เมื่อเร็วๆ นี้ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรี กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่องในการเร่งแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นPM2.5 ที่ข้ามแดนว่า กระทรวงการต่างประเทศมีการติดต่อและประสานงานรัฐบาลเมียนมาและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองข้ามแดน
กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศนี้ด้วยเราได้เน้นย้ำว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ทางการของ 2 ประเทศจะต้องเร่งหาทางลดหรือเลิกการเผาป่าหรือพื้นที่ปลูกพืช เพราะส่งผลกระทบร้ายแรงกับประชาชนในประเทศเหล่านี้ และลุกลามข้ามมาถึงสุขภาพของคนในประเทศเพื่อนบ้านขณะที่ฝ่ายเมียนมาและสปป.ลาวได้รับปากที่จะเร่งดำเนินการเรื่องนี้และกระทรวงการต่างประเทศได้กระตุ้นทางการของทั้ง 2 ประเทศให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวทุกวัน
เชียงใหม่เป็นนครที่มีฝุ่นมลพิษPM2.5 ขึ้นอันดับหนึ่งของโลกมาหลายปีแล้วนับตั้งแต่ปี 2549 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ติดตามภาวะมลพิษใน 14 จังหวัดภาคเหนือมาตลอดทั้งเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง ตาก พิษณุโลก อุตรดิตถ์ พิจิตร สุโขทัย นครสวรรค์ และอุทัยธานี รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศให้ปัญหาฝุ่นละอองPM2.5 เป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2562 ถึงปัจจุบัน
ผลกระทบจากฝุ่นละอองPM2.5 สร้างสถานการณ์ฝุ่นควันสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลและผลเสียมีแนวโน้มทวีความรุนแรง ธนาคารโลกประเมินว่าต้นทุนเศรษฐกิจของไทยเพิ่มจาก 2.10 แสนล้านบาท ในปี 2533 เป็น 8.71 แสนล้านบาท ในปี 2556 มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจของครัวเรือนไทยสูงถึง 2.17 ล้านล้านบาทต่อปี ปี 2564 พบว่าไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจ 29,000 ราย
ฝุ่นPM2.5 สร้างความเสียหายต่อคุณภาพดินน้ำและการเติบโตของสิ่งมีชีวิตในป่า รวมทั้งความหลากหลายด้านชีวภาพ ฝุ่นPM2.5 จะเกิดขึ้นมากช่วงปลายหนาวถึงต้นฤดูแล้งเพราะความกดอากาศสูงที่แผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือมีกำลังอ่อนลง 14 จังหวัดภาคเหนือได้รับผลกระทบจากปัจจัยด้านภูมิประเทศที่เป็นที่ราบล้อมรอบไปด้วยภูเขาลักษณะเหมือนแอ่งกระทะการสะสมหมอกควันในอากาศจึงรุนแรงมาก
กรมควบคุมมลพิษเผยปัญหาว่าฝุ่นเกิดจากแหล่งกำเนิดโดยตรงคือการเผาในที่โล่งแจ้งในชนบทและในป่า การขนส่ง การผลิตไฟฟ้าและโรงงานแหล่งกำเนิดทางอ้อมที่เกิดจากการรวมตัวของก๊าซและมลพิษในบรรยากาศ โดยเฉพาะซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ต้นตอใหญ่ที่สุดของฝุ่นคือการเผาในที่โล่งในพื้นที่เกษตรและไฟไหม้ป่า
ที่ก่อให้เกิดฝุ่นPM2.5 ถึง 210,000 ตันต่อปี
ต้นตอส่วนใหญ่เกิดจากการเผาวัสดุการเกษตรทั้งในที่โล่งและที่ไม่โล่ง เช่น การเผาอ้อยก่อนตัด การเผาตอซังที่ไร่ข้าวโพดและนาข้าวที่เป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดแรงงานค่าใช้จ่ายสำหรับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย การเผาขยะบางพื้นที่มีการเผาเพื่อหาของป่า การเผาเพื่อบุกรุกพื้นที่ป่าและจับจองพื้นที่เพื่อทำมาหากิน และไฟป่าโดยเฉพาะในปีถัดมา
การเผาเป็นเรื่องปกติในเมียนมาและลาวเมื่อมาผสมกับการเผาในไทยด้วยจึงก่อปัญหาลุกลามในปัจจุบันวิธีแก้ไขคือรัฐบาลต้องตั้งกองทุนแก้ไขการเผาป่าและที่ดินเกษตรกรรมอย่างเป็นรูปธรรมไม่แสวงหากำไรเป็นหน่วยงานช่วยเกษตรกรทำลายวัชพืชด้วยเครื่องจักรกลขนาดใหญ่แบบสหรัฐอเมริกาทำอยู่นี้่เพื่อลดการเผาที่สมบูรณ์ที่สุดจะได้ผลในการป้องกันมลพิษซึ่งรัฐบาลควรจะพิจารณาในประเด็นนี้เป็นทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี