“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา www.naewna.com” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสามขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้ทันเล่ห์ ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ อย่างเท่าเทียม”เริ่มต้นความจริงแรก กับความกร่างยโสโอหังใหญ่โตอย่างไร้เดียงสาเยี่ยงนักเลือกตั้งคนรุ่นใหม่ที่มีด้อมส้มเป็นโหวตเตอร์ให้การสนับสนุนกว่า 14 ล้านเสียง พูดความจริงกับสังคมครึ่งเดียวแต่ตอแหลเต็มคำ กรณี “ลูกเกด – ชลธิชาแจ้งเร็ว ว่าที่ท่านผู้ทรงเกียรติจังหวัดปทุมธานี พรรคก้าวไกล”ผู้ต้องหาความผิดคดีมาตรา 112 ที่ออกอาการกร้าวไม่พอใจตุลาการศาลยุติธรรมไม่ปฏิบัติตามความประสงค์ของตนเองกรณีศาลนัดสืบพยานในคดีนี้ คดีที่ท่านว่าที่สส.แต่งตั้งทนายความสู้คดี 2 คน แต่อ้างว่าทนายความไม่สะดวกจึงขอเลื่อนคดี แต่ทางท่านผู้พิพากษาท่านไม่เห็นเหตุอันสมควรต้องเลื่อนคดี จนท่านผู้ทรงเกียรติฟิวส์ขาดไม่ได้ดังใจ ออกอาการไร้เดียงสา /พ่อแม่ไม่สั่งสอน โพสต์ระบายความในใจใส่ร้ายพาดพิงให้กระบวนการยุติธรรมไทยแปดเปื้อนเสื่อมเสียอย่างไร้ข้อเท็จจริง (จริงก็ครึ่งเดียว)เพื่อให้สังคมเข้าใจว่าเกิดการกลั่นแกล้ง…
nn ทว่า ข้อเท็จจริงนั้นศาลได้มีหนังสือเลื่อนนัดสืบพยานให้เร็วขึ้นก่อนถึงวันนัดด้วยเวลาพอสมควร กรณีที่ทนายจำเลยในคดีนี้ไม่ว่างไม่สามารถมาปฏิบัติหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของจำเลยได้ก็คงไม่ใช่ทนายจำเลยทั้งสองคนที่จำเลยแต่งตั้งไว้ ศาลจึงไม่เห็นเหตุผลให้ต้องเลื่อนสืบพยานโจทก์ออกไป และมีระเบียบข้อกำหนดให้ตุลาการผู้พิพากษามีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในกำหนดเวลาที่กำหนดไว้ตามระเบียบศาลยุติธรรม…
nn จะเกิด “บรรทัดฐาน”ใหม่หรือไม่หากความเห็นของ “สุพจน์ ข่มุกด์” อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประเมินคดีคุณสมบัติ “ทิม – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคก้าวไกล”กรณีถือหุ้นสื่อ-บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) เป็นไปได้ว่าผลวินิจฉัยอาจออกได้ทั้ง 2 ทางคือถ้าตีความตามกฎหมายและเป็นไปที่ปรากฏตามสื่อขาดคุณสมบัติแน่นอน แต่ถ้าตีความตามรัฐศาสตร์ก็อาจจะรอด…
nn “ไม้หน้าสาม”ไม่ใช่คู่กรณีแต่มีประเด็นสงสัยให้ถามว่า “ท่านสุพจน์ ไข่มุกด์”หมายรวมถึงประเด็นสำคัญนี้ด้วยหรือไม่ คือ “ข้อบังคับพรรคก้าวไกล” ที่ให้ไว้ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยพรรคการเมือง สมาชิกต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ถ้า “พิธา” พ้นจากสมาชิกต้องพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคก็จะต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลข้อที่ 36 จะมีผลถึงการรับรองผู้สมัครสส.ทั้ง 400 เขต และระบบบัญชีรายชื่ออีก 100 รายด้วย... ครั้งนี้ไม่ใช่ตายยกครัวอย่าง “พรรคอนาคตใหม่”นั่นมรณบัตรออกให้ไม่ถึงครึ่ง แต่ครั้งนี้เรียกว่า “ตายทั้งเป็น”ทีเดียว ตายทั้งเป็นที่หมายความถึง ทุกข์ทรมาน,ทรมานใจ,ทุกข์ระทม เพราะตะเกียกตะกายปีนป่ายชิงเก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี”แทบตาย จะถึงเส้นชัยอยู่แล้วดันสะดุดขาตัวเองล้มขาแขนหักลุกไปต่อไม่ไหวเสียอย่างนั้น…
nn “พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” ดีไม่ดีจะกลายเป็นว่า “น้ำรดหัวตอ” เสียน่ะครับท่าน “ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ” เขกโหลกเตือนสติเด็กเมื่อวานซืน “รังสิมันต์โรม ว่าที่สส.ระบบบัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล” ออกมาทวงสปิริต “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม” ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ไม่มีน้ำใจนักกีฬา และขอให้เก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาลว่า คนจะเป็นพระต้องบวชออกมาจากโบสถ์ ก่อนจะไปบิณฑบาตได้ คนจะเป็นนายกฯต้องมาจากสภาฯ ไม่ใช่ตั้งกันที่ร้านอาหาร ... คิดหรือพวกไร้เดียงสาจะเข้าใจภาษาที่ให้เกียรติกันจนเกินไปเยี่ยงนี้…
nn ถึงคราวพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกชีวิตเหลือเกิน สำหรับ “นักร้องฟ้องไม่เลือก”แห่งเมืองสองแคว “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยถูกตำรวจนครพนมออกหมายเรียกคดีหมิ่นประมาท กลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะผู้ร้องเป็นอดีตนักการเมืองในพื้นที่ แถมมีคดีตำรวจรับแจ้งความและออกหมายเรียกในคดีหมิ่นประมาทประเภทเดียวกันถึง 16 รายทั้งคนดังและสื่อมวลชน เลยขอให้โอนย้ายคดีทั้งหมดมาสอบสวนที่ สตช. แทน…
nn “ไม้หน้าสาม”ทราบมาว่าโดนท่านหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย“พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ฟ้องหมิ่นประมาท ซึ่งศาลอาญาประทับรับฟ้องแล้วคดีนี้ท่านหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ฟ้องหมิ่นประมาทรายแรกรายเดียวที่เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท และให้ยุบสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยด้วย…
nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม” อยากเตือนว่าความแน่นอนคือความไม่แน่นอน สิ่งที่ “ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค” พ่นน้ำลายบูดผ่านสื่อมั่นใจว่าเคลียร์ปัญหาการถือหุ้นบริษัทไอทีวี ที่มีเกรียนที่แช่ปลักออกมากรีดความเขลาโชว์ว่า “ไอทีวี”ปิดไปนานแล้วนั้น ... ล่าสุดอดีตนักข่าวไอทีวีออกมาทวีตข้อความยืนยันให้คนเหล่านั้นตาสว่างหายโง่ว่า “สถานีโทรทัศน์ไอทีวี” ยังไม่ปิดกิจการ และปัจจุบันชนะคดีกับสปน.จนมีคำพิพากษาในศาลปกครองกลาง ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาลปกครองสูงสุด ซึ่งบุคลากรของบริษัทเชื่อชนะคดีแน่นอน “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” อะไรที่เป็นการกระทำความผิดก็ต้องยอมรับความผิดพลาดประมาท ชะล่าใจ หรืออาจต้องโทษฝ่ายกฎหมายของพรรคที่เห็นตำตากับกรณี “เอก – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ยังไม่คิดแก้ไข แถมปล่อยให้เลยเถิดจนกลายเป็นความตายที่อำมหิตตายทั้ง 100 คนกับ 400 เขต เยี่ยงนี้เก้าอี้ “นายกรัฐมนตรี” และแกนนำจัดตั้ง “รัฐบาล”คง ฝันกลางวันฝันค้างกลางเดือนมิถุนาคมเสียแล้ว ... เวงกำ
ไม้หน้ามสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี