นักการเมือง พรรคการเมืองไทยบางกลุ่ม แสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์จีนอย่างชัดเจน
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคลื่อนไหวด้อยค่าวัคซีนจีน หนุนม็อบฮ่องกง ด้อยค่ารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เอาไฮเปอร์ลูปมาคุยโวโอ้อวด ไปร่วมงานเอ็นจีโอในต่างประเทศที่ด้อยค่าเป็นปฏิปักษ์กับจีน ไปพูดที่ไต้หวันโจมตีด้อยค่านโยบายต่างประเทศไทยต่อจีน-ต่อเมียนมา
นางสาวพรรณิการ์ วาณิช ด้อยค่าความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับจีน ไทยกับซาอุดีอาระเบีย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประกาศจะทบทวนนโยบายต่างประเทศ จะกดดันเมียนมามากขึ้น (เข้าทางผลประโยชน์สหรัฐอเมริกา) จะลดการพึ่งพานักท่องเที่ยวจีน ตลาดจีน
สส.พรรคก้าวไกลบางคน มีพฤติกรรมหยิบเรื่องทุนจีนสีเทานำมามั่วโจมตีทุนจีนภาพรวม ดิสเครดิตจีน ทำให้ประเทศจีนเสียหายไปด้วย ทั้งๆ ที่ ประเทศจีนก็สนับสนุนให้ไทยปราบปรามทุนจีนสีเทามาโดยตลอด
ก่อนเลือกตั้ง มีกลุ่มองค์กรที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล เคลื่อนไหวเชื่อมโยงกับสหรัฐอเมริกา สส.และสว.สหรัฐเสนอญัตติกดดันข่มขู่ประเทศไทย ให้แก้ไขมาตรา 112 และโจมตีสถาบันสำคัญของไทย ฯลฯ
ล่าสุด แฟนเพจ Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้นำเสนอคำให้สัมภาษณ์ของเอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง
ในโอกาสวันครบรอบ 48 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนและไทย
1. ประโยชน์ร่วมกัน ไทย-จีน
ท่านเอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง กล่าวตอกย้ำว่า การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ไทย ประสบความสำเร็จมากว่าครึ่งศตวรรษ
และเป็นการเริ่มต้นทศวรรษที่สองของความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทย
ระบุว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มาเยือนประเทศไทยเมื่อปีที่แล้ว และได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณฯ และพบปะกับนายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา ตามลำดับ
ทั้งสองประเทศได้ประกาศร่วมสร้างชุมชนแห่งโชคชะตาร่วมจีน-ไทยที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นการชี้ชัดถึงทิศทางความสัมพันธ์จีน-ไทยยุคใหม่ อีกทั้งได้เพิ่มเนื้อหาแห่งยุคสมัยให้กับคำว่า “จีนไทยพี่น้องกัน” ตลอดจนส่งเสริมความไว้วางใจซึ่งกันและกันทางการเมืองระหว่างทั้งสองประเทศสู่ระดับที่สูงขึ้นไปอีก
ในปี 2023 ปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างจีนและไทยสูงถึง 1.35 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
จีนกลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 10
เมื่อปีที่แล้ว การลงทุนโดยตรงของบริษัทจีนในไทยสูงถึง 2,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จีนกลายเป็นแหล่งเงินทุนต่างชาติที่ใหญ่ที่สุดของไทยอีกครั้ง ฯลฯ
2. ระวังกลุ่มที่มีเจตนาซ่อนเร้น ใช้เรื่องทุนสีเทาเพื่อทำลายความสัมพันธ์จีน-ไทย
ท่านเอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง ได้กล่าวด้วยว่า
“...เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานมากมายเกี่ยวกับทุนสีเทาในสื่อของไทย
สิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ จีนกำหนดให้พลเมืองและบริษัทจีนในต่างประเทศปฏิบัติตามกฎหมายและขนบธรรมเนียมของประเทศปลายทางอย่างเคร่งครัด ให้ประกอบธุรกิจที่ถูกกฎหมาย และตอบแทนสังคมอย่างจริงจัง และพวกเขาก็ทำเช่นนั้นจริง มีบริษัทจีนในไทยจำนวนมากกระตือรือร้นกับการทำกิจการเพื่อสาธารณประโยชน์พร้อมๆ กับการพัฒนาธุรกิจของพวกเขา ซึ่งความพยายามและคุณประโยชน์ที่พวกเขาได้ทำเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในท้องถิ่นนั้นเป็นที่ประจักษ์
มีชาวจีนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การพนันออนไลน์และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ ฝ่ายจีนสนับสนุนให้ฝ่ายไทยดำเนินการปราบปรามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอย่างเต็มที่ และในความเป็นจริง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของจีนและไทยได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดในการปราบปรามแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติอยู่แล้ว และและได้ประสบผลสำเร็จอย่างมาก
สิ่งที่ผมต้องการเน้นย้ำ คือ ชาวจีนที่ประกอบธุรกิจผิดกฎหมายและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมในประเทศไทยนั้นมีจำนวนน้อยมาก เราควรแยกแยะคนเหล่านี้ออกจากพลเมืองจีนและบริษัทจีนในประเทศไทย
บางกลุ่มที่มีเจตนาซ่อนเร้น ใช้เครือข่ายการสื่อสารเพื่อทำลายภาพพจน์ของประเทศจีน สร้างความขัดแย้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความแตกแยกระหว่างจีนกับไทย ซึ่งเราต้องระมัดระวังอย่างมาก”
3. บางประเทศพยายามหวนกลับไปสู่ความคิดแบบสงครามเย็น... สหรัฐระวัง ยกหินขึ้นมา แต่กลับหล่นทับขาตัวเอง
ท่านเอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง กล่าวถึงสถานะและบทบาทของจีนในเวทีโลก บางตอนระบุว่า
“..โลกทุกวันนี้กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในรอบศตวรรษ
โลกมีหลายขั้ว โลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจกำลังพัฒนาอย่างพลิกผัน และการปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรอบใหม่กำลังอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น
การพัฒนาอย่างสันติยังคงเป็นแนวโน้มของยุคสมัยและความปรารถนาของประชาชน
ในเวลาเดียวกัน บางประเทศกำลังเคลื่อนไหวต่อต้านกระแสแห่งประวัติศาสตร์ พยายามหวนกลับไปสู่ความคิดแบบสงครามเย็น ส่งเสริมการกีดกันและการเผชิญหน้า และยั่วยุให้เกิดข้อพิพาทและความขัดแย้ง โลกได้มาถึงทางแยกแห่งสันติภาพและสงคราม ทางแยกแห่งความเจริญรุ่งเรืองและความเสื่อมถอยอีกครั้ง
จีนยืนหยัดเสมอมาในการรักษาสันติภาพของโลก และส่งเสริมการพัฒนาร่วมกัน กระชับและขยายความเป็นหุ้นส่วนระดับโลกด้านความเสมอภาค การเปิดกว้างและความร่วมมือ มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการปฏิรูปและสร้างระบบธรรมาภิบาลโลก และมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ
...จีนสนับสนุนให้แก้วิกฤตยูเครนผ่านการเจรจาพร้อมทำงานอย่างหนักเพื่อไกล่เกลี่ย
จีนยังประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการปรองดองครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่สำคัญของข้อริเริ่ม
จีนเป็นผู้สนับสนุนการพัฒนาโลกมาโดยตลอดในปี 2022 เศรษฐกิจของจีนมีมูลค่ากว่า 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 18.5% ของเศรษฐกิจโลก
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จีนมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกต่อปีโดยเฉลี่ย 38.6% ทำให้จีนเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกที่ใหญ่ที่สุด
….ในหลายปีที่ผ่านมา ทางสหรัฐฯถือกลยุทธ์ที่สกัดกั้นการพัฒนาของจีน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ประสบความเสียหายอย่างหนัก
ในเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประสบความสำเร็จในการพบกันที่บาหลีและบรรลุฉันทามติที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ฉันทามติดังกล่าวถูกขัดขวางโดยการกระทำที่ไม่หวังดีของฝ่ายสหรัฐฯ
จีนและสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์หากมีความร่วมมือ และจะเสียประโยชน์หากมีการเผชิญหน้า
ฝ่ายจีนจะปฏิบัติตามหลักการของการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ซึ่งเสนอโดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการรับมือกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
เราหวังว่า สหรัฐฯจะหันหน้าเข้าหาจีน ละทิ้งแนวคิดแบบสงครามเย็นและเกมผลรวมเป็นศูนย์ และผลักดันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ให้ออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก และกลับสู่เส้นทางเดิมที่ถูกต้อง
ความคิดที่จะสกัดกั้นการพัฒนาของจีน มิอาจจะกลายเป็นความเป็นจริงได้
การกระทำอย่างนี้ ท้ายที่สุด ก็เป็นเพียงการยกหินขึ้นมา แต่กลับหล่นทับขาตัวเอง…”
ต้องถามพวกที่พยายามบ่อนทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทย-จีน มันมีปัญญารับผิดชอบหรือไม่ หากเกิดผลกระทบและความเสียหายขึ้นมาจริงๆ จากการปรับเปลี่ยนนโยบายไปในทางปฏิปักษ์กับจีน?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี