สวนป่าเบญจกิติ ผลงานโบแดงของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ปอดกลางกรุงขนาดใหญ่ แลนด์มาร์คแห่งใหม่
หลังจากส่งมอบให้ กทม.รับผิดชอบดูแล ได้เกิดประเด็นดราม่าขึ้นมา
1. กทม.ในยุคผู้ว่าฯชัชชาติ ทยอยยกเลิกโครงการที่ดำเนินการมาก่อนหน้าหลายโครงการแล้ว(เรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ กิจกรรมที่คลองโอ่งอ่าง ฯลฯ)สวนป่าเบญจกิติกลายสภาพแห้งแล้ง บัวแล้งตายไปจำนวนมาก ปลาก็กำลังจะตายตามหากน้ำแห้งหมดในอีกไม่กี่วันหญ้าบนเกาะแห้งตายไปบางส่วน ฯลฯ
ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า สวนขาดการดูแลที่เหมาะสม ทำให้เกิดความเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว
2. ผู้ว่าฯชัชชาติชี้แจงว่า สวนไม่ใช่สนามกอล์ฟที่จะเขียวตลอดปี
เพจสวนเบญจกิติ ก็พยายามช่วยอธิบายว่าเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนแปลง สวนออกแบบมาให้เป็นไปตามธรรมชาติมีแล้งตามฤดู ฯลฯ
ปรากฏว่า เมื่อชาวบ้านถามเข้าไปที่หน้าเพจพร้อมนำเสนอภาพที่กำลังเกิดความเสียหาย ไม่ใช่แค่แล้งตามฤดู แต่เหมือนขาดการดูแลที่ควรจะเป็น แอดมินก็ยอมรับว่าสวนเบญจกิติกำลังขาดน้ำ และยอมรับว่า สวนจะต้องมีการดูแล ไม่ใช่ให้ดูแลตัวเอง
3. จากนั้น เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 ปรากฏว่า กองทัพบก โดยกำลังทหารจิตอาสา พร้อมอุปกรณ์ทางการช่างรถบรรทุกน้ำ 4 คัน และรถฉีดน้ำในอาคารควบคุมระยะไกล 2 คัน เดินทางเข้าไปช่วยฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ร่วมกับรถน้ำจากสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ร่วมกันปรับปรุงพื้นที่ ฉีดพ่นน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นให้ต้นไม้และพืชคลุมดิน โดยเฉพาะบริเวณ “เกาะต้นไม้และพืชไม้ในบ่อตื้น” รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 3 เครื่อง สูบน้ำจากคลองไผ่สิงโตเข้าสู่บึงบำบัด ก่อนส่งน้ำที่บำบัดแล้วเข้าสระน้ำในสวนป่า ควบคู่กับการผันน้ำดีเข้ามาเติมในคลองไผ่สิงโต
กองทัพบก ชี้แจงว่า เพื่อให้การดูแลและฟื้นฟูมีความต่อเนื่อง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการวางแผนและเตรียมการวางระบบการบำบัดฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในส่วนป่าเบญจกิติ ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อม กทม. ทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำระบบน้ำ การดูแลพืชพรรณไม้เพื่อคงเอกลักษณ์ทางระบบนิเวศของสวนป่าเบญจกิติ ให้เป็นสถานที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจของชาว กทม. อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้เตรียมจัดกำลังพลจิตอาสา เพื่อสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูและพัฒนาสวนเบญจกิติตามห้วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป
4. น่าแปลกใจ ในเพจสวนเบญจกิติ วันที่ 12 ม.ค. 2566 ได้นำเสนอภาพทหารจิตอาสาเข้าร่วมฟื้นฟูสภาพสวนเบญจกิติ พร้อมกล่าวขอบคุณทหาร แต่หลังจากนั้น ก็ได้ทำการลบทิ้งภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ไม่เหลือภาพทหารจิตอาสาเข้าไปช่วยฟื้นฟูสภาพเลยแม้แต่ใบเดียว
5. สวนป่าขนาดใหญ่ ปอดแห่งใหม่ใจกลางเมืองหลวง บนที่ดินมูลค่าแสนล้านแห่งนี้ มิได้เสกสร้าง หรือเนรมิตขึ้นในชั่วเวลาข้ามคืน
ตั้งแต่มติคณะรัฐมนตรี 24 ธันวาคม 2534 สมัยรัฐบาลอานันท์ ให้ย้ายโรงงานยาสูบทั้งหมดไปอยู่ส่วนภูมิภาคและพัฒนาพื้นที่เดิมเป็นสวนสาธารณะ สวนสุขภาพและออกกำลังกาย ต่อมารัฐบาลมีโครงการจัดสร้างสวนสาธารณะในพื้นที่บริเวณโรงงานยาสูบดังกล่าว เพื่อร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อสวนสาธารณะว่า “เบญจกิติ”
วันที่ 24 พ.ค. 2564 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการเชื่อมสวนสาธารณะ “เบญจกิตติ” กับสวนสาธารณะอื่นๆในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2564 ผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์
“สวนแห่งนี้ จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เป็นสวนสาธารณะใหม่ที่คนไทยภาคภูมิใจร่วมกันเป็นปรากฏการณ์ของเมืองไทยใหม่ ที่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ของคนไทยและคนต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และเป็นสวนสาธารณะที่ช่วยแก้ไขปัญหา PM2.5 ได้ด้วย” - นายกฯ พลเอกประยุทธ์กล่าว
นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวคิด เน้นให้มีการสร้างสีสันให้กรุงเทพมหานครด้วยดอกไม้ตามฤดูกาล ภายในสวนต้องเป็นแหล่งของการเรียนรู้ มีพื้นที่สำหรับเล่นกีฬา ออกกำลังกาย เป็นสถานที่เล่นดนตรีในสวน มีพื้นที่ให้กับสมาชิกครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกัน สามารถนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาออกกำลังกายในพื้นที่ที่ควบคุมได้ รวมทั้งเป็นแหล่งการท่องเที่ยวที่ประชาชนทุกคนและกลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงได้ รวมทั้งให้คำนึงถึงความปลอดภัยและความสะอาดเป็นสำคัญด้วย
ที่ประชุมมีมติรับทราบการดำเนินโครงการสวนสาธารณะ “เบญจกิติ” ในพื้นที่เดิมของโรงงานยาสูบ เนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ โดยในปี 2547 ได้จัดสร้างสวนน้ำเนื้อที่ 130 ไร่แล้วเสร็จ และในปี 2559 ได้ดำเนินการจัดสร้างสวนป่า ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่แล้วเสร็จ และส่งมอบพื้นที่ดังกล่าวให้ กทม.ดูแลบำรุงรักษาและบริหารจัดการแล้ว
สำหรับการจัดสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ 259 ไร่ ในปี 2563 กรมธนารักษ์ได้ขอความร่วมมือจากกองทัพบก เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างสวนป่า “เบญจกิติ” ระยะที่ 2-3 เนื้อที่ 259 ไร่เพื่อให้การก่อสร้างสวนป่า จนแล้วเสร็จ ส่งมอบให้ กทม.เป็นคนดูแลจนปัจจุบัน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี