“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้างทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยทันเล่ห์เหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...
nn เริ่มต้นด้วย “บทบรรณาธิการ – เลือกตั้งไม่ใช่ธนาธิปไตย – ประชาธิปไตยต้องไม่ใช้เงิน” อย่าให้นักการเมืองไทยมองประชาชนเป็นแค่อุปกรณ์การทำนา สนตะพายประชาชนไปในทิศทางที่ต้องการนำข้อมูลเท็จมากล่าวอ้างเป็นการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล แต่กล้าที่จะเอาเงินภาษีอากรที่คาดว่าจะได้เกินเป้าในปี 2566 กว่า 2.56 แสนล้านบาท ไปใช้ดำเนินการในนโยบายแจกเงินถ้วนหน้า 10,000 บาท แก่ผู้มีอายุ16 ปีขึ้นไปทุกคน...
nn การเมืองเรื่องเลือกตั้ง เริ่มเผ็ดร้อนมากขึ้นเมื่อมีการร้องเรียนทุจริตการหาเสียงเลือกตั้งหลังเดินสายหาเสียงกันมาระยะเวลาหนึ่ง พอรู้แล้วว่าแต่ละพื้นที่แค่ละเขต ใครมีเสียงสนับสนุนอย่างไรใครจะคว้าเก้าอี้ที่มีตัวเดียวในแต่ละเขตผู้สมัครในแต่ละพรรคแต่ละพื้นที่ก็ต้องรีบขยับด้วยกระสุนดินดานเพื่อดึงคะแนนระบบอุปถัมภ์กลับมาสู่ตนเอง อย่างที่ “ชูวิทย์กมลวิศิษฎ์ จอมแฉแห่งทศวรรษ” หอบสลิปการโอนเงินของผู้สมัครสส.ค่ายพรรคภูมิใจไทยเป็นหลักฐาน เข้าร้อง “คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)” กล่าวหาผู้สมัครสส.จังหวัดสระแก้ว, ลำพูนและจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทุจริตการเลือกตั้ง ขณะที่เมืองขุนแผน-กาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ อำเภอหนองปรือ และอำเภอบ่อพลอย (ยกเว้นตำบลหนองกุ่ม) มีการปราศรัยหาเสียงที่ตำบลหนองรี อำเภอบ่อพลอย โดยมี “ศักดา วิเชียรศิลป์” ผู้สมัครสส. พรรคเพื่อไทย อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล คู่กรณีของ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาต่อต้านพรรคกรณีส่งนายศักดาลงสมัครรับเลือกตั้งอย่างเดือดดาลจนมีข่าวการย้ายพรรค กระทั่งเรื่องราวนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของอดีตสื่อมวลชน สส.ฝีปากกล้าหลายสมัย จิรายุ ห่วงทรัพย์, อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, ตรีชฎา ศรีธาดา รองหัวหน้าพรรคและรองโฆษกพรรคเพื่อไทยมาร่วมปราศรัย...
nn ในพื้นที่ปราศรัยประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยใส่เสื้อยืดสีแดงสกรีนพรรคเพื่อไทยมาร่วมฟังคำปราศรัย โดยไม่มีการตั้งจุดจำหน่ายเสื้อลักษณะนี้ในบริเวณพื้นที่การปราศรัย และพบว่ามีการจ่ายเงินให้หัวคะแนนที่นำประชาชนมาฟังคำปราศรัย ชาวบ้านที่อยากเห็นการเมืองสะอาด ยุติธรรมจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สถานีตำรวจภูธรห้วยกระเจา เพื่อเป็นหลักฐานร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดกาญจนบุรี(กกต.จังหวัดกาญจนบุรี) ว่ามีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งตามมาตรา 73(1) ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. ประเด็นการให้ทรัพย์สินอันอาจคำนวณเป็นเงินจูงใจให้เลือกตั้งหรือไม่ ซึ่งกกต.จังหวัดรับเรื่องการเข้าดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริง หากพบการกระทำความผิดอาจส่งผลให้ผู้สมัครสส.เขต 4 กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทยต้องได้รับใบแดงในการเลือกตั้งครั้งนี้...
nn“ไม้หน้าสาม” เห็น “ชูวิทย์” ร้อนรนออกมาแจ้งกกต.เรื่องการซื้อเสียงเลือกตั้งกล่าวหา “พรรคภูมิใจไทย” ทำให้นึกถึงคดี “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” ที่เป็นคดีประวัติศาสตร์กรณีทุจริตการหาเสียงเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในพ.ศ.2538 เป็นตำนานที่ทำให้ “เนวิน ชิดชอบ” นักการเมืองผู้คร่ำหวอดที่ร่วมก่อตั้งพรรค “ภูมิใจไทย”...นึกถึง “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค เจ้าของวาทกรรม “เกียรติของข้าราชการคือการกล้ากระทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่กล้ากระทำเพื่อผู้มีอำนาจ ประชาชนคือผู้ยิ่งใหญ่ ข้าราชการคือขี้ข้าประชาชน กินภาษีประชาชนก็ต้องรับใช้ประชาชน” ซึ่งทำคดีนี้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง”...
nn นึกถึงคดีการทุจริตซื้อเสียงในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2538 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยที่พกธนบัตรจำนวนมากพร้อมบัตรแนะนำตัวผู้สมัครสส.บุรีรัมย์ พร้อมยึดของกลางเป็นธนบัตรใบละ 20 และ 100 บาทเย็บติดกันเป็นปึกใหญ่มัดรวมกับใบแนะนำตัวของ “เนวิน ชิดชอบ” แต่ท้ายที่สุดคดีนี้ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ “เนวิน ชิดชอบ” ยังไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ นอกจากสังคมไทยจะตั้งฉายาว่า “ยี้ห้อยร้อยยี่สิบ” และยังเป็นคนสำคัญในวงการการเมืองตลอดมา...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี