หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง อังกฤษก็ครองความเป็นเจ้าในทางพฤตินัย และทำให้เยอรมนีซึ่งมีศักยภาพทุกด้านสูงที่สุดในยุโรปต้องอ่อนแอลง แต่ในที่สุดก็ฟื้นคืนความแข็งแกร่งในยุคสมัยของฮิตเลอร์อีกครั้งหนึ่ง จนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สอง
ในสงครามโลกครั้งที่สองเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างยุโรป ที่มีอังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นศูนย์กลาง กับเยอรมนีและอิตาลี และด้วยความผิดพลาดของฝ่ายอักษะที่เปิดศึกกับรัสเซียจึงนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้เยอรมนีต้องกลายเป็นเมืองขึ้นแผนใหม่
แม้ว่าอังกฤษต้องอ่อนแอลงจากพิษภัยของสงคราม แต่ด้วยความชาญฉลาดและความมั่งคั่งที่ตกทอดมาจากยุคล่าอาณานิคมจึงทำให้อังกฤษแอบฟื้นตัวอย่างเงียบกริบ และเมื่อฟื้นตัวแล้วก็ปิดบังฐานะตัวเอง ปล่อยให้สหรัฐออกหน้ารับภาระด้านแสนยานุภาพและเป็นผู้นำของโลกเสรี โดยแท้จริงแล้วอังกฤษนั่นแหละเป็นเจ้าแผนการที่บงการอยู่ข้างหลังทั้งหมด
อังกฤษกับอิสราเอลมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งจะถึงขนาดไหนก็ให้ดูภาพในช่วงงานพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ท่านเซอร์รอธส์ไชลด์ เอามือชี้ที่หน้าอกพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งมีการบรรยายภาพว่าภาพเดียวนี้แทนถ้อยคำพันคำ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าระหว่างองค์กรยิ่งใหญ่ของชาวยิวกับอังกฤษนั้นใครเป็นนาย ใครเป็นลูกน้องอย่างชัดเจนที่สุด
เพราะสภาพภูมิยุทธศาสตร์ของอิสราเอลมีขนาดเล็กและมีความเสี่ยงต่ออันตรายในท่ามกลางชาวมุสลิมในตะวันออกกลาง ทำให้แผ่นดินนั้นไม่มีวันสงบสุขดังนั้นความคิดในการจัดตั้งรัฐอิสราเอลที่สองขึ้นในยูเครนจึงเกิดขึ้นและดำเนินการอย่างเงียบกริบ
จนเกือบใกล้จะสำเร็จ คือจัดระบบการปกครอง การควบคุม และการป้องกันความปลอดภัย โดยนำเอายูเครนเข้าสังกัดนาโต ซึ่งถ้าทำได้สำเร็จก็จะทำให้รัฐอิสราเอลที่สองมีขนาดใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์ และมีความปลอดภัยสูงสุด ส่อแนวโน้มว่าอิสราเอลจะเป็นมหาอำนาจลำดับหนึ่งของโลก
แต่การกระทำนั้นกลายเป็นภัยคุกคามต่อรัสเซียอย่างรุนแรง ซึ่งรัสเซียก็ทราบดีว่าภูมิประวัติศาสตร์ของรัสเซียนั้นเป็นเป้าหมายของการทำลายถึงขนาดแยกสลายเป็นชิ้นๆ และประสบความสำเร็จขั้นใหญ่มาแล้วในการทำให้สหภาพโซเวียตล่มสลาย
ดังนั้นเมื่อรัสเซียตระหนักถึงภัยอันตรายร้ายแรงขนาดนี้ จึงจำเป็นอยู่เองที่รัสเซียจำต้องป้องกันบ้านเมืองของตน โดยเปิดปฏิบัติการทางการทหารพิเศษขึ้นต่อยูเครน ดังนั้น ปฏิบัติการดังกล่าวจึงไม่ได้มีปัญหาเฉพาะรัสเซียกับยูเครน
แต่เป็นปัญหาในทางยุทธศาสตร์เกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐอิสราเอลที่สองขึ้นได้หรือไม่ และรัสเซียจะล่มสลายแตกสลายเป็นชิ้นๆ หรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก
ดังนั้นนักล่าอาณานิคมทั้งหลายจึงทุ่มเทการพิทักษ์เป้าหมายของตัวเองอย่างเต็มเหนี่ยว จึงเป็นเหตุให้ผู้นำของยูเครนได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากขบวนการนักล่าอาณานิคม ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีก็จะเห็นความผิดปกติในเรื่องนี้
นั่นคือประเทศต่างๆ ในยุโรปยอมทุ่มเททุกอย่าง ถึงขนาดที่เรียกว่ายอมฉิบหายวายวอดก็จะไม่ยอมให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ล้มเหลวลง และทุ่มเทถึงขนาดต้องการทำให้ชาวยูเครนตายเป็นคนสุดท้ายด้วยการส่งอาวุธให้ไปรบกับรัสเซีย
นั่นคือสาเหตุหลักของสงครามใหญ่ในยูเครนที่อาจขยายตัวกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สามก็ได้ เพราะสถานการณ์มาถึงจุดที่ต่างฝ่ายต่างยอมให้กันไม่ได้
แต่ทว่าสถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ความเติบโตของกลุ่มประเทศองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้และความเข้มแข็งทางแสนยานุภาพ ตลอดจนทางเศรษฐกิจ นอกจากไม่ด้อยกว่ากลุ่มนักล่าอาณานิคมแล้ว ยังมีความเหนือกว่าเป็นอันมาก
ที่สำคัญคือกลุ่มองค์การความร่วมมือแห่งเซี่ยงไฮ้ได้ตระหนักถึงอันตรายร่วมกันที่ถ้าหากนักล่าอาณานิคมประสบความสำเร็จในยูเครน ดังนั้น จะเป็นตายอย่างไรก็ต้องร่วมกันทำลายแผนการนั้นจนถึงที่สุด
ดังนั้นการปะทะใหญ่ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลกในมิติต่างๆ แห่งสงครามจึงเกิดขึ้นอย่างชนิดทุ่มสุดตัว
การใช้ยุทธศาสตร์และยุทธวิธีตามพิชัยสงครามของตะวันออกได้ปรากฏโฉมหน้าขึ้นในความขัดแย้งและสงคราม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนในยุโรป
ประวัติศาสตร์สงครามในยุโรปที่ใช้มุ่งใช้มากเอาชนะน้อย มุ่งใช้แข็งเอาชนะอ่อน และเป็นสงครามเพียงสมรภูมิเดียวได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ได้บังเกิดสมรภูมิขึ้นหลายแห่งที่เชื่อมโยงประสานกัน นั่นคือในยุโรป ในตะวันออกกลาง ในทะเลจีนใต้ และด้านเหนือใต้ของแผ่นดินใหญ่สหรัฐ ทำให้แสนยานุภาพของนักล่าอาณานิคมที่มียุทธศาสตร์และยุทธวิธีสำหรับสมรภูมิเดียวต้องละล้าละลัง และกลายเป็นฝ่ายรับอย่างเป็นฝ่ายถูกกระทำ
การปะทะกันในสมรภูมิสงครามเศรษฐกิจ การค้าและการเงิน และสื่อมวลชน กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน แต่โดยสภาพก็ได้ปรากฏให้เห็นถึงชัยชนะและปราชัยขึ้นแล้ว
สถานการณ์ในขณะนี้รัสเซียได้ผนวกดินแดนภาคตะวันออกและภาคใต้ของยูเครนรวมสี่แคว้นเข้าเป็นอาณาจักรของรัสเซีย ที่จะได้รับการคุ้มครองอธิปไตยตามรัฐธรรมนูญของรัสเซีย
ในขณะที่ความแตกแยกแตกสามัคคีและความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับประชาชนของบรรดาประเทศยุโรปกำลังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง และนี่ก็เป็นรากฐานของความปราชัยอย่างหนึ่ง
อาการล่มสลายของยุโรปกำลังปรากฏให้เห็นชัดขึ้นทุกทีแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี