ข่าวดังเชิงลบ หรือข่าวเน่า อีกข่าวหนึ่งที่ทำให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ สมัยก่อนคือการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย ซึ่งหลายคนเรียกชื่อสั้นๆ ว่า “การท่าฯ” ได้รับความสนใจในเชิงข่าวเสียอีกครั้ง โดยล่าสุดมีข่าวทางเลื่อนอัตโนมัติ หรือบันไดเลื่อนแบบแนวระนาบในท่าอากาศยานดอนเมือง ดูดหรือลากเอาเท้าของผู้โดยสารชาวไทย ซึ่งเป็นผู้หญิงรายหนึ่งเข้าไปในตัวทางเลื่อน จนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาข้างซ้ายขาด

หลังเกิดเหตุที่ทำให้บริษัทท่าอากาศยานไทยตกเป็นข่าวเน่าดังไปทั่วประเทศในหนนี้ ผู้บริหารของท่าอากาศยานไทยก็ออกมาบอกว่า ขอโทษ แล้วก็บอกว่าอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่เกิดปัญหานั้นใช้งานมาแล้ว 27 ปี หลายคนจึงตั้งคำถามว่า ท่าอากาศยานดอนเมืองมีทางเลื่อนแบบแนวระนาบใช้งานมาแล้ว 27 ปีจริงๆ หรือเพราะสมัยก่อนนั้น ผู้โดยสารที่ใช้บริการของสนามบินดอนเมืองยังต้องเดินด้วยเท้าภายในเขตพื้นที่ด้านในของตัวอาคารสนามบินดอนเมือง แล้วเหตุไฉนผู้บริหารระดับสูงของท่าอากาศยานไทยจึงบอกว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้งานมาแล้วถึง 27 ปี

แต่เมื่อผู้บริหารระดับสูงของท่าอากาศยานไทยบอกว่าใช้งานมาแล้ว 27 ปี ก็ต้องเชื่อตามคำบอกของเขา เพราะเขาคือผู้บริหารหน่วยงานที่ดูแลท่าอากาศยานดอนเมือง แต่คำถามที่ตามมาก็คือ ในเมื่อรู้ว่าอุปกรณ์เก่าแก่ถึงเพียงนี้ แล้วมีการตรวจตรา เพื่อบำรุงรักษาให้ดีอย่างไรบ้างหรือไม่เพราะเท่าที่สังเกตนั้นอุปกรณ์หลายอย่างในท่าอากาศยานดอนเมืองอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าชำรุดทรุดโทรมมากจนไม่น่าเชื่อว่านี่คือท่าอากาศยานหลักแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และประเทศไทย

คำชี้แจง แต่หลายคนที่ไม่เชื่อคำพูดของผู้บริหารการท่าอากาศยานไทย บอกว่าเป็นคำแก้ตัวคือ การท่าอากาศยานไทยได้ดูแลบำรุงรักษาอุปกรณ์หรือทางเลื่อนอัตโนมัติตามรอบระยะเวลาการซ่อมบำรุงเสมอมา โดยบริษัทที่ให้การดูแลบำรุงรักษาคือบริษัท ฮิตาชิ ส่งช่างเข้าไปตรวจซ่อมบำรุงทุกๆ 3 เดือน และ 1 ปี (ขออภัยที่ต้องบอกว่าสับสนกับคำว่าทุกๆ 3 เดือน และ 1 ปี สรุปคือตรวจทุกๆ 3 เดือน ในระยะ 1 ปี ใช่หรือไม่) แล้วบอกด้วยว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ทางเลื่อนไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีการสะดุดของการทำงาน แต่ก็มีคำถามว่า หากเครื่องเดินตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ แล้วตัวทางเลื่อนมีปัญหาหรือไม่ เพราะหากทุกอย่างเป็นปกติดี แล้วทำไมทางเลื่อนจึงดูดแล้วลากเอาขาของคนเข้าไปได้เกือบทั้งขา 

หลังเกิดเหตุนี้ ผู้บริหารท่าอากาศยานไทยบอกว่าจะต้องของบประมาณเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาใหม่ภายในท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเพิ่มความมั่นใจ ความปลอดภัยให้ผู้ใช้บริการ และจะเพิ่มความถี่ในการเข้าไปตรวจตราอุปกรณ์ต่างๆ ในท่าอากาศยานดอนเมืองให้มากขึ้น 

ก็ต้องบอกว่า อุบัติเหตุใดๆ นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทุกเวลา แต่ก็ต้องบอกด้วยเช่นกันว่า อุบัติเหตุป้องกันได้ หากทุกคนใส่ใจในเรื่องความปลอดภัย และที่สำคัญคือผู้ให้บริการหรือเจ้าของสถานที่ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ทุกอย่างภายในสถานที่ของตนเองให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุดตลอดเวลา หากพบสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น ก็ต้องเข้าไปแก้ไขโดยพลัน หรือสั่งให้หยุดให้บริการชั่วคราวโดยทันที เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขึ้น 

อุบัติเหตุครั้งนี้คือเครื่องบ่งชี้ชัดเจนว่าการดูแลอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในท่าอากาศยานดอนเมืองมีปัญหาจริงๆ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นนี้ขึ้นมา หลายคนบอกว่าดีนะที่ผู้ประสบเหตุเป็นคนไทย หากเป็นคนต่างชาติ จะยิ่งเสียชื่อของประเทศมากกว่านี้ แต่ผู้เขียนมองว่า ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็ตาม ความเสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศก็บังเกิดขึ้นแล้ว แล้วต้องบอกอีกว่าข่าวนี้ทำให้ข่าวลือที่ว่าท่าอากาศยานดอนเมืองติดอันดับท่าอากาศยานที่มีอันตรายสูงสุดของโลก โดยติด 1 ใน 29 สนามบินสุดอันตราย กลายเป็นเรื่องที่ดูแล้วเป็นความจริงขึ้นมาโดยทันที 

แต่ไม่ว่าท่าอากาศยานต่างๆ ของไทยจะมีปัญหาต่างๆ นานา มากมายเพียงใดก็ตาม แต่คุณทราบไหมว่า เงินเดือน และสวัสดิการของผู้บริหารท่าอากาศยานไทยงดงามมากจริงๆ ไม่เชื่อลองเข้าไปดูตัวเลขเงินเดือนผู้บริหารของหน่วยงานนี้ แล้วจะรู้ว่าเงินเดือนงดงามมากเพียงใด