ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีเอกราชอธิปไตยมาช้านานแล้วเรามีกองทัพกำลังคน 300,000 คน ในการพิทักษ์รักษาเอกราชอธิปไตย ในแต่ละปีรัฐต้องจัดงบประมาณเพื่อเสริมสร้างแสนยานุภาพให้กองทัพมีความสามารถในการทำหน้าที่นี้เป็นอย่างดี
ประเทศไทยมีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐรวมกันทั้งประเทศกว่า 3 ล้านคน เป็นภาระรายจ่ายงบประมาณแผ่นดินในสัดส่วนที่สูงมาก จนกระทบต่องบประมาณในการพัฒนาประเทศอย่างรุนแรง แม้กระนั้นคนไทยก็ต้องแบกรับ
เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้ทำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ รับใช้ประชาชน
ประเทศไทยมีประชากร 66 ล้านคน ถูกอบรมสั่งสอนให้รักชาติบ้านเมือง ให้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกปักรักษาบ้านเมืองไว้จนถึงที่สุด
โดยสภาพเหล่านี้ประเทศไทยจึงมีความพร้อมที่จะรักษาเอกราชอธิปไตย รักษาผลประโยชน์แห่งชาติ และสร้างมิตรไมตรีกับประเทศต่างๆ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขร่วมกัน
เพื่อเป็นหลักแห่งความปลอดภัยของบ้านเมือง และความมั่นคงแห่งชาติ พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงวางพระบรมราโชบายสืบทอดกันมาให้ประเทศไทยผูกมิตรไมตรีกับประเทศทั้งหลาย ไม่ตั้งตนเป็นศัตรูหรือเป็นปรปักษ์กับใคร บนพื้นฐานผลประโยชน์ร่วมกัน การไม่แทรกแซงกิจการภายในของกันและกัน ซึ่งรัฐบาลทุกรัฐบาลต่างพยายามปฏิบัติให้เป็นมรรคผล ตามมากตามน้อย
แต่ประเทศไทยโชคร้ายที่มีผู้ดูแลรับผิดชอบด้านต่างประเทศที่ไร้ความสามารถ หรือไม่ก็ทรยศต่อพระบรมราโชบายของพระมหากษัตริย์ หรือไม่ก็ประพฤติตนเป็นคนขายชาติ ไม่รักษาผลประโยชน์ของชาติ จึงทำให้เกิดผลกระทบต่อเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์แห่งชาติอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนชาวไทยต้องพร้อมใจกันตื่นตัวให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก่อนที่จะสายเกินไป
ความผิดพลาดในอดีตเป็นเรื่องเจ็บปวดรวดร้าวทั้งของคนไทยและของประเทศเพื่อนบ้าน ที่รัฐบาลบางยุคบางสมัยไม่ได้รักษาทางไมตรีจนสร้างภัยพิบัติใหญ่หลวงให้กับบ้านเมืองจะยกตัวอย่างสองครั้ง คือเมื่อครั้งส่งทหารไทยไปรบเกาหลี โดยไม่ใช่กงการอะไรของประเทศไทย พาทหารไปเจ็บไปตายจำนวนมาก และในที่สุดก็พ่ายแพ้สงครามรุกรานอย่างน่าอัปยศ
ครั้งสำคัญก็คือสงครามอินโดจีน ที่อยู่ดีไม่ว่าดีมีนักการเมืองขายชาตินำพาประเทศเข้าไปซุกในอุ้งตีนของต่างชาติ ยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพยึดครองประเทศไทย ข่มเหงย่ำยีประชาชนไทย
ดังบทเพลงในยุคสมัยหนึ่งที่ว่า “มันกวดขันตั้งแต่เรื่องการปราบ มันกำราบชาวไร่ชาวนา ตั้งข้อหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์คนบ่ผิดมันก็เอาไปขัง มันชังใครมันก็เอาไปฆ่า ผู้ใดว่ามีเหตุมีผล ประชาชนปากหลายก็บ่ได้ มันก็ใช้อำนาจข่มเหง เป็นนักเลงยิงปืนเข้าใส่”
หรืออีกบทหนึ่งที่ว่า “บ้านเกิดเมืองนอนที่เรารักยิ่งชีวา เคยพร่ำขานเรียกมา มีสมญาว่าแผ่นดินทอง ถูกโจรขายชาติเข้าครองยอมให้มะริกันครอบครอง ต้องสูญสิ้นผืนดินทอง ฝรั่งมาครองแดนทองของไทย มันบุกรานรุกย่ำยี ปราบปรามกดขี่ทารุณโหดร้ายเข่นฆ่าประชาชนไทย เปรียบเราเป็น เช่น นก ผัก ปลา”
นั่นคือบทเพลงแห่งความเจ็บปวดรวดร้าวของบรรพชนไทยในยุคสงครามอินโดจีน ในสงครามครั้งนั้นนักการเมืองขายชาติได้ยอมให้ต่างชาติเอาเครื่องบินทิ้งระเบิดจากประเทศไทยไปถล่มทำลายบ้านเรือนของพี่น้องชาวเวียดนาม ลาว กัมพูชาวายวอด สังหารผลาญชีวิตพี่น้องเวียดนาม ลาว กัมพูชานับล้านคน เป็นเหตุการณ์เศร้าสลดใจหรืออาจเรียกว่าเป็นอาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มวลมนุษย์ครั้งใหญ่ซึ่งคนไทยทั้งประเทศไม่ได้รู้เห็นยินยอมด้วย
มิหนำซ้ำ บรรดาพวกขายชาติและเหลิงระเริงในอำนาจยังยกตนข่มท่านอวดอ้างความคิดความเห็นว่าที่ทำไปนั้นเป็นเรื่องถูกต้อง ดูหมิ่นเหยียดหยามนิสิตนักศึกษาประชาชนที่ต่อต้านคัดค้านสงครามว่าเป็นพวกโง่เขลาเบาปัญญา ใบ้บ้าหลงใหลในคอมมิวนิสต์ และในที่สุดพวกขายชาติเหล่านั้นรวมทั้งต่างชาติที่สมรู้กันมายึดครองประเทศไทยก็ปราชัยในสงคราม
ประชาชาติเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ที่วีระกล้าหาญ รักชาติบ้านเมือง และมีความเสียสละได้รวมกันต่อสู้ขับไล่
ผู้รุกรานจนพ่ายแพ้ยับเยิน และในครั้งนั้นประเทศไทยก็หวิดจะเสียบ้านเสียเมืองเพราะพวกขายชาติเหล่านั้น เพราะพี่น้องประเทศอินโดจีนไม่พอใจที่นักการเมืองไทยก่อกรรมอันหฤโหด ทำสงครามรุกรานสังหารผลาญชีวิตและบ้านเมืองของเขาโดยเขาไม่ได้มีความผิด จึงยกพลสามแสนเข้ามาประชิดชายแดนไทย
ในครั้งนั้นพวกขายชาติอวดดื้อถือดีบ้างก็หลบหนี บ้างก็โยกย้ายทรัพย์สมบัติออกไปอยู่ต่างประเทศ แต่ชะตาชาติ
บ้านเมืองไม่ถึงคราดับสูญ จึงมีคนดีศรีแผ่นดินมาปกป้องบ้านเมืองรักษาเอาไว้ให้ปลอดภัยจนถึงทุกวันนี้
พวกจัญไรขายชาติที่สร้างความผิดพลาดในครั้งนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน ยังฝังรากลึกสืบทอดความเป็นทาสและสัญชาตญาณขี้ข้าสืบต่อมาจนถึงวันนี้ และยังคงอวดดื้อถือดีว่าเป็นผู้รู้ในเรื่องความปลอดภัยของบ้านเมืองดีกว่าใคร จนกระทั่งวันนี้ประเทศไทยย่อยยับอับจน คนพวกนี้ก็ยังอวดดื้อถือดีดูหมิ่นพี่น้องร่วมชาติเดียวกัน ตั้งตนเป็นขี้ข้าต่างชาติชนิดไม่ละอายต่อบาป
ประพฤติตนเมื่อครั้งสงครามเวียดนามและสงครามอินโดจีนอย่างไร ก็กำลังทำพฤติกรรมนั้นต่อไปอีก ทำให้
ประเทศไทยไม่สามารถตั้งตนอยู่ในความเป็นกลาง และกลายเป็นประเทศที่ต้องเลือกข้างจนเกิดความเสียหายย่อยยับในทุกด้าน
ในยามนี้ประเทศประสบภาวะวิกฤต ราคาน้ำมันแพงลิ่ว ชักพาสินค้าทุกชนิดขึ้นราคาไม่หยุด แทนที่จะแสวงหาน้ำมันราคาถูกไม่จากรัสเซียหรืออิหร่านเข้ามาขายในราคาถูกๆ ก็จะทำให้ราคาน้ำมันในประเทศเหลือเพียงสิบกว่าบาทต่อลิตร แต่กลับใช้จิตใจขายชาติยอมตนเป็นขี้ข้าต่างชาติไม่ยอมซื้อขายน้ำมันราคาถูกเอาเข้ามาขายให้กับคนไทย
ประเทศในกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้กว่าครึ่งโลกต้องการสินค้าไทยมากมายหลายชนิดแต่ปิดกั้นตัวเองไม่ยอมค้าขายด้วย เอะอะก็ตั้งหน้าจะติดต่อค้าขายกับพวกฝรั่งซึ่งตัวเองเป็นขี้ข้ารับใช้ชนิดไม่ลืมหูลืมตา ไม่ว่าฝรั่งจะกระทำย่ำยีกำหนดเกณฑ์กติกาเอาเปรียบประการใดก็ยอมทำตามไปสิ้น
เหล่านี้เป็นพฤติกรรมขายชาติที่คนไทยไม่อาจให้อภัยได้ที่อันตรายร้ายแรงก็คือการปิดกั้นประเทศไทยในการเชื่อมต่อด้านคมนาคม โดยเฉพาะทางรถไฟความเร็วสูงเส้นทางสายไหมหรือทางแม่น้ำโขง จนกระทั่งประเทศในอาเซียนตอนบน ไม่ว่าเมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนาม เขาติดต่อเชื่อมโยงไปมาหาสู่กันเอิกเกริก แต่ประเทศไทยกำลังกลายเป็นประเทศแลนด์ล็อกที่มีอนาคตจะติดต่อกับใครไม่ได้
น่าอับอายสักเพียงไหนที่ประเทศไทยเคยเจริญรุ่งเรือง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พี่น้องเพื่อนบ้านพากันเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว มาจับจ่ายใช้สอยกันอย่างสนุกสนาน แต่มาถึงวันนี้เหตุการณ์กลับพลิกผัน คนไทยต้องแห่จับจองไปท่องเที่ยวประเทศลาว ไปทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ไปท่องเที่ยวกัมพูชา ไปดูเขาพัฒนาบ้านเมืองและเขตเศรษฐกิจกันเอิกเกริก ไปท่องเที่ยวเวียดนาม ไปดูการพัฒนาประเทศที่ล้ำหน้ากว่าประเทศไทยไปไกลแสนไกล
แม้กระทั่งการตั้งตนเป็นศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านก็กำลังทำให้สถานการณ์ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในลักษณะที่น่าห่วงใยอย่างยิ่ง อยู่ดีไม่ว่าดีไปทำข้อตกลงประเภท “เปิดเสรี เปิดกว้าง และขยายความร่วมมืออย่างทั่วด้าน” ซึ่งเป็นเรื่องให้สิทธิ์แต่เพียงฝ่ายเดียวแก่ชาติมหาอำนาจในการเข้ามาทำย่ำยีอะไรในประเทศไทยได้ตาม
ใจชอบ ในการเปิดกว้างให้ทำทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านเมืองของเราโดยที่คนไทยปิดกั้นหวงแหนไม่ได้ และต้องร่วมมืออย่างทั่วด้าน จะหวงกันไว้เพื่อประโยชน์ของชาติและประชาชนไม่ได้
เป็นข้อตกลงขายชาติ เพราะให้สิทธิ์ต่างชาติแต่ฝ่ายเดียวโดยที่ความจริงแล้วประเทศไทยไปทำเสรีในประเทศของเขาไม่ได้เลย และเขาก็ไม่ได้เปิดกว้างให้ประเทศไทยในสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ รวมทั้งไม่ได้ร่วมมืออะไรกันที่ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ แม้กระทั่งจะส่งของไปขายยังถูกตั้งกฎเกณฑ์กติกาที่ข่มเหงย่ำยี ดังเช่นเรื่องเทียร์ 2 นั่นประไร
เหล่านี้เป็นโซ่ตรวนที่ผูกมัดประเทศไทยและคนไทยอยู่ และกำลังอยู่ในสถานะอันตรายร้ายแรงที่กำลังก่อให้เกิดการบ่อนทำลายทุกสถาบันในประเทศนี้ให้พินาศไปสิ้น ดังนั้น จึงถึงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศจะต้องพร้อมใจกันป่าวร้องประกาศว่าตื่นเถิดไทย!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี