เนื่องในโอกาสครบ 6 ปีแห่งการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ผู้ทรงทุ่มเทพระวรกายเพื่อพสกนิกรไทยทั้ง “แผ่นดินราชอาณาจักรไทยกว่า 513,120 ตร.กม.” มาตลอดระยะเวลาการทรงครองราชย์ พระองค์ทรงสถิตกลางดวงใจคนไทยตราบนิจนิรันดร์ หมายถึง ตลอดไปไม่มีที่สิ้นสุด
เราร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าฯอัญเชิญพระบรมราโชวาทบางบทมาเป็นมิ่งขวัญสิริมงคลในการดำรงชีวิตยามบ้านเมืองเกิดวิกฤตแก่รัฐบาลยามนี้ ความว่า
“การทำงานด้วยใจรักต้องหวังผลงานนั้นเป็นสำคัญแม้ไม่มีใครรู้ใครเห็นก็ไม่น่าวิตก เพราะผลสำเร็จนั้นจะเป็นพยานที่มั่นคง ที่พูดเช่นนี้เหมือนกับสอนให้ “ปิดทอง หลังพระ”...การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด ว่าที่จริงแล้วคนโดยมาก ไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนักเพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้าไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้”
เห็นข่าวอุทกภัยที่เกิดขึ้นทั้งจังหวัดภาคเหนือตอนล่างภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ปัญหาน้ำท่วมในประเทศไทยเป็นปัญหาที่เรื้อรังมายาวนาน และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลยาวนานกว่า 2 เดือน เมื่อปี พ.ศ. 2538 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริจัดทำ “โครงการแก้มลิง” เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัย โดยอิงจากหลักการกินกล้วยของลิง ทรงมีพระราชดำรัสถึงลิงที่อมกล้วยไว้ในกระพุ้งแก้มได้คราวละมากๆ และมีพระราชกระแสอธิบายความว่า
“ลิงโดยทั่วไปถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงจะรีบปอกเปลือกเอาเข้าปากเคี้ยว แล้วนำไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน ลิงจะทำจนกล้วยหมดหวีหรือเต็มกระพุ้งแก้ม จากนั้นจะค่อยๆ นำออกมาเคี้ยวและกลืนกินภายหลัง”
นี่คือต้นแบบการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาลในทุกยุคสมัยที่จะหาพื้นที่รับน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของอาณาประชาราษฎรมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อกระบวนทัศน์เปลี่ยนตามโลกที่เปลี่ยนพลวัตจาก“โกบอลไลเซชั่น” มาสู่ “ยุคดิจิทัลและสู่ความพอเพียงและพึ่งพาตนเอง” โลกใบนี้จะเปลี่ยนไปจากเดิมโดย “มหาเศรษฐีอย่าง Ray Dalio-เรย์ ดาลิโอ” ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและผู้ใจบุญที่ทำหน้าที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนร่วมของ Bridgewater Associatesตั้งแต่ปี 1985 โดย เขาก่อตั้ง Bridgewater ในปี 1975 ในนิวยอร์ก ทว่า สิบปี ต่อมากองทุนนี้ได้รับเงินลงทุน 5 ล้านเหรียญสหรัฐ จากกองทุนบำเหน็จบำนาญของธนาคารโลก และมีประวัติยอดเยี่ยมด้านการเงินระดับโลกเชื่อว่า “เรากำลังก้าวไปสู่โลกแห่งความพอเพียง”
เขาเชื่อว่าเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ปฏิบัติได้จริงไม่ใช่วาทกรรม ทว่า เป็นการตกผลึกจากประสบการณ์ส่วนพระองค์ที่ทรงศึกษาเกี่ยวกับเรื่องดินและน้ำมาประยุกต์กับเรื่องเศรษฐศาสตร์ ออกมาเป็น “เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่” ที่มุ่งเน้นให้ประชาชน สามารถอยู่รอดได้ ในสภาพที่โลกมีความเปลี่ยนแปลงสูง
รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระอัจฉริยภาพทรงมีพระเนตรพระกรรณกว้างไกลหลักแหลมทางปรัชญาสังคม มีความเข้าใจ ถึงจุดอ่อนของแนวคิด “ทุนนิยม และ สังคมนิยม” อย่างถ่องแท้เรียกได้ว่า หากพระองค์ทรงพระราชสมภพยุคเดียวกับ “เพลโตโสเครติส”หรือแม้แต่ “คาร์ล มาร์กซ์” บิดาของระบอบสังคมนิยม ก็คงมีโอกาสได้ เห็นพระองค์ทรงวิพากษ์ปรัชญาทางสังคมได้อย่างหลักแหลมถ่องแท้
พระองค์ทรงสถิตกลางใจคนไทยทั้งชาติตราบนิจนิรันดร์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี