กลายเป็นวิวาทะเดือดในโลกโซเชียลกับพฤติกรรมนักการเมืองไร้เดียงสา ที่ตะเกียกตะกายชูคอส่ายหางโชว์ว่าข้านี่แหละ “นายกรัฐมนตรีของสังคมไทย” หลังโหวตเตอร์ 14 ล้านเสียงเศษกากบาทเลือก “พรรคก้าวไกล” ให้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามนโยบายที่นำเสนอต่อสาธารณชน
แต่ไม่ได้หมายความว่า 14 ล้านเสียงเศษที่ว่ายินยอมพร้อมใจกันสนับสนุนให้ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล และ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทั้ง 151 ราย ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกับ “สถาบันพระมหากษัตริย์” โดยสำรอกสำรากกล่าวอ้าง“ฉันทามติประชาชน”ไม่ได้ เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง
การแก้ไขหรือยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จึงไม่ใช่แนวคิดริเริ่มของ14 ล้านโหวตเตอร์แต่อย่างใด
และ “พิธาต้องจำใส่กะโหลกไว้เสมอว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา”โดยแท้
อย่างพฤติกรรมที่เกิดขึ้นในสัมปายะสภาสถาน ในการอภิปรายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นบนเวทีปราศรัยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เมื่อครั้งที่สองเยาวชนคนรุ่นใหม่นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่มทะลุวัง
อย่าง “ตะวัน - ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์” ที่ละเมิดจาบจ้วงพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์จนต้องคดีผิดป.อาญาม.112 บุกเวทีปราศรัยหาเสียงเพื่อถามเจตนารมณ์/อุดมการณ์ในการแก้ปัญหาการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นเครื่องมือทางการเมืองกำจัดฝ่ายตรงข้าม โดยมี
สติ๊กเกอร์ให้ “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เลือกที่จะติดสติ๊กเกอร์สนับสนุนแนวทางไหน “แก้ไข หรือ ยกเลิก”
แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกลนำสติ๊กเกอร์ไปติดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยในช่อง “ยกเลิก” แม้จะมีเสียงสำรอกสำรากอย่างน่ารักน่าชังว่า ก่อนยกเลิกก็ต้องให้พี่ได้แก้ไขก่อนน่ะ
ทั้งยังอีกหลายเวทีปราศรัยหาเสียงเหนือ, ใต้, ออก, ตก ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร ที่มีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน
ล่าสุดโลกโซเชียลได้ยินได้เห็นการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสำนักข่าวบีบีซี (ประเทศไทย) ถึงการบริหารจัดการในเรื่องของมาตรา 112 ซึ่งบางคำถามเป็นข้อความใส่ร้ายสถาบันเบื้องสูงอย่างตรงไปตรงมา
ทว่า “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่วางท่าว่าตนเองคือ “นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย” กลับไร้เดียงสาตอบคำถามนั้นโดยมิได้โต้แย้งอธิบายความให้ชัดเจนว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยอยู่เหนือการเมืองและอยู่ใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่ผ่านการทำประชามติเห็นชอบของประชาชนเจ้าของอำนาจอธิปไตยกว่า 14 ล้านเสียงกลับมีพฤติกรรมที่โอหัง
ตอบคำถามนั้นอย่างมั่นอกมั่นใจ
มิรวมถึงพฤติกรรมไร้มารยาททางการเมืองที่ยกตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีตามฉันทามติทั้งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ
วันนี้ “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จะไปถึง ฝั่งฝันหรือไม่ยังไม่มีใครการันตีได้ ก้าวไกล-พิธา ถลำลึก ก้าวพลาด ไปเรื่อยๆ การเมืองเป็นศาสตร์แห่งศิลป์ ถึงเวลารุกต้องรุกฆาต ถึงคราวต้องถอยก็ต้องถอยให้ปลอดภัย จะไร้เดียงสาราวเด็กอนุบาลวิ่งปะฉะดะ ชนทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ได้
จะเพราะไร้เดียงสา...ฤๅ พ่อแม่ไม่สั่งสอน ก็ตามที
ผลจากพฤติกรรมและการกระทำอย่างนั้นไม่เจ็บสาหัสก็ปางตาย
แต่อย่างไรกรรมก็เป็นเครื่องชี้เจตนาโดยแท้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี