เป้าหมายแลนด์สไลด์ของนักโทษหนีคุกกับพรรคการเมืองในอาณัติ อาจสะดุดหยุดลงได้ง่ายๆ เมื่อหยิบ “จิ๊กซอว์ทางการเมือง” ในยามนี้ขึ้นมาพิจารณา
1) แรมโบ้อีสาน ชักนำลูกน้องเก่าทักษิณมาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส. ในภาคอีสานให้แก่พรรค “รวมไทยสร้างชาติ” ที่ชู พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ รับมนตรีได้อีกหลายคน ขณะที่อีกหลายคน ตีจากพรรคเพื่อไทยไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยกับพรรคไทยสร้างไทยมาเป็นระยะๆ
2) เรื่องที่ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เอ่ยปากว่า “ทักษิณกลับมาเลี้ยงหลาน” กลายเป็นเรื่องร้องเรียนให้หน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณา ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ทำให้ประเด็นนี้ต้องสะดุดหยุดลง เอาออกมาขาย มาหากิน มาจูงใจคนรักทักษิณแบบโฉ่งฉ่างอย่างเดิมไม่ได้
3) การเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ บวก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และการออกมาเปิดโปง “ทักษิณ ชินวัตร” ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ยึดพื้นที่ข่าวการเมืองไปแทบไม่เหลือให้อุ๊งอิ๊งและทักษิณโจมตีรัฐบาลเลย ชวนให้คิดว่า เป็นการทำงานแบบ “ร่วมกันเดิน แยกกันตี” หรือไม่
4) ที่น่าสนใจล่าสุด คือ การเปิดเกมชิงมวลชน-ชิงคะแนนจากพรรคเพื่อไทยของพรรคก้าวไกล เป็นที่จับตามองกันว่า ผู้ต้องหาสองคนประกาศถอนประกันตัวเองเพื่อจะกลับเข้าคุก แล้วเปิดยุทธการอดข้าวพร้อมข้อเรียกร้องทำให้พรรคก้าวไกลไสช้างศึกออกมา “หาพื้นที่ข่าว” เล่นบท “พรรครักสิทธิเสรีภาพ” ขึ้นมาอย่างฉับไว ธนาธร-พรรณิการ์ แห่งคณะก้าวหน้า ก็ออกมาช่วยดึงพื้นที่ข่าวให้ จากนั้นมวลชนบุกเข้า “พรรคเพื่อไทย” ถามหาจุดยืนในเรื่องที่พวกตนเรียกร้องทันที
5) วันที่ 29 ม.ค. 2566 - นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคุก โพสต์เฟซบุ๊กว่า
“วันนี้ผมได้ทราบข่าวว่าคุณไพโรจน์ โชติศรีพันธ์พร ซึ่งเข้าร่วมกิจกรรมยืน หยุด ขัง กับกลุ่มทะลุฟ้า ได้หมดสติเสียชีวิตลง ผมต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของคุณไพโรจน์ ต่อการสูญเสียครั้งนี้ด้วยครับ
ขณะเดียวกัน ผมทราบมาว่าทางกลุ่มทะลุวังจะไปทวงให้พรรคเพื่อไทยยกเลิกมาตรา 112 และ 116 ผมขอเสนอผู้บริหารพรรคให้เชิญชวนกลุ่มน้องๆ ไปห้องสมุดพรรคเพื่อไทย เพื่อเข้าใจประวัติศาสตร์การต่อสู้ของพรรคตั้งแต่ไทยรักไทย
ผมได้พูดเรื่อง 112 หลายครั้งว่าปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้ที่ขาดหลักนิติธรรม เลยทำให้ไประคายเจ้านาย ผมมั่นใจว่าถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะไม่มีเหตุการณ์แบบทุกวันนี้ จนแทบจะไม่รู้สึกว่ากฎหมายเป็นปัญหา การแก้ปัญหาด้วยการบริหารด้วยหลักนิติธรรมที่เป็นสากลจะง่ายและรวดเร็วกว่าการแก้กฎหมายเยอะ
อย่าทะลุวังเลย มาทะลุทำเนียบดีกว่า เพื่อหลักนิติธรรมสากลจะกลับคืนสู่ประเทศไทย พร้อมการมองเห็นอนาคตของลูกหลาน
อย่าปล่อยให้เขาพลิกโฉมประเทศไทยอีก 2 ปีเลย ที่ผ่านมา 8 ปี พลิกคว่ำก็หายใจไม่ออก เต็มไปด้วยหนี้ พลิกหงายก็ถูกข่มขืนโดยนักคอร์รัปชั่น ทุนต่างชาติ และธุรกิจสีเทา”
6) ต่อมา วันที่ 31 ม.ค.2566 คณะราษฎรยกเลิกมาตรา 112 เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อไทย ยื่นข้อเรียกร้องพร้อมกับสอบถามความชัดเจนในแนวทางการแก้ไขมาตรา 112 และมาตรา 116 ว่า พรรคเพื่อไทย จะดำเนินการอย่างไร และเรียกร้องมายัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย รวมไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ตกเป็นเหยื่อในคดีทางศาล จะดำเนินการอย่างไร ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มเคลื่อนไหวลงชื่อจำนวน 3 แสนรายชื่อ
โดยสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง คือ ให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออก ต้องเป็นอิสระปราศจากอำนาจนำ และผู้บริหารศาลต้องไม่แทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคนที่ถูกคุมขัง ผลักดันต่อศาลอาญาให้มีการปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 รวมทั้งให้พรรคการเมืองทุกพรรคเสนอแนวนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยยกเลิกมาตรา 112 และมาตรา 116 และกฎหมายที่จำกัดสิทธิและเสรีภาพการรวมกลุ่มการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุมหรือการแสดงออกทางการเมืองเพื่อคืนความยุติธรรมนำผู้ลี้ภัยการเมืองกลับมาประเทศไทย
น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง สมาชิกกลุ่มทะลุวังได้ขึ้นปราศรัย ว่า คาดหวังว่า พรรค พท. จะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรกับข้อเรียกร้อง 3 ข้อและออกแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวให้ชัดเจนขอให้ยืนเคียงข้างกับประชาชนและเยาวชน และจะเดินทางไปได้ทุกๆ พรรคเพื่อสอบถามความชัดเจนในเรื่องของการแก้ไขมาตรา 112 และ 116
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ปราศรัยตอนหนึ่งว่า อยากพูดกับแกนนำของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านในเหตุการณ์สำคัญต่างๆ มาแล้ว พรรคเพื่อไทยไม่แตะต้องหรือแก้ไขมาตรา 112 ด้วยเหตุผลใด ทำความผิดหวังมายังประชาชน ที่ต่อสู้กับการรัฐประหาร อยากจะมาถาม ผู้ที่เคยได้ดิบได้ดีที่อยู่ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเดือนตุลาฯว่า จะดำเนินการอย่างไร เช่น หมอมิ้ง-นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช ขอให้พรรคเพื่อไทย นึกถึงคนที่ลี้ภัย ไม่ใช่แค่นายทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ เท่านั้นมีอีกเป็น 100 คน หาก น.ส.แพทองธารไม่กล้าที่จะแก้ไขมาตรา112 เส้นทางแลนด์สไลด์ หรือเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไร้ความหมาย อยากให้กล้าหาญปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
จากนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรคนายจาตุรนต์ ฉายแสง นายภูมิธรรม เวชยชัย นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช แกนนำพรรคและกลุ่มคนเดือนตุลา รวมทั้งนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรค ได้ออกมารับฟังข้อเรียกร้องและรับหนังสือที่กลุ่มดังกล่าวมายื่น พร้อมเชิญตัวแทนกลุ่ม เข้ามาพูดคุยที่ทำการพรรคเพื่อหาข้อสรุป
7) ในเวลาต่อมา นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมาและเลขาธิการพรรค ร่วมแถลงภายหลังการหารือ
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของเยาวชนที่มาเรียกร้องที่พรรคนั้น
1.เราขอแสดงความเคารพในการตัดสินใจ ความเสียสละในการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวของตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ การถอนประกันตัวเองและอดอาหารและน้ำของตะวันและแบม เรามีความห่วงใยในความปลอดภัยแห่งชีวิตของน้องนักศึกษาทั้ง 2 ซึ่งควรจะมีชีวิต เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและชาติบ้านเมืองต่อไป มีข้อฝากว่าแพทย์มีหน้าที่รักษาผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต แม้จะขัดต่อเจตนารมณ์และความยินยอมของผู้ป่วยตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ข้อบังคับแพทย์สภา และพ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม จึงไม่ได้หมายความว่าแพทย์จะสามารถปล่อยให้ผู้ป่วยสิ้นชีวิตไปได้ต่อหน้าต่อตา โดยมิได้ทำอะไรเลย
2.พรรคเห็นว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิในการประกันตัว ย่อมได้รับความคุ้มครอง เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานในกระบวนการยุติธรรมทั้งของไทยและนานาอารยประเทศ พรรคเห็นว่าการให้ประกันตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นนิสิต นักศึกษา เป็นเพียงผู้เห็นต่างทางความคิด มิได้ก่ออาชญากรรมร้ายแรงใดๆ ควรได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม คำนึงถึงสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพเป็นหลัก จึงถึงเวลาที่ควรจะได้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ดังเช่นที่พรรค ได้เคยเสนอขอแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องสิทธิในการประกันตัวจะต้องเป็นหลัก การไม่ให้ประกันต้องเป็นข้อยกเว้น จะคุมขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้เกินหนึ่งปีมิได้ และให้เพิ่มเติมสิทธิในกระบวนการยุติธรรมไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยเร่งด่วนในชั้นนี้เห็นว่าการที่ศาลไม่ให้ประกันตัว โดยเหตุผลที่ไม่สอดคล้องกับ ป.วิ.อาญา การถอนประกันโดยศาลเองโดยมิได้มีคำร้องจากฝ่ายใด เป็นเรื่องที่จะต้องทบทวน นอกจากนี้ พรรคจะเสนอเลื่อนญัตติด่วนเรื่องการใช้กฎหมายที่ล้นเกินอันกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ค้างอยู่ในสภาขึ้นมาพิจารณาในสัปดาห์นี้
3.ส่วนข้อเสนอเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 นั้น พรรคเห็นว่ากรณีตามมาตรา 116 นั้น เป็นความผิดที่เรียกว่าการยุยง ปลุกปั่น เป็นกฎหมายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมากที่สุด จนถูกเรียกว่ากฎหมายครอบจักรวาล มีองค์ประกอบหรือการตีความได้กว้างขวาง การแก้ไขจึงน่าจะกระทำได้ ส่วนกรณีตามมาตรา 112 พรรคเห็นว่ามาตรานี้บัญญัติขึ้นเพื่อคุ้มครองประมุขของรัฐ ควบคู่กับประวัติศาสตร์ของประเทศที่ยอมรับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การแก้ไขใดๆ มีความเห็นหลากหลายในสังคม และมีความแตกต่างกันในทางความคิดแบบสุดขั้วอาจเรียกได้ว่าถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกันจนยากที่จะหาบทสรุปที่เป็นไปในทางสันติ และความสมานฉันท์ของคนในประเทศ
“การแก้ไขกฎหมายเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และรัฐสภาที่ควรจะเป็นองค์กรรับผิดชอบ ในชั้นนี้พรรคจึงเห็นว่าการปรึกษาหารือกันในแนวทางปฏิบัติของการบังคับใช้มาตรา 112 จะเป็นทางออกทางหนึ่งที่จะแก้ไขปัญหาได้ในเบื้องต้น และไม่อาจกระทำได้โดยลำพังของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเห็นว่าควรสนับสนุนส่งเสริมผลักดันให้สังคมได้ร่วมกันพิจารณาประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวาง หากมีผลเป็นข้อสรุปที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมเรายินดีสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดผล” นายประเสริฐ กล่าว
สรุป : การเคลื่อนไหวบุกพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ถูกอ่านเกมว่า เป็นการ “รู้กัน” กับมวลชน กับกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม พรรคการเมืองบางพรรคใช่หรือไม่ บุกมาทำให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยไม่เหมือนกับพรรคก้าวไกล ที่ให้ความสำคัญและจริงจังกับการต่อสู้กับเผด็จการ กับการมุ่งสร้างเสรีภาพ และประชาธิปไตย ดังนั้นเมื่อการเลือกตั้งมาถึง พวกเราต้องรู้นะ ว่า ควรเลือกใคร
ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ใช้ ผู้เลือก” ในกลุ่มเดียวกัน
เปล่าประโยชน์ที่จะมัวโจมตี “ลุงตู่-ลุงป้อม”
หันมาถล่มคู่แข่งขั้วเดียวกัน น่าจะดีกว่า !!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี