เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2565 รักษาการประธานาธิบดีรัฐบาลสามัคคีแห่งชาติ (National Unity Government=NUG) รัฐบาลเงาในสหภาพเมียนมา นายดูหว่า ละ ชีลา ให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนักทั้งสำนักข่าวตะวันตก และสื่อออนไลน์พม่าที่ทำปฏิบัติการข่าวให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหาร
การให้สัมภาษณ์สื่อหลายสำนักในวันเดียวกันในสถานที่ ไม่เปิดเผยในประเทศพม่าดูเหมือนว่า นายดูหว่า ละ ชีลา จะย้อนแย้งและสับสนในตัวเอง ที่เตือนคณะรัฐมนตรีและ สส.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองพรรคเอ็นแอลดีว่า “อย่าหลงเงาตัวเองอย่าเล่นกับความรู้สึกของชาวพม่า และอย่าคุยโม้เกินไปให้อยู่กับความเป็นจริงของสถานการณ์ในประเทศเมียนมา” ในการให้สัมภาษณ์อิรวดี สื่อออนไลน์ในเครือของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่า
นายดูหว่า ละ ชิลา กล่าวว่า “ขอเตือนรัฐมนตรี และ สส. บางคนที่ไปให้ความหวังลมๆ แล้งๆ แก่ประชาชนว่า นักรบฝ่ายประชาธิปไตยจะโค่นล้มกองทัพพม่าลงได้ในเร็ววัน..และ ขอประณาม สส.บางคนที่พูดว่านักรบฝ่ายประชาธิปไตย เตรียมเข้ายึดเมืองใหญ่ขอให้ประชาชนกักตุนข้าวสารอาหารแห้งไว้ในยามฉุกเฉิน” นายดูหว่า ละ ชีลา กล่าวกับอิรวดีด้วยว่า ขอให้ทุกคนมุ่งมั่นต่อสู้ต่อไปอย่าได้หวั่นไหว ออกจากแนวทางที่วางไว้ว่า การต่อสู้กับกองทัพที่มีรากฐานมั่นคงต้องใช้เวลา อย่าได้บอกประชาชนว่าการปฏิวัติของฝ่ายประชาธิปไตยจะมีชัยในเร็ววัน
...และขอเตือนรัฐมนตรีบางคนที่ไปให้ข่าวนอกเหนือจากขอบข่ายการทำงานของตัวโดยการให้สัมภาษณ์ถึงยุทธศาสตร์ทางทหารว่า นักรบประชาธิปไตย ได้เข้าถึงอาวุธทันสมัยที่มีประสิทธิภาพสูงอาวุธต่อต้านอากาศยาน..อย่าลืมว่าการปฏิวัติประชาชนอยู่ได้เพราะการสนับสนุนของชาวพม่าทั้งในและต่างประเทศ ฝ่ายปฏิวัติประชาชนต้องรักษาศรัทธาของสาธารณชนไว้ให้ได้ เพื่อการต่อสู้ในระยะยาว..อย่าเล่นกับความรู้สึกประชาชน” นายดูหว่า ละ ชีลากล่าว
นายดูหว่า ละ ชีลา อดีตครูประชาบาลที่พาครอบครัวหนีการปราบปรามทหารพม่ามาจากทางเหนือรัฐคะฉิ่นและใช้รัฐชินอยู่ทางใต้ใกล้ชายแดนอินเดีย เป็นฐานที่มั่นตั้ง รัฐบาลสามัคคีแห่งชาติขึ้นมาต่อสู้รัฐทหารพม่า ร่วมกับพันธมิตรใกล้ชิดที่ชื่อว่า “กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defense Forces=PDF) เอ็นยูจี กับ พีดีเอฟ ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองในสังกัด นางออง ซาน ซู จี ที่ถูกทหารนำโดยพลเอกมิน อ่อง หล่าย ยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ทั้งเอ็นยูจี และพีดีเอฟ ไม่มีความรู้ และประสบการณ์ทางทหาร การต่อสู้ของฝ่ายต่อต้านจึงไม่มีประสิทธิภาพ เพราะทั้งพีดีเอฟ และเอ็นยูจีเคลื่อนไหวตามแนวทาง และยุทธวิธีที่อดีตทหารอเมริกันวางแผนให้
ฝ่ายอดีตทหารอเมริกันก็สมคบกับสื่อตะวันตก ทำปฏิบัติการข่าวยกหูชูหาง พีดีเอฟ ว่า เป็นนักรบประชาชนนักปฏิวัติคนรุ่นใหม่ ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วครอบคลุมทั่วประเทศพม่า ซึ่งสามารถยึดดินแดนได้กว้างใหญ่ไพศาล และจะโค่นกองทัพพม่าลงได้ในไม่ช้า นี่คงเป็นสาเหตุใหญ่ทำให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าพากันฮึกเหิมไปกับการโฆษณาชวนเชื่อของอเมริกาจนเรียกได้ว่า “บ้าเงาตัวเอง” การให้สัมภาษณ์อิรวดี ซึ่งมีเป้าหมายส่งสารถึง พีดีเอฟ นายดูหว่า ละ ชีลา จึงได้เตือนสติว่า สู้กับกองทัพพม่าที่มีทั้งรัสเซีย จีน และอินเดียสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ให้ไม่ใช่เรื่องง่ายต้องใช้เวลา
แต่เมื่อให้สัมภาษณ์รอยเตอร์ส ในวันเดียวกันนายดูหว่า ละ ชีลา คงมีเป้าหมายส่งสารถึงโลกตะวันตก จึงได้ฮึกเหิมขึ้นมาบอกรอยเตอร์สว่า#หากได้การช่วยเหลือเหมือนยูเครน# ฝ่ายประชาธิปไตยเอาชนะได้ภายในหกเดือน...” นักรบฝ่ายประชาธิปไตยสังหารทหารพม่าไปแล้ว
ถึงสองหมื่นนายในเวลาเดียวกันนักรบประชาธิปไตยสละชีพเพื่อชาติไปแล้วสองพันคน” การให้สัมภาษณ์ที่หลบซ่อนตัวในประเทศพม่า นายดูหว่า ละ ชีลาเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรนานาชาติ โดยเฉพาะการสนับสนุนอาวุธระบบป้องกันทางอากาศเช่นเดียวกับที่ยูเครนได้รับเขามั่นใจว่าจะเอาชนะกองทัพเมียนมาได้...
“ถ้าเรามีอาวุธต่อต้านอากาศยาน ก็พูดได้เต็มปากว่าเราสมารถชนะได้ภายในหกเดือน หากเพียงแต่เราได้รับการสนับสนุนแบบเดียวกับที่ยูเครนได้รับจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ความทุกข์ของทหารของประชาชนที่ถูกเข่นฆ่าก็จะยุติลงในทันที” ดูหว่า ละ ชิลา กล่าวกับรอยเตอร์ส และคุยโวว่าพร้อมสละชีวิตเพื่อชาติ “ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะสละชีวิต มันขึ้นอยู่กับพระประสงค์ของพระเจ้า ผมมุ่งมั่นพร้อมจะเสียสละเพื่อประเทศชาติอยู่แล้ว” เขาบอกกับรอยเตอร์สด้วย ว่ากำลังพิทักษ์ประชาชน หรือพีดีเอฟ ไม่มีอาวุธที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสู้รบกับทหารเมียนมา ซึ่งใช้เครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดโจมตี อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย จีน และ อินเดีย
นายดูหว่า ละ ชีลา มีพฤติกรรมไม่ต่างจากนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี อดีตดาราตลกทีวีผู้ได้เลือกเป็นประธานาธิบดียูเครน ที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสุขสบาย ขณะที่ประเทศยูเครนกำลังถูกทำลายพินาศวอดวาย ประชาชนกำลังจะหนาวตาย และอดตายยังคุยโวได้ว่า หากสหรัฐและนาโตส่งอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงเพิ่มเติมมาให้จะชนะสงครามในเร็ววัน
รักษาการประธานาธิบดีรัฐบาลเงาพม่า มิได้สำเหนียกว่า การเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกเข้ามาแทรกแซง คือ การนำประเทศชาติเข้าสู่หายนะ และมิได้สำเหนียกด้วยว่า กองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลายรบกับทหารพม่ามาแล้วกว่าหกทศวรรษ ยังไม่สามารถยึดพื้นจากรัฐบาลทหารพม่าได้แม้แต่ตารางนิ้วเดียว
กองทัพพม่ามีแสนยานุภาพแข็งแกร่งที่สุดในอาเซียน มีกำลังพลประจำการกว่า 500,000 นาย มีเครื่องบินรบจากรัสเซีย จีนและอินเดีย มีเรือดำน้ำประจำการถึง 4 ลำ นอกจากนั้น พม่าเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีระบบป้องกันและตอบโต้ขีปนาวุธของรัสเซียติดตั้งไว้ กองทัพพม่ามีแสนยานุภาพมากกว่ากองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์รวมกันทั้งหมดกว่าหกเท่า
กองกำลังติดอาวุธของฝ่ายต่อต้านที่เรียกตัวเองว่า เป็นฝ่ายประชาธิปไตย ทำได้เพียงก่อกวนด้วยการวางระเบิดรายวัน เพื่อให้เสียงนั้นดังก้องผ่านปฏิบัติการข่าวของอเมริกาไปถึงฝรั่งหูเบาทั้งหลาย จนทำให้สหประชาชาติประกาศว่า ประชาชนเมียนมากว่า 1.3 ล้านคนต้องพลัดถิ่นภายในประเทศตัวเอง ตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 1 ก.พ.2564 พร้อมกับระบุว่า การโจมตีของกองทัพหลายครั้ง อาจถือเป็อาชญากรสงคราม ในเวลาเดียวรัฐทหารพม่า ยืนยันว่าไม่ได้พุ่งเป้าโจมตีไปที่พลเรือนและอ้างว่าการโจมตีของกองทัพเป็นการตอบสนองต่อการโจมตีของ “กลุ่มก่อการร้าย” รัฐบาลทหารพม่าขึ้นบัญชีเอ็นยูจี และพีดีเอฟ เป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย
การให้สัมภาษณ์รักษาการประธานาธิบดีของรัฐบาลเงาพม่า ที่มีความย้อนแย้งอยู่ในตัวมันเอง จึงมีแต่จะนำความหายนะมาสู่ประเทศพม่าซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องส่งผลกระทบกระเทือนถึงประเทศไทยที่มีชายแดนติดกันถึงสองพันกว่ากิโลเมตรจึงจำเป็นที่ต้องเตือนสติผู้อ่านทั้งหลายว่า อย่าได้บ้าตามปฏิบัติการข่าวของตะวันตกมากนัก เพราะจะนำความหายนะมาสู่ประเทศไทยพร้อมๆ ไปกับพม่า
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี