เนื่องในอภิลักขิตสมัยขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โปรดประทานคติธรรมเพื่อเป็นมงคลชีวิตแก่พุทธศาสนิกชนว่า “ธมฺมกาโม ภวํ โหติ ผู้ชอบธรรม เป็นผู้เจริญ ขอท่านจงมั่นคงในความชอบธรรม เพื่อความเจริญทั้งความเป็นสุขของตน และส่วนรวมเทอญ”
ในพุทธศาสนสุภาษิตนั้นสอนว่า ผู้ชอบธรรม คือ ผู้ใคร่ในธรรม มีใจฝักใฝ่ในธรรม หมั่นศึกษาธรรมะ เพื่อให้มีปัญญารู้แจ้งสรรพสิ่งตามความเป็นจริง รู้จักบาปบุญคุณโทษ ประโยชน์และมิใช่ประโยชน์
เมื่อรู้แล้วก็ปฏิบัติตนตามหลักธรรมที่ได้เรียนรู้มา ละสิ่งที่เป็นความชั่ว ทำสิ่งที่เป็นความดี สร้างประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่นตามสมควรแก่อัตภาพ บุคคลเช่นนี้ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลายทั้งปวง เพราะเขาเป็นคนดี ประพฤติตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครๆ ทั้งสิ้น
เพราะเหตุนั้น เขาย่อมได้รับความสรรเสริญจากคนทั้งหลาย และตัวเขาเองย่อมประสบความสุขความเจริญอันเป็นผลมาจากคุณงามความดีที่เขากระทำไว้นั่นเองดังนั้น เราทั้งหลาย พึงฝึกตนให้เป็นผู้ใคร่ธรรม คือมีความนิยมชมชอบในการศึกษาธรรมะ และนำหลักธรรมนั้นมาเป็นหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิต หากทำได้ดังนี้ จะเป็นผู้มีความสุขความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
ขณะที่ผู้ชังธรรม คือ ผู้รังเกียจธรรมะ หันหลังให้ธรรมะ ไม่เชื่อคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่กลับไปหลงใหลในอธรรมคือความไม่ดีทั้งหลาย เมื่อผู้ใดชังธรรมคือเกลียดธรรมแล้ว ย่อมไม่ยินดีในการประกอบคุณงามความดีไม่ยินดีในการสร้างประโยชน์ตนเองและประโยชน์ส่วนรวม อีกทั้งไม่ยินดีในการสร้างประโยชน์อย่างยิ่งการใช้ชีวิตของเขาย่อมเป็นไปเพื่อความเสื่อมโดยส่วนเดียว เพราะเขาไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นการหันหลังให้ความเจริญอย่างสิ้นเชิง เมื่อหันหลังให้ความเจริญเสียแล้ว ก็ย่อมเป็นการบ่ายหน้าสู่ความเสื่อมโดยปริยาย
ความหลง ได้แก่ โมหะ เป็นกิเลสที่เป็นมูลเหตุให้เกิดกิเลสตัวอื่น เช่น ความโกรธเมื่อจะเกิดก็เกิดเพราะโมหะความโลภเมื่อจะเกิดก็เกิดด้วยอำนาจโมหะ
โมหะ เป็นตัวปิดบังปัญญาให้มืดบอด ผู้ถูกโมหะครอบงำ ย่อมมีปัญญามืดมิด มองไม่เห็นอรรถ ไม่เห็นธรรม ไม่รู้จักทุกข์ ไม่รู้จักเหตุให้เกิดทุกข์ ไม่รู้จักความดับทุกข์ และไม่รู้วิธีที่จะถึงความดับทุกข์
การที่สรรพสัตว์ต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารทุกวันนี้ก็เพราะโมหะนี่แหละเป็นตัวการ เพราะโมหะทำให้หลงผิดทำให้ไม่รู้อริยสัจ 4 ทำให้ลุ่มหลงมัวเมาในสิ่งลวงโลกทั้งหลายซึ่งไม่ใช่ของจริง ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน หลงคิดไปว่าสิ่งที่ได้รับในโลกนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสุขที่แท้จริง แล้วก็หลงยึดติดเสพติดอยู่ ทำให้เกิดโมหะลุ่มหลงในอำนาจ อยากได้ใครมีอำนาจรัฐ ไม่ยินดีสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมมุ่งสร้างประโยชน์แต่ส่วนตนเท่านั้น แต่หากมีสมาธิปัญญาก็จะเกิดจะเป็นปฏิปักษ์ เป็นเครื่องกำจัดโมหะให้ลดลงทีละน้อยแล้วก็หมดไปในที่สุด
ที่ผ่านมาพุทธศาสนิกชนย่อมทราบดีว่าอย่างใดคือผู้ชอบธรรม อย่างใดคือผู้ชังธรรมสัมภเวสี เพื่อความรุ่งเรืองของประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อความสงบสุขของสังคมไทย เราอยากให้ท่านนำคติธรรมอันเป็นมงคลนี้ไปพิจารณาตัดสินว่า
ควรเลือกใครมาบริหารประเทศ ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายไม่ให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นได้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี