กรณีดำเนินการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์
ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนายลวรณ แสงสนิท เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯ จะมีการดำเนินการอย่างจริงจังในทุกฐานความผิดจากทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยได้มีการประชุมร่วมกับกรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง.กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไปเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2566 เพื่อวางกรอบแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกันยืนยันว่าหลังจากนี้ไปจะเห็นการดำเนินคดีออกมาอย่างต่อเนื่อง
1. ผู้ค้าสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่อาจอ้างได้ว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลก็เหมือนสินค้าทั่วไปที่ใครมีเงินก็ไปหาซื้อมาค้าขายได้ และโอ้อวดแบบผิดๆ ว่าตนเองก็เหมือน 7/11 ที่มีผู้ค้าสลากอยากเอาสลากมาวางขายที่แพลตฟอร์มของตนเอง ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย
วิธีคิดข้างต้น คือการแก้ตัวแบบงานหยาบ
เพราะสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ใช่สินค้าทั่วไป แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาตาม พ.ร.บ.สลากฯ ต้องทำตาม พ.ร.บ.สลากซึ่งเป็นกฎหมายเฉพาะ จึงไม่ใช่สินค้าทั่วไปแบบที่อ้างมั่วๆ
ยิ่งนำแพลตฟอร์มขายหวยตนไปเทียบกับ 7/11 ยิ่งทั้งมโนทั้งมั่วไปใหญ่ เพราะ 7/11ไม่เคยเอาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาวางขายเกินราคาแบบนี้ ถ้าวางขายเกินราคาแบบนี้ก็จะต้องถูกจับปรับเหมือนกัน
2. หากกองสลากฯ เพิ่มจำนวนสลากของรายย่อยที่ขายผ่านแอปเป๋าตัง 80 บาท พร้อมๆ กับการกวาดล้างจับกุมแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ที่ขายในราคาเกินกว่า 80 บาท (อ้างว่ารวมค่าดำเนินการ)
ประชาชนผู้บริโภค ก็จะมีแต่ได้กับได้
เพราะสามารถซื้อสลากในราคา 80 บาทผ่านแอปเป๋าตัง สะดวก ปลอดภัย
เอาง่ายๆ กองสลากฯ ขายผ่านแอปเป๋าตัง16 ล้านใบ ส่วนกองสลากพลัส อ้างว่าขายผ่านแพลตฟอร์มได้ 13 ล้านใบ รวมขายผ่าน 2 แพลตฟอร์มออนไลน์ ก็เกือบ 30 ล้านใบ/งวดแล้ว
หมายความว่า มีผู้บริโภคพร้อมจะซื้อสลากผ่านออนไลน์อย่างน้อย 30 ล้านใบต่องวด
ตอนนี้ บางส่วนซื้อ 80 บาทต่องวด บางส่วนต้องซื้อราคา 103-105 บาทต่องวด
เพราะฉะนั้น อย่างน้อยๆ กองสลากฯ สามารถเพิ่มสลากจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตัง ขายในราคา 80 บาท อย่างน้อยเป็น 30 ล้านใบต่องวด ก็จะยังมีผู้ซื้อแน่ๆ โดยต้องกวาดล้างจับกุมการกระทำผิดกฎหมายขายสลากเกินราคาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเด็ดขาดควบคู่กัน
ผู้บริโภคที่ซื้อสลากผ่านออนไลน์ ไม่เสียประโยชน์อะไรเลย สามารถมาซื้อผ่านแอปเป๋าตังจากรายย่อยที่ได้รับโควตาจากกองสลากฯ อย่างถูกต้อง ถูกกฎหมาย และเป็นธรรม
3. น่าอนาถใจ.. ตำรวจ ปคบ.จับปรับผู้บริหารกองสลากพลัส ข้อหาจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา
เจ้าตัวรับสารภาพว่าขายเกินราคาในงวด 1 ก.พ.2565 จำนวน 1 ใบ (ตามสลากที่ล่อซื้อ 1 ใบ)
คิดค่าปรับไม่ถึง 10,000 บาท
ขณะที่ยอดขายในงวดนั้น น่าจะถึง 3 ล้านใบวงเงินยอดขายกว่า 300 ล้านบาท!!! (ขายใบละ 100 บาท)
โดยตัวเลขยอดขายจริง น่าจะหาได้ไม่ยาก
เพราะเป็นการขายผ่านแพลตฟอร์ม ผู้ซื้อโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร ก็คือเลขบัญชีที่ตำรวจล่อซื้อมานั่นเอง
หากตำรวจเพียงแค่ตรวจสอบการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเดียวกันนั้น ในห้วงเวลางวดดังกล่าว ก็จะได้ “หลักฐานใหม่” เพิ่มเติมว่ากองสลากพลัสขายสลากงวดนั้นจริงๆ กี่ใบกันแน่
เป็นหลักฐานที่แน่นหนา มั่นคง ไม่แปรเปลี่ยน
และแน่นอนว่า คงจะขายเกินราคาทั้งหมด เพราะเป็นการขายงวดเดียวกัน แบบเดียวกันกับใบที่เจ้าตัวรับสารภาพแล้วนั่นเอง (หากเจ้าตัวปฏิเสธก็สามารถนำหลักฐานขึ้นไปต่อสู้ในชั้นศาล)
สมมุติ งวดนั้นไม่ต่ำกว่า 3 ล้านใบ
โดยหลักฐานชัดเจนคือการโอนเงินจากผู้ซื้อมัดเลยว่ากี่ใบ
ค่าปรับตามกฎหมาย คือ 10,000 บาท
เจตนาของกฎหมาย เพื่อมิให้มีการฝ่าฝืนดังนั้น หากมีเจตนาฝ่าฝืน ควรปรับหนักสุด
หากปรับ 10,000 บาทต่อใบ ขาย 3 ล้านใบ ค่าปรับก็จะเท่ากับ สามหมื่นล้านบาท
ย้ำ.. เจตนากฎหมาย คือ ป้องกันปราบปรามมิให้ขายสลากเกินราคา แต่ถ้าจงใจฝ่าฝืน เจตนาไปกว้านซื้อมาราคาแพงๆ เพื่อจะมาขายแพงกว่าผ่านแพลตฟอร์ม แสวงหาผลกำไรส่วนต่าง จำนวนมหาศาลอย่างไม่อาจเทียบกับรายย่อยทั่วไป ก็ย่อมสมควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดหรือไม่?
หากเจ้าหน้าที่รัฐเจตนาละเว้น ช่วยเหลือเพื่อให้สามารถประกอบกิจการแสวงหาผลประโยชน์ด้วยการจงใจกระทำผิดกฎหมายต่อไปเรื่อยๆ ย่อมเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เอื้อประโยชน์แก่นายทุนแพลตฟอร์มออนไลน์ มาตรา 157
ยิ่งกว่านั้น กองสลากพลัสยังขายเกินราคาในลักษณะเดียวกับที่รับสารภาพต่อไปจนถึงงวดเดือน พ.ค. 2565
ประการสำคัญ การตรวจสอบว่ามี“หวยทิพย์” หรือไม่ ก็เช่นกัน ย่อมสามารถตรวจสอบยอดเงินที่ซื้อขายจริงผ่านบัญชีธนาคาร เทียบกับยอดตัวสลากที่แพลตฟอร์มเก็บไว้ ว่ามีจำนวนสัมพันธ์กันหรือไม่ ถ้ายอดขายมากกว่าสลากที่มีอยู่จริง ก็เข้าข่าย “หวยทิพย์” เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.พนัน เข้ามูลฐานความผิด สามารถเดินหน้ายึดอายัดทรัพย์สินเป็นของแผ่นดินต่อไปได้
เจ้าหน้าที่รัฐไม่ควรละเว้น มิฉะนั้น ย่อมจะถูกครหาว่า พยายามปกป้องคุ้มครองนายทุนหวยแพลตฟอร์ม
4. หน่วยงานที่ได้มีการร่วมประชุมกับกองสลากฯ ได้แก่ กรมสรรพากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ปปง. กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็ถึงเวลาทำหน้าที่ของตนอย่างเด็ดขาด เลิกปาหี่ ตามนโยบายที่ถูกต้อง ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ถึงเวลากอบกู้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของหน่วยงานให้พ้นจากข้อครหา
ที่สำคัญ นายกฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อมีนโยบายข้อสั่งการชัดเจน หากยังมีหน่วยงานใดเกียร์ว่าง เย้ยหยันทั้งข้อสั่งการและข้อกฎหมาย ก็ถึงเวลาจะต้องจัดการเด็ดขาด เอาจริง ไม่ควรเก็บข้าราชการพรรค์อย่างนี้ไว้ทำพันธุ์ต่อไป มิฉะนั้น จะเสียทั้งภาวะผู้นำ และเสียประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน
สันติสุข มะโรงศรี
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี