“ฟ้าผ่า” เป็นภัยธรรมชาติที่สุดดัง นอกจากเกิดขึ้นเป็น “ขาประจำ” ในทุกภูมิภาคทั่วโลกแล้ว ยังเป็น “ภัยไซส์ SS” ที่ร้ายแรงระดับ “ดุเดือด ดุดัน และดุฉกรรจ์” สามารถ “เช็คบิล”

ทำลายชีวิตได้อย่าง “ฉับพลัน” ทุกครั้ง

“มนุษย์สายมู” จำนวนไม่น้อย มักเชื่อว่า“ฟ้าผ่า” น่าจะเป็น “คำพิพากษาไปประหารชีวิตคนสิ้นบุญ” จากเง็กเซียนฮ่องเต้

ในขณะที่ “มนุษย์สายวิทยาศาสตร์” ระบุว่า เป็น “ภัยธรรมชาติที่ไม่ปรานีใคร” ฟ้าผ่าถูกผู้ใด เท่ากับมีการ “ลงโทษจริง” ชนิด “ไม่มีการรอลงอาญา” ให้แก่ผู้ใดทั้งสิ้น

ส่วน “มนุษย์สายจินตนาการ” มักจะนำคำว่า “ฟ้าผ่า” ไปเปรียบเทียบกับเรื่องของ “การสูญเสียครั้งใหญ่” หรือ “เหตุร้ายที่จะสร้างหายนะตามมา”

ปรับโฟกัสเรื่อง “ฟ้าผ่า” ไปที่ “สายจินตนาการ” ในบ้านเรา วันนี้ถูกสื่อนำมาใช้อย่างถี่บ่อย เช่น

กรณี “เฮียเอ๋” นักการเมืองคนดังจังหวัดสมุทรปราการ ที่ไปเสียชีวิตอย่างกะทันหันที่จังหวัดบุรีรัมย์ จาก “โรคลมแดด” สื่อทั้งหลายก็นำคำว่า “ฟ้าผ่าสนามเลือกตั้งปากน้ำ” มาใช้กันอย่างกระหน่ำ แล้วยังพาดพิงไปถึง “พรรคลุงป้อม” ว่า “8 ที่นั่งในสนามเลือกตั้งที่ปากน้ำถูกฟ้าผ่า”

หรืออย่างกรณี “ศาลอาญา” มีคำพิพากษา“จำคุกพี่ชายภรรยาตู้ห่าว และอีก 5 สีกากี คนละ 33 ปี 4 เดือน” นั้น สื่อทั้งหลายต่างก็ “พาดหัวข่าว” ว่า “ฟ้าผ่าอาณาจักรตู้ห่าวครั้งใหญ่ 6 สีกากีสังเวยชีวิต”

ต้องยอมรับว่า “ฟ้าผ่า” ทั้งในความหมายของสายมู สายวิทยาศาสตร์ และสายจินตนาการวันนี้เกิดขึ้นอย่างถี่บ่อยและถี่ยิบยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

ล่าสุด “ไฟป่า” เผาผลาญป่าใหญ่ของ 5 ขุนเขาในจังหวัดนครนายก “ข้าราชการสมองไว”ก็โทษว่า “ผู้ร้ายตัวจริง” ที่ทำให้ “เกิดไฟป่ามหาภัยครั้งใหญ่” นี้ ก็คือ “โจรมือไวที่ชื่อฟ้าผ่า” ที่ผ่าไปกลางป่าไผ่ที่ “ตายขุย” จนเกิดไฟป่าทันทีทันใด และลุกลามไวไปถึง 4 ขุนเขา
 

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม