พฤติกรรมน่าอิดหนาระอาใจอย่างหนึ่งที่พ่อแม่ไม่พึงประสงค์ให้เกิดกับลูกๆ คือ การพูดโกหก หรืออาจเรียกว่าเป็นพฤติกรรมเด็กเลี้ยงแกะ (เด็กเลี้ยงแกะในที่นี้หมายถึงเด็กเลี้ยงแกะในนิทานอีสป)
ลองนึกดูก็ได้ว่า หากใครต่อใครเจอพ่อแม่ของเด็กคนหนึ่งแล้วบอกว่า นี่คุณรู้หรือไม่ว่าลูกของคุณมีพฤติกรรมพูดโกหก พูดปดตลอดเวลา ไม่เคยพูดสิ่งใดที่เป็นความจริงเลย เจอกันทุกครั้งก็ต้องโกหกทุกครั้ง
หากคุณเจอสภาพเช่นนี้ ถามว่าคุณจะแก้ปัญหาอย่างไร หรือคุณบางคนอาจจะไม่มองว่ามันคือปัญหา หากใครก็ตามมองว่าไม่ใช่ปัญหา ก็ไม่จำเป็นต้องอ่านบทความนี้ต่อไป เพราะบทความนี้กำลังจะบอกว่า พฤติกรรมการพูดโกหกคือพฤติกรรมน่ารังเกียจ และเป็นอาการชนิดหนึ่งของคนที่อาจจะมีอาการป่วยทางจิต เพราะใครก็ตาม เมื่อพูดทุกครั้งแล้วโกหกทุกครั้ง คนคนนั้นไม่น่าจะเป็นคนจิตใจเป็นปกติ
หากจะว่าไปแล้ว เมื่อพบเด็กๆ โดยเฉพาะเด็กที่ยังไร้เดียงสาพูดในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง เราต้องพิจารณาว่าหนูน้อยคนนั้นพูดในเรื่องใด หากเรื่องนั้นเป็นเพียงจินตนาการของเด็ก เราก็ไม่ถือสาหาความกับคำพูดที่ไม่เป็นความจริงนั้น แต่หากคนที่พูดโกหกไม่ใช่เด็กไร้เดียงสา แต่เป็นคนที่โตจนเคยผ่านตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เราก็ต้องสันนิษฐานว่า เขาผู้นั้นต้องมีอาการป่วยทางจิตชนิดใดชนิดหนึ่งอย่างแน่นอน เพราะคนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว หากยังมีพฤติกรรมพูดจากลับกลอก พูดโกหกมดเท็จตลอดเวลา คนจำพวกนี้ไม่น่าจะมีจิตใจหรือพฤติกรรมเหมือนคนปกติทั่วไป
กลับไปที่พฤติกรรมการพูดโกหกของเด็ก อาจจะเกิดมาจากสาเหตุหนึ่งคือโกหกเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นจากการถูกลงโทษ หรือโกหกเพื่อให้ตนเองเป็นที่รักใคร่ของใครต่อใคร เช่น โกหกว่าตนเองทำงานบ้านเก่ง ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทุกอย่าง การโกหกเช่นนี้อาจเป็นเพราะต้องการได้รับคำชมเชยจากคนอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้อยู่ในบ้านหลังเดียวกับเด็กรายนั้น
การที่เด็กโกหกพ่อแม่ ก็อาจจะมีสาเหตุมาจากพ่อแม่ไม่ใช่เหตุผลในการอบรมสั่งสอนลูก อาจจะชอบดุด่าว่ากล่าวหรือทำโทษเด็กด้วยอารมณ์จนทำให้เด็กต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยการโกหก นั่นแสดงว่าพ่อแม่ไม่สามารถทำให้ลูกมั่นใจในวุฒิภาวะของพ่อแม่ได้
ส่วนการที่วัยรุ่นมีพฤติกรรมโกหก ก็อาจจะเกิดมาจากต้องโกหกเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง เช่น อาจไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่เหมาะสมกับวัยของตน แต่กลัวพ่อแม่จะลงโทษก็จึงต้องโกหกเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกลงโทษ วัยรุ่นบางคนโกหกเพราะไม่ต้องการถูกพ่อแม่ดุว่า แต่เมื่อโกหกไปเรื่อยๆ ก็กลายเป็นสันดานโกหก ไม่พูดความจริงไปตลอดชีวิต
ทางการแพทย์พบว่าเด็กและคนที่ชอบโกหกเป็นประจำมีอาการเจ็บป่วยด้านจิตเวชร่วมอยู่ด้วย อาจเป็นคนที่มีปัญหาสติปัญญาบกพร่อง ป่วยเป็นโรคจิตบางชนิด มีปัญหาเรื่องพฤติกรรมส่วนตัว และมีปัญหาด้านการสื่อสารกับผู้อื่น และบางรายอาจมีปัญหาทางอารมณ์ จึงต้องหาทางออกของปัญหาด้วยการพูดโกหกไปเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ทางการแพทย์เชื่อว่ายังมีวิธีรักษาเด็กที่ชอบพูดโกหกให้ยุติพฤติกรรมชอบโกหกได้ โดยพ่อแม่ต้องทำให้ลูกไว้วางใจว่าพ่อแม่เป็นคนที่รักและเข้าใจลูกเสมอ ดังนั้นหากลูกมีปัญหาใดๆ ขอให้ปรึกษาพ่อแม่ได้ตลอดเวลา และขอให้พูดความจริงกับพ่อแม่ พ่อแม่ยินดีรับฟังปัญหา และช่วยแก้ปัญหาให้ลูกเสมอ เมื่อลูกทำผิด พ่อแม่ต้องอบรมสั่งสอนด้วยหลักของความรักและความมีเหตุผล อย่าใช้การดุด่าหรือทำร้ายลูกเพราะจะยิ่งทำให้ลูกโกหกเพื่อเอาตัวรอดมากขึ้น พ่อแม่ต้องไม่จับผิดลูก แต่ต้องให้ความรักความเข้าใจกับลูก แม้ในบางครั้งเมื่อลูกทำผิดทำพลาดก็ต้องอบรมสั่งสอนด้วยเหตุและผล ไม่ใช้การทำโทษด้วยอารมณ์
เรายังเชื่อเสมอว่าเด็กที่ชอบพูดโกหกจะยุติพฤติกรรมพูดโกหกได้เมื่อเขาได้รับความรักอย่างแท้จริงจากคนในครอบครัวและคนรอบข้าง แต่สำหรับพฤติกรรมโกหกมดเท็จที่เกิดกับ ทักษิณชินวัตร นั้นนับเป็นเรื่องที่หลายคนเชื่อว่าไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมโกหกของคนผู้นี้ได้ เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากวัยแล้ว ก็เข้าข่ายแก่จนเกินจะเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ส่วนคำถามว่าทำไมทักษิณต้องพูดโกหกเป็นประจำ โดยเฉพาะโกหกเรื่องจะกลับประเทศไทย
หลายคนที่ติดตามเรื่องโกหกจากปากทักษิณต่างรู้ดีว่าทักษิณโกหกเรื่องกลับไทยมาแล้วจนไม่สามารถจำได้ว่าโกหกมาแล้วกี่ร้อยครั้ง ถามว่าทักษิณรู้ไหมว่าคนอื่นๆ รู้ว่าทักษิณโกหก ตอบว่าน่าจะรู้ แต่คำถามที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ทำไมทักษิณจึงต้องโกหกเรื่องกลับไทยซ้ำๆ ซากๆ เขาโกหกเรื่องนี้เพราะต้องการกลับไทยโดยไม่ต้องติดคุก ใช่หรือไม่ แต่ไม่ว่าเขาจะโกหกเรื่องนี้อีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง เขาก็ไม่สามารถโกหกตัวเองได้ว่า เขาคือนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ดังนั้นเขาจึงต้องติดคุกแน่นอนเมื่อกลับเมืองไทย เขาต้องรู้ดีว่าเขาหนีคดีอาญาแผ่นดิน เขาคือนักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน ดังนั้นเขาจึงต้องติดคุกเมื่อกลับถึงเมืองไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี