สหรัฐอเมริกาคงผิดหวังมากที่นักการเมืองในโอวาทของวอชิงตันดูท่าทางจะฝันสลายได้เป็นแค่นายกฯโซเชียลเดินตามรอยหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ในขณะที่กัมพูชาและสหภาพเมียนมาเดินหน้าเตรียมการเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก่อนประเทศไทยตั้งรัฐบาลใหม่ได้สำเร็จ
สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP)ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลประกาศ หลังเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ครั้งประวัติศาสตร์ของชาติว่า ฮุน มาเนต บุตรชายคนโตของนายกรัฐมนตรี และ ผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา จะลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งระดับชาติในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ และหลังเลือกตั้งคาดหมายกันว่า ฮุน มาเนต จะก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แทนบิดาที่เป็นนายกฯกัมพูชามาแล้วเกือบ 40 ปี การตั้งรัฐบาลในกัมพูชารวบรัดรวดเร็ว ไม่มีกระบวนการยืดเยื้อเหมือนประเทศไทย ในกัมพูชา ฮุนเซน ทำอะไรก็ได้ ตามอำเภอใจ
ส่วนในสหภาพเมียนมา สหรัฐอเมริกาแทรกแซงกิจการภายใน หวังทำลายให้สหภาพเมียนมากลายเป็นยูเครนแห่งที่สองให้ได้ โดยการส่งซีไอเอ เข้าไปจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลทหารที่ยึดอำนาจมาจากพรรคเอ็นแอลดีของ นางออง ซานซู จี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 แต่กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (People Defense Forces=PDF) และ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (National Unity Government=NUG) รัฐบาลเงาเมียนมาที่สหรัฐและประเทศตะวันตกสร้างขึ้นมา มีทีท่าอ่อนแรงอ่อนแอลงทุกวัน
“พีดีเอฟ หลายร้อยคนหลบหนีเข้ามาอยู่ในศูนย์อพยพ และอาศัยอยู่เมืองชายแดนของไทยทั้งในแม่ฮ่องสอน แม่สะเรียงและแม่สอด” แหล่งข่าวในหน่วยงานมั่นคงไทยกล่าวกับแนวหน้า และเสริมว่า “เมื่อวันที่ 9 พ.ค. คณะผู้บริหารแห่งรัฐ (State Administration Council=SAC) ออกประกาศเชิญชวนให้ พีดีเอฟ กลับบ้านหรือมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ซึ่งรัฐบาลทหารพร้อมนิรโทษให้ แถมให้รางวัลอย่างงามสำหรับคนที่นำอาวุธมอบให้เจ้าหน้าที่” แหล่งข่าวกล่าว “แต่พวกที่หนีเข้ามาบ้านเราทุกคนหวังว่าจะได้ไปเมืองนอกไปยุโรปหรืออเมริกา”
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่าภายในประเทศเมียนมารัฐบาลพลเอกมิน อ่อง หล่าย สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะฝ่ายต่อต้านอ่อนแรงลงไปมาก และการสู้ระหว่างรัฐบาลทหารเมียนมากับพีดีเอฟ ส่วนใหญ่อยู่รัฐชิน และเขตสไกง์ใกล้ชายแดนอินเดีย แต่พีดีเอฟหนีตายมายังชายแดนไทย
แหล่งข่าวในหน่วยงานมั่นคงกล่าว ผู้สื่อข่าวชาวเมียนมาที่ติดตามข่าวภายในอย่างใกล้ชิดบอกกับแนวหน้าว่าเวลานี้รัฐบาลทหารเมียนมากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.เมียนมา) กำลังเร่งทำการสำรวจผู้มีสิทธิเลือกตั้งซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม 2566 “เวลานี้เก้าสิบสี่พรรคการเมืองจดทะเบียนส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว ถึงแม้พรรคเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซู จี บอยคอตต์ไม่ร่วมเลือกตั้งก็ตาม” แหล่งข่าวกล่าว และคาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในสหภาพเมียนมาจะมีขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลในประเทศไทยถึงแม้พรรคก้าวไกลผู้ชนะเลือกตั้งได้สส. 151 ที่นั่งซึ่งมากกว่าพรรคใดๆ ได้ทำเอ็มโอยูกับเจ็ดพรรคการเมืองจะตั้งรัฐบาลผสมด้วยกัน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็น ว่าที่นายกรัฐมนตรี แต่แหล่งข่าวในว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลกล่าวว่า มีอุปสรรคมากมายที่อาจทำให้นายพิธาจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้
“นายพิธาจะพบกับชะตากรรมเหมือนกับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” แหล่งข่าวในพรรคที่ร่วมลงเอ็มโอยู บอกกับแนวหน้าว่านายพิธามีนโยบายเปลี่ยนแปลงประเทศแบบสุดโต่งล้นเพดานนายพิธาจึงผ่านด่านกฎหมายขึ้นเป็นนายกฯไม่ได้”นายพิธาถูกเรื่องร้องเรียนมากมาย แต่จุดตายอยู่ที่การถือหุ้นไอทีวี”หลักฐานที่กรมทะเบียนการค้าพบว่านายพิธาถือหุ้นไอทีวี 24,000 หุ้น ในราคาหุ้นละห้าบาทและการถือหุ้นไอทีวีไม่มีในรายการแจ้งทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.
“คนส่วนใหญ่ในพรรคที่ลงนามเอ็มโอยูรู้ว่า นายพิธาเป็นนายกฯไม่ได้แต่ก็ให้ฟอร์มรัฐบาลไปก่อนตามความชอบธรรม อย่างไรก็ตามทุกคนเชื่อว่า กกต. จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาหลังจากรับรองผลเลือกตั้งแล้วซึ่งถึงตอนนั้นนายพิธาจะพบกับชะตากรรมเดียวกันกับนายธนาธร”
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ 21 คน ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี และอาจถูกดำเนินคดีทางอาญาฐานผิดกฎหมายมาตรา 72 คือสมัครสส.ในขณะถือครองหุ้นสื่อสารมวลชน นายพิธาแก้ตัวเหมือนกับนายธนาธรว่าบริษัทสื่อสารมวลชนที่พวกเขาถือหุ้นได้หยุดกิจการไปนานแล้ว แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าบริษัทเหล่านั้นได้จดทะเบียนเลิกกิจการกับกรมทะเบียนการค้า
“หลังจาก กกต. ส่งเรื่องให้ศาล รธน. และศาลรับไว้พิจารณาหรือศาลอาจสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำสั่งตัดสิน ถึงตอนนั้นมันเป็นความชอบธรรมของพรรคอันดับสองอันดับสามที่จะรวบรวมเสียงสส.จัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล” แหล่งข่าวกล่าว
และหนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมพรรคพลังประชารัฐกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวันที่ 23 พ.ค.บอกกับแนวหน้าว่า ในที่ประชุมมีความเห็นเช่นเดียวกันว่านายพิธาเป็นนายกฯไม่ได้ “แต่ลุงป้อมสั่งว่าอย่าเพิ่งพูดอะไร ปล่อยให้มันย่ามใจไปก่อน” แหล่งข่าวใน พปชร.กล่าว และ เสริมว่า “หากคุณมีหิ้งพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้บูชาแล้วมีคนมารื้อทิ้งคุณยอมไหม” แหล่งข่าวถามผู้เขียน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ได้อธิบายไทม์ไลน์ การจัดตั้งรัฐบาลให้กับ ครม.รับฟังว่า วันที่ 13 ก.ค. จะเป็นวันสุดท้ายที่ กกต.รับรองผลเลือกตั้ง จากนั้นวันที่ 24 ก.ค. จะมีพิธีเปิดประชุมรัฐสภา วันที่ 25 ก.ค. จะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร วันที่26 ก.ค. จะมีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาฯ ก่อนที่วันที่ 3 ส.ค. จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี ขณะที่วันที่ 10 ส.ค. มีการแต่งตั้ง ครม. และวันที่ 11 ส.ค. จะมีการถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นการทำงานวันสุดท้ายของ ครม.รักษาการ ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ระบุว่า“เรามีเวลาทำงานอีกนานพอสมควร ขอให้ช่วยกันทำงานกันต่อไป”
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน เพราะการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเรียบร้อยเมื่อไหร่ อาจจะพลิกสลับขั้วได้เช่นกัน
หากเป็นไปตามแหล่งข่าวจากพรรคร่วมลงนามในเอ็มโอยู แหล่งข่าวจากผู้เข้าร่วมประชุมกับลุงป้อมตลอดถึงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง ก็เชื่อได้ว่ากัมพูชาและเมียนมาจะมีนายกฯคนใหม่ก่อนประเทศไทยและหาก กกต.ส่งเรื่องนายพิธาซุกหุ้นให้ศาลรัฐธรรมนูญ หลังวันที่ 13 ก.ค.ก็เกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านายกรัฐมนตรีคนที่สามสิบ ของประเทศไทย ไม่ใช่หัวหน้าพรรคก้าวไกล
หากการเมืองในประเทศไทย และในสหภาพเมียนมาเป็นไปตามแหล่งข่าวพิเคราะห์ทำนาย ผู้ที่อกแตกตายน่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ที่ลงทุนลงแรงทำปฏิบัติการข่าว และทุ่มปัจจัยให้ฝ่ายประชาธิปไตยในประเทศไทย หวังได้รัฐบาลใหม่ที่เป็นสมุนบริวารในสหภาพเมียนมา สหรัฐลงทุนลงแรงทำปฏิบัติการข่าว ทุ่มปัจจัย และจัดหาอาวุธให้ฝ่ายต่อต้านสู้ต่อรัฐบาลทหาร แต่พีดีเอฟและเอ็นยูจีกลับอ่อนกำลังลงทำให้พลเอกมิน อ่อง หล่าย ควบคุมสถานการณ์และเตรียมการเลือกตั้งได้ รัฐบาลวอชิงตันไม่อกแตกตายตอนนี้แล้วจะเป็นลมตายตอนไหน
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี