่ยวหรอกค่ะ คนเค้าเดินออกมาเงียบๆ กันเยอะแล้ว” ยุคสมัยนี้สังคมไทย คนรากหญ้ารู้เท่าทันขุนศึกใบตองแห้งเสียแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี