หลังจากตกเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่เกือบสองปีที่ถูกสหรัฐอเมริกา และประเทศตะวันตกตลอดถึงนักการเมืองสมุนบริวารบางพรรคการเมืองในประเทศไทยทำ"ปฏิบัติการข่าว ปั่นกระแสทำลาย" บัดนี้รัฐบาลทหารพม่าลุกขึ้นตอบโต้พรรคก้าวไกลซึ่งรัฐบาลทหารพม่าประณามว่าสนับสนุนผู้ก่อการร้ายและรับใช้ตะวันตก
วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 พลเอก ซอ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกองทัพพม่า เตือนประชาชนให้เฝ้าระวังอันตรายจากพรรคก้าวไกลว่า“พรรคก้าวไกลเป็นพวกสนับสนุนชาติตะวันตกและจะให้การช่วยเหลือผู้ก่อการร้าย...พวกเราควรตรวจสอบชายแดนและหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขาไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม”
พลเอกอาวุโส โซ วิน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดรัฐบาลทหารเมียนมา ออกโรงเตือนประชาชนสื่อออนไลน์พม่าชื่ออิระวดี นำมารายงานหนึ่งอาทิตย์ หลังจากการเลือกตั้งในประเทศไทยวันที่22 พฤษภาคมพรรคก้าวไกลได้ทำเอมโอยู กับหกพรรคการเมืองที่เรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย เตรียมจัดตั้งรัฐผสมร่วมกันโดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล วางตัวเป็น ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย
.."The Move Forward Pary is pro-the west and they will assist terrorist...we have to wathch the border and get information about them, thier movement and activity.." อิระวดีแปลคำพูดพอ.อาวุโสโซ วิน รองผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพพม่า กล่าวผ่านวิทยุทางราชการเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ตะวันตกได้ติดตาม
การที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของประเทศเพื่อนบ้าน ออกมาประณามอย่างเป็นทางการ และเตือนว่า “พรรคก้าวไกลเป็นพวกสนับสนุนชาติตะวันตกและช่วยเหลือการก่อการร้าย...พวกเราควรตรวจสอบชายแดนและหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกเขามา ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมใดๆ ก็ตาม”
บ่งชี้ว่ารัฐบาลทหารพม่าเหลืออดกับพรรคการเมืองในประเทศไทยที่เตรียมจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และบอกเป็นนัยว่า รู้ทันว่าพรรคก้าวไกลรับใช้ตะวันตกและอเมริกา แสดงให้เห็นว่าพม่าพร้อมทำสงครามกับประเทศไทยหากพรรคก้าวไกลขึ้นเป็นรัฐบาลบริหารจัดการกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกันกว่าสองพันกิโลเมตร
นับเป็นครั้งแรกที่นายทหารระดับสูงแห่งสหภาพพม่า ออกมาประณามพรรคการเมืองในประเทศไทย ที่พม่าเชื่อว่าพรรคการเมืองนั้นรับงานมาจากวอชิงตันมาเคลื่อนไหวทำลายความมั่นคงภายในประเทศสหภาพพม่า และ ประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเพียงนายทหารระดับสูงพม่าที่จับตาดูความเคลื่อนไหวของนักการเมืองบางพรรคในประเทศไทยที่คลั่งไคล้ฝักใฝ่ตะวันตก หน่วยงานมั่นคงของไทยเอง ก็ติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลมานานแล้ว ด้วยความสงสัยว่า พรรคน่าจะอยู่เบื้องหลังคณะราษฎรรุ่นใหม่ ที่โจมตีใส่ร้ายมุ่งทำลายสถาบันหลักของชาติ ซึ่งศูนย์กลางความมั่นคงภายในประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ตัดสินไปแล้วว่า กลุ่มคนที่โจมตีใส่ร้ายดูหมิ่นสถาบันขัดรัฐธรรมนูญปี2560 มีเป้าหมายทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย แต่พรรคก้าวไกลก็ยังสนับสนุนจำเลยที่ถูกดำเนินคดีอาญา มาตรา 112 อย่างออกหน้าทั้งในและนอกสภาผู้แทนราษฎร
ส่วนการแทรกแซงกิจการภายในสหภาพพม่า พรรคก้าวไกลแสดงบทบาท และท่าทีชัดเจนออกหน้าว่า สนับสนุนฝ่ายต่อต้านที่ใช้กำลังอาวุธต่อสู้รัฐบาลทหารพม่า ไม่ว่าจะเป็น"กองกำลังพิทักษ์ประชาชน" หรือ พีดีเอฟ (People Defense Force=PDF)หรือ"รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ" (National Unity Government=NUG) ซึ่งรัฐบาลเงาฝ่ายนางอองซาน ซูจี ที่ตะวันตก และซีไอเอ ของสหรัฐอเมริกาจัดตั้งขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่าเพื่อโค่นล้ม พลเอกอาวุโสมิน อ่องหลาย
แหล่งข่าวความมั่นคงไทยบอกกับ แนวหน้าว่าตะวันตกและสหรัฐสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าอย่างจริงจังทั้งด้านการทูตและทหารโดยการส่งเงินและอาวุธมาให้ อย่างไรก็ตามความยามของซีไอเอล้มเหลว ไม่สามารถทำให้เกิดสงครามกลางเมืองในพม่าได้
"เวลานี้ เอนยูจี และ พีดีเอฟ อ่อนแอลงไปมาก พีดีเอฟ หลายร้อยคนหนีเข้ามาอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวบนชายแดน และอาศัยอยู่ตามเมืองชายแดนประเทศไทยไม่ว่าจะเป็น แม่สอด แม่สะเรียง แม่อ่องสอน หรือแม้แต่จังหวัดเชียงใหม่ ทางเราอะลุ่มอะล่วยให้เพราะเด็กพวกนี้หนีเข้ามาหวังว่า จะได้ไปอเมริกาหรือประเทศยุโรป.." แหล่งข่าวกล่าว และสาธยายว่าการสู้รบการปราบผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่อยู่ในรัฐชิน และเขตสไกง์ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนประเทศอินเดีย แต่พีดีเอฟ หลายร้อยคนหนีมาอยู่ในประเทศไทยแสดงว่าคนพวกนี้ต้องการหนีไปประเทศตะวันตกไม่ได้มีใจสู้รบกับทหารพม่าแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวชาวพม่าผู้ติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ภายในประเทศพม่า กล่าวว่า "รองผบ.สส.พม่าประณามพรรคก้าวไกล เพราะเป็นที่รู้กันทั่วไปว่า พรรคก้าวไกลสนับสนุนรัฐบาลเงาพม่าของนางอองซาน ซูจี และให้การสนับสนุน กองกำลังพิทักษ์ประชาชน ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของ เอ็นยูจี ที่รัฐบาลทหารพม่าขึ้นบัญชีดำ พีดีเอฟเป็นผู้ก่อการร้าย"ผู้สื่อข่าวชาวพม่าบอกแนวหน้าและกล่าวด้วยว่าพรรคก้าวไกลสนับสนุน เอ็นยูจีและพีดีเอฟ ตอนหาเสียงหรือตอนเป็นฝ่ายค้านก้าวไกลพูดอะไรก็ได้ แต่หากได้เป็นรัฐบาลเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะทำอะไรไม่ได้เลย ก้าวไกลยังอ่อนประสบการณ์ขาดความลึกซึ้งเรื่องความมั่นคง และการต่างประเทศ" ผู้สื่อข่าวที่เกาะติดการเมืองพม่ามาหลาบสิบปีกล่าว
นักวิชาการด้านความมั่นคงที่ช่วยงานรัฐบาลมานานหลายทศวรรษมีความเห็นสอดคล้องกับผู้สื่อข่าวชาวพม่าโดยบอกกับแนวหน้าว่า "เชื่อว่าพรรคก้าวไกลเคลื่อนไหวตามนโยบายของวอชิงตันที่ต้องการกดดันรัฐบาลทหารพม่าเพื่อให้ประชาคมนานาชาติหันมารับรองรัฐบาลเงาของนางอองซาน ซูจี แต่ในความเป็นจริงทำไม่ได้...รับรองเอ็นยูจี แล้วเอารัฐบาลเงา มาไว้ในประเทศไทยก้าวไกลทำได้ไหม?หากก้าวไกลทำอย่างนั่นเท่ากับประกาศสงครามกับพม่า ทหารไทยจะยอมไหม?"แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า หากก้าวไกลได้เป็นรัฐบาลแล้วร่วมมือกับสมาชิกอาเซียนจัดการให้ทุกฝ่ายได้หันหน้ามาเจรจากันอย่างครอบคลุมทุกฝ่ายนั่นอาจเป็นไปได้ แต่มันไม่ง่ายนัก เพราะรัฐบาลทหารพม่าไม่ยอมให้ใครกดดันข่มขู่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
"เราเห็นกันมาหลายรัฐบาลแล้วว่าไม่มีใครกดดันรัฐบาลทหารพม่าได้ไม่ว่าเป็นรัฐบาลนายชวน หลีกภัย หรือรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร โดยเฉพาะยิ่งก้าวไกลที่ทำตาม นโยบายวอชิงตันยิ่งอันตรายพม่าเขาไม่ยอมหรอก อย่าคิดว่า พม่าโดดเดี่ยวพวกเขายังมีรัสเซีย จีน และอินเดีย เกาหลีเหนืออยู่เคียงข้าง ประเทศเหล่านี้ให้การสนับสนุนทั้งอาวุธและเศรษฐกิจการค้า นี่ยังไม่นับรวมประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดกับพม่าไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาวหรือ ประเทศไทย"
แหล่งข่าวทางด้านความมั่นคง กล่าวด้วยว่า พรรคก้าวไกลกับทูตสหรัฐประจำประเทศไทยประสานงานกันอย่างใกล้ชิด
"ผมไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกันบ้างแต่ที่แน่ๆ สิ้นเดือนนี้ทูตสหรัฐประจำประเทศไทยนายโรเบิร์ต เอฟ โกเดค เดินทางกลับอเมริกาเพื่อไปรายงานความคืบหน้าต่อรัฐบาลวอชิงตัน ด้วยตนเองถึงสถานการณ์ในพม่าและความคืบหน้าจัดตั้งรัฐบาลในประเทศไทย"แหล่งข่าวกล่าว และเสริมว่า สหรัฐอเมริกาต้องการขยายอิทธิพลในพม่า และหากมีรัฐบาลพรรคก้าวไกลเป็นม้าใช้ อาจเกิดเป็นสงคราม และการสู้รบใหญ่ในสหภาพพม่า และลุกลามมาถึงประเทศไทย..นโยบายพรรคก้าวไกลก้าวร้าวมาก แต่คิดว่าทหารเขาจะยอมไหม? หากพรรคก้าวไกลทำได้ต้องเปลี่ยนเลขาธิการสภาความมั่นคงคนใหม่ซึ่งนับว่าอันตรายมาก."
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ขณะที่เป็นฝ่ายค้านหัวหน้าพรรคก้าวไกลปล่อยให้อดีตหัวหน้าอนาคตใหม่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในนามคณะก้าวหน้า เดินสายขายนโยบายส่งเสริมความขัดแย้งในภูมิภาคเช่นไปสนับสนุนรัฐบาลไซ่ อิงเหวิน ของไต้หวันให้ประกาศอิสภาพจากจีนแผ่นดินใหญ่ สนับสนุนเกาหลีใต้ให้ใช้ความรุนแรงกับเปียงยาง ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุลซึ่งเป็นเหมือนศาสดาของพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบแล้วและเปลี่ยนมาเป็นพรรคก้าวไกล นายปิยบุตรเดินสายไปทางตะวันตกสนับสนุนฝรั่งเศสและกลุ่มประเทศนาโต้ให้สนับสนุนด้านอาวุธ และปัจจัยแก่ยูเครนสู้รบกับรัสเซียมากขึ้น
สรุปว่าการที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของประเทศพม่า ลุกขึ้นมาประณามพรรคก้าวไกลนับว่าเป็นอันตรายมากหากรัฐสภาไทยสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และยกมือให้ นายพิธา ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี ดังที่ นายพิธาประกาศว่า จะทำให้ประเทศมีบทบาทนำในอาเซียนและเวทีโลกอีกครั้ง แต่หลายฝ่ายทำนายว่านายพิธาจะนำประเทศไทยไปสู่หายนะ เพราะเดินตามก้นสหรัฐอเมริกาและไม่ประสีประสาด้านความมั่นคงและการต่างประเทศแบบไทยๆซึ่งเอาตัวรอดมาได้ทุกสถานการณ์
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี