บรรยากาศการเมืองเริ่มชัดเจนมากขึ้นทุกขณะ พรรคร่วมรัฐบาลเดิมกำลังกลับเข้าสู่ภาวะที่เฉกเช่นสถานการณ์การเมืองเมื่อปี 2562 เสียงกระหึ่มเชียร์ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และลุงป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ”เริ่มหนักแน่นและชัดเจนมากขึ้นเป็นลำดับ
ยิ่งเวลาทอดเข้าใกล้วันเลือกตั้ง คะแนนนิยมของพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดิมก็มีเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้น ในขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้านที่ประกาศตนเองว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตยนั้นมีเสียงสนับสนุนรวมกันลดลง
ซึ่งเป็นคะแนนของกลุ่มพลังเงียบที่มีอยู่ราวร้อยละ 53.65 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของการเลือกตั้ง คือประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ย้ายขั้ว และการย้ายพรรคของผู้สมัครไม่มีผลต่อการตัดสินใจทางการเมืองแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ประชาชนส่วนใหญ่เลือกคนไหนก็คนนั้นและประชาชนชอบพรรคไหนก็พรรคนั้น
อย่างที่ข้อเท็จจริงจากนโยบายการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ปรากฏ ทุกพรรคการเมืองพยายามขายฝันให้กับประชาชน ผู้เป็นเบี้ยบนกระดานหมากรุกการเมือง และเป็นเพียงเครื่องมือในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรือสรุปสั้นๆ ว่า ประชานิยม
แต่ประชานิยมไม่ได้ทำให้พรรคการเมืองและนักการเมืองชังชาติเหล่านั้นสามารถเก็บชัยชนะ เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ หากแต่ต้องมีทุนมีกระสุนมาช่วยอุดหนุนนโยบายขายฝันเหล่านั้น มันจึงเป็นเรื่องราวของวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทยเสมอทั้งในช่วงหี่หาเสียงเลือกตั้ง กระทั่งการจัดจัดรัฐบาลและการบริหารประเทศ วงจรอุบาทว์จึงไม่เคยถูกปราบไม่เคยตายจากสังคมการเมืองไทย
เพราะหากสู้กันในระบอบประชาธิปไตยแล้วต้องไม่ใช้เงินเป็นอาวุธหลักอาวุธหนักจากทุนสามานย์ที่ให้การสนับสนุนพรรคการเมืองนั้นๆ และหากประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะก็จักสามารถทบต้นทบดอกอย่างอดีตที่ผ่านมาในระบอบทักษิณ
ธนาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองที่นักธุรกิจทุนสามานย์เป็นผู้ถือครองอำนาจทางการเมือง โดยเป็นรูปแบบหนึ่งของคณาธิปไตย และสามารถนิยามด้วยว่า เป็นสังคมที่ปกครองหรือควบคุมโดยประชาชนที่มั่งคั่งที่สุดส่วนน้อย เป็นการเมืองเพื่ออำนาจ เพื่อผลประโยชน์ และสิทธิพิเศษ ของกลุ่มคนที่มีอำนาจทางการเมือง โดยมีการใช้เงินเป็นองค์ประกอบหลัก ธนาธิปไตย ถูกบัญญัติในปี พ.ศ. 2195 โดยไม่เหมือนกับระบบประชาธิปไตย สังคมนิยม หรืออนาธิปไตย เศรษฐยาธิปไตย ไม่มีมูลฐานจากปรัชญาการเมือง และชนมั่งคั่งในสังคมอาจสนับสนุนให้ใช้เศรษฐยาธิปไตยโดยไม่ได้ทำตรงๆ หรือทำอย่างปกปิด คำนี้จึงมักใช้ในทางลบ
เราอยากเห็น “ประชาธิปไตย” ของประเทศมีรากฐานที่มั่นคงแข็งแกร่ง ไม่อยากเห็น/ให้การเลือกตั้งเป็นเพียงพิธีกรรมในระบอบประชาธิปไตยที่นักการเมือง พรรคการเมืองชังชาติจะงัดกุศโลบายและทุนสามานย์ใช้เงินเป็นบรรณาการหลอกล่ออาณาประชาราษฎร์ให้ได้มาเพื่อชัยชนะในการเลือกตั้ง เพื่อเข้าสู่อำนาจรัฐในการปกครองบริหารประเทศชาติบ้านเมือง
เราขออัญเชิญพระบรมราโชวาทของ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ความว่า “ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมืองและควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
มาเป็นหลักชัยเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจใส่เกล้าฯเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้มีสมาธิปัญญาในการเข้าคูหาเลือกตั้งกากบาทเลือกนักการเมืองที่รักเลือกคนดีมาปกครองบ้านเมือง เลือกพรรคที่ใช่มาบริหารประเทศให้มีความสงบสุขด้วย”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี