“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” นักการเมืองคนรุ่นใหม่ที่เพรียกหา“ประชาธิปไตยแบบ??” อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประธานคณะก้าวหน้ากลุ่มการเมืองที่ทำงานคู่ขนานไปกับพรรคก้าวไกลที่แปลงร่างมาจากพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรค

ธนาธร เคลื่อนไหวร่วมกับ “ปิยบุตร แสงกนกกุลอดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่” ในเรื่องของการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง และน่าจะมีส่วนร่วมและ/หรืออยู่เบื้องหลังกับการเคลื่อนไหวของชมรมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, มวลชนคณะราษฎร์ ของสามกีบในสังคมไทย

เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” โพสต์ข้อความลงแฟนเพจเฟซบุ๊คที่ชื่อ “Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เนื้อหาสาระเกี่ยวกับ “นิรโทษกรรม-ปฏิรูปสถาบันฯลฯ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “นิทรรศการ ตุลาทมิฬ 6 ตุลา 19 เผชิญหน้าปีศาจ”

ธนาธรสำรอกสำรากประวัติศาสตร์การเมือง อ้างกระแสเกลียดชังของสังคมไทยที่มีต่อขบวนการนักเรียนนิสิตนักศึกษาที่ถูกป้ายสีว่าเป็นฝ่ายคอมมิวนิสต์จนนำไปสู่การสังหารหมู่ด้วยการฆาตกรรม , ทารุณกรรม อย่างโหดเหี้ยมจนนิสิตนักศึกษาต้องละทิ้งบ้านทิ้งเมืองทิ้งสถานศึกษาเข้าป่าจับอาวุธต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาล ผ่านไป 4 ปีรัฐบาล พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ได้ออกนโยบาย 66/23 นิรโทษกรรมให้นิสิตนักศึกษาที่หลงผิดให้กลับมาใช้ชีวิตปกติในบ้านในเมือง หรืออย่างในปี 2557 รัฐบาลนิรโทษกรรมนักโทษทางการเมืองทั้งหมดที่เกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมือง

การนิรโทษกรรมนักโทษคดี ม.112 จึงเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกต่อการสร้างสังคมที่ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ไปสู่ความก้าวหน้าต่อไป ไม่นำไปสู่ความแตกแยก

“ตี๋น้อย-ธนาธร”หมายรวมถึงกรณีการเคลื่อนไหวในโลกโซเชี่ยลของ “อบจ. องค์การบริหารนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ที่มี “สิรภพ อัตโตหิ” คนในกลุ่มของ “แฟรงค์ - เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล” เป็นนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความในแฟนเพจขององค์กรอวยพรวันเกิด “โจซัวหว่อง” ซึ่งตรงกับวันสำคัญของสังคมไทย และเป็นลักษณะการโพสต์ที่ เข้าข่ายคดี ม.112??? โดยเฉพาะคำอวยพรใต้ภาพ “ธนาธร”ลองใช้สติปัญญาที่มีที่ว่าฉลาดล้ำลึกจนอาสาเสนอตัวมาบริหารบ้านเมืองตัดสินใจดูทีเถิด สร้างความแตกแยกหรือไม่อย่างไร

ประเด็นที่ต้องแก้ไขคือนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬานายเนติวิทย์ถูกตัดคะแนนความประพฤติจึงโดนคำสั่งปลด เลือกตั้งใหม่ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม 2565 ได้นายสิรภพ อัตโตหิ เป็นนายกฯคนใหม่ ซึ่งมาจากกลุ่มการเมืองกับนายเนติวิทย์

“โจซัว หว่อง” ที่ “ตี๋น้อย-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เคยกอดคอถ่ายรูปอย่างสนิทสนมในงานประชุม “Open Future Forum”ในฮ่องกง ช่วงที่นายคนนี้เป็นแกนนำต่อต้านมหามิตรอย่าง “สาธารณรัฐประชาชนจีน” เพื่อสนับสนุนการแบ่งแยก “ฮ่องกง”ออกจากจีน ถึงมีข้อความ “ฮ่องกงเป็นประเทศ”

ลักษณะนี้ใช่หรือไม่ที่คิดว่าไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทย และเป็นก้าวสำคัญก้าวแรกต่อการสร้างสังคมที่ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ไปสู่ความก้าวหน้าต่อไป ไม่นำไปสู่ความแตกแยก ใช่หรือไม่

นอกจากนี้จะนำไปสู่การสร้างสังคมที่เติบโตบนความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ สังคมที่คนเห็นต่างจะไม่ถูกฆ่าหรือกลายเป็นอาชญากร นั่นก็คือการยืนยันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นต่อการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์

ในฐานะคนที่มีคดีความ ม.112 อยู่กับตัวแล้วหลายคดี คิดว่านี่คือหน้าที่ของพวกเราประชาชน ที่จะร่วมกันยืนยันว่าการพูดถึงประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เป็นเสรีภาพที่ทำได้ ไม่ใช่อาชญากรรม

การนิรโทษกรรมผู้ต้องหาคดีผิด ม.112 จึงเป็นเรื่องที่ถูกที่ควรกระนั้นหรือ