เชื่อว่าชาวโลกนับพันล้านคนรวมทั้งคนไทยได้ชมการถ่ายทอดสดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของราชวงศ์อังกฤษล้วนจัดขึ้นที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ โดยพระเจ้าวิลเลียม ผู้พิชิต เป็นกษัตริย์องค์แรกของอังกฤษที่ทำพิธีที่นั้น ขณะที่ สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะเป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 40
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก จัดอย่างยิ่งใหญ่อลังการตามโบราณราชประเพณีดังที่หลายท่านได้ชมการถ่ายทอดผ่านทีวีไปแล้ว ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งนี้ ราชสำนักอังกฤษได้ทูลเชิญพระราชวงศ์ต่างประเทศเชิญประมุข ตลอดถึงบุคคลชั้นนำหลายประเทศเข้าร่วมพระราชพิธี
ในการนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จฯทรงร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และ สมเด็จพระราชินีคามิลลา ที่โบสถ์เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ อย่างสมพระเกียรติ ในหลวงและพระบรมราชินีไทย ทรงสง่างามอยู่ท่ามกลางพระราชวงศ์ และประมุขจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมทั้งเจ้าชาย Albert และ เจ้าหญิง Charleneแห่งโมนาโก กษัตริย์ Filepe และพระราชินี Letizia แห่งสเปน เจ้าชายอากิชิโนะมกุฎราชกุมารญี่ปุ่น และเจ้าหญิงคิโกะ กษัตริย์กุสตาฟและเจ้าหญิงวิคตอเรียแห่งสวีเดน
ในงานพระราชพิธีสำคัญที่มีพระประมุข ประมุขตลอดถึงผู้นำประเทศต่างๆ เข้าร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ เจ้าหน้าที่บ้านเมืองผู้รับผิดชอบในการอำนวยสะดวกและรักษาความปลอดภัย จึงป้องกันไม่ให้ผู้ประสงค์ร้าย ทำให้ราชวงศ์เสียหาย และรัฐบาลขายขี้หน้า
จึงมีรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม ตำรวจลอนดอนจับหกแกนนำประท้วงต่อต้านราชวงศ์ของฝ่ายฝักใฝ่สาธารณรัฐ บนเส้นทางขบวนเสด็จในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก กษัตริย์ชาร์ลส์ ที่ 3
ผู้ต้องหาทั้งหกคน ถูกจับที่จัตุรัสทราฟาลการ์ ใกล้กับสถานที่ทำพิธีบรมราชาภิเษก ในโบสถ์เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ขณะที่ กลุ่มนิยมสาธารณรัฐเตรียมการประท้วง“ตำรวจจับแกนนำหกคนพร้อมกับยึดป้ายประท้วงนับพันแผ่น ที่เขียนว่า Not my king หัวหน้าคณะฝ่ายสาธารณรัฐเกรแฮม สมิต หนึ่งในแกนนำที่ถูกจับคนทั้งหมดถูกจับก่อนที่พวกเขาจะชูป้ายประท้วง”ผู้อยู่ในเหตุการณ์คนหนึ่ง กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี
ผู้คนที่มุงกันอยู่ในที่เกิดเหตุบางคน ตะโกนว่า “ปล่อยเกรแฮม สมิต” ในขณะที่คนบางกลุ่มตะโกน “god save the king”พร้อมโบกธงชาติอังกฤษ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีหมายกำหนดการเริ่ม สิบโมงเช้า หรือตรงกับห้าโมงเย็นเวลาประเทศไทย
คนงานของฝ่ายสาธารณรัฐที่เตรียมพร้อม สร้างฉากประท้วงถามตำรวจว่า “จับกุมคุมขังแกนนำประท้วงข้อหาอะไร”
“พวกเขาถูกจับแล้ว จบไหม” ตำรวจระดับสารวัตรคนหนึ่งตอบแล้วหันหลังให้เดินจากไป
ตำรวจนครบาลลอนดอน ที่มีข้อครหาว่า เร่งรีบบังคับใช้กฎหมายจับกุมผู้ประท้วงราชวงศ์ซึ่งออกมาบังคับใช้ให้ทันพระราชพิธี และเพิ่งประกาศใช้อาทิตย์นี้
ทวิตเตอร์ของฝ่ายสาธารณรัฐโพสต์ข้อความยืนยันการจับกุมและยึดโปสเตอร์พร้อมคำถามว่า“นี่เป็นประชาธิปไตยหรือ?”
นำเรื่องนี้มานำเสนอเพื่อให้เป็นบทเรียนแก่ผู้บังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยที่มักใช้วิธีวัวหายแล้วล้อมคอก
ตัวอย่างเช่น มีฝูงคนล้อมรถพระที่นั่งแสดงอาการคุกคามสมาชิกราชวงศ์ เมื่อเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ตำรวจค่อยหาพยานหลักฐานมาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา แต่การปกป้องราชวงศ์ในอังกฤษ
เมื่อใกล้งานพระราชพิธีสำคัญรัฐบาลออกกฎหมายให้จับกุมผู้ประท้วงราชวงศ์ได้และตำรวจในลอนดอนก็จับกุมแกนนำทันทีที่ขยับตัวจะเคลื่อนไหว พร้อมทั้งยึดป้ายเขียนข้อความประท้วง ไม่เปิดโอกาสให้ข้อความประท้วงเหล่านั้นได้ชูสลอนให้ชาวบ้านและแขกเมืองได้เห็น
ตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ดในอังกฤษ มีชื่อเสียงมานานในการติดตามสืบสวนสอบสวนจับคนร้ายพวกเขาจึงจับแกนนำประท้วงราชวงศ์ได้ขณะที่เริ่มจะเคลื่อนไหว
ในประเทศไทยเรามีตำรวจสันติบาล มี กอ.รมน.มีศูนย์ปฏิบัติการพิเศษกองทัพบก มีหน่วยข่าวกรอง แต่น่าประหลาดใจที่หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้รู้ความเคลื่อนไหวของฝ่ายปฏิปักษ์สถาบันฯเมื่อพวกมันออกมาชุมนุมประท้วงในถนนแล้ว หากเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายในเมืองไทยไม่ทำงานเชิงรุกเหมือนในอังกฤษ สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ อาจถูกคุกคามจากฝ่ายปฏิปักษ์สถาบันต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี