การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรผ่านไปเรียบร้อย
1.เป็นอันว่า พรรคก้าวไกล ไม่ได้เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร พลาดไปตามคาด
และสัปดาห์ถัดไป จะพลาดเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามไปด้วยหรือไม่? โปรดรอชม
2.ตำแหน่งประธานสภาฯ ที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยช่วงชิงแข็งขืนกันมาตลอด ตกเป็นของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ โดยปราศจากคู่แข่ง
อาจารย์วันนอร์ ผู้เป็นเหมือน “แม่น้ำแยกสาย-ไผ่แยกกอ” ออกจากพรรคทักษิณนั่นเอง
3.การที่ก้าวไกลเสียเก้าอี้ประธานสภาฯ สะท้อนความพ่ายแพ้หมดรูป
แต่พยายามอำพรางความบอบช้ำ ผ่านการอ้างว่า ยอมยกเก้าอี้ให้คนกลาง
จริงๆ อยากได้ใจจะขาด
แล้วก็เจ็บปวดจะขาดใจ
เพราะรู้ทั้งรู้ว่า “วันนอร์” กับ “ทักษิณ” มองตาก็รู้ใจ
เหตุที่ “วันนอร์” แยกออกมาจากพรรคไทยรักไทยของทักษิณ ก็เพราะพรรคของทักษิณไม่มีวันขายได้ในภาคใต้
โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ทักษิณได้ก่อกรรมทำเข็ญเอาไว้
ชาตินี้ คนใต้ไม่มีวันลืม
4.หน้าชื่นอกตรม
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พยายามยิ้มกลบเกลื่อน กับการที่ต้องยอมถอยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ ทั้งที่ได้ประกาศกร้าวไว้ก่อนหน้านี้
“เราตัดสินใจภายใต้การรักษาเอกภาพการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล”
ด้อมส้มฟังไว้ ไม่ต้องเอาทัวร์ไปลงใคร ก็พ่อส้มตัดสินใจถอยเอง แล้วก็เป็นคนเสนอชื่อนายวันนอร์ด้วยตนเองในสภา
5.รางวัลปลอบใจ
ผลการลงคะแนนเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ปรากฏว่านายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ชนะนายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ
นายปดิพัทธ์ ได้ 312 คะแนน
นายวิทยา ได้ 105 คะแนน
งดออกเสียง 77 เสียง และบัตรเสีย 2 ใบ
ไม่มีอะไรมากไปกว่า พรรคก้าวไกลเท่าทุน
ห่างไกลเกินกว่าจะเรียกว่าความสำเร็จของพรรคที่มีจำนวน สส. 151 เสียง
ส่วนที่ตีปั๊บปลอบในตัวเองและปลอบใจกันเอง ว่าได้คะแนน 312 คือ ความเหนียวแน่นของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ก็ยิ่งตลก
เพราะมันต้องได้ตามนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อพรรคเพื่อไทยได้ตามข้อเสนอของเขาแล้ว
และนายพิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็ได้เป็นรองประธานสภาคนที่ 2โดยไม่มีใครเสนอชื่อแข่ง
6.น่าสังเกตว่า พรรคขั้วรัฐบาลปัจจุบัน 188 เสียง ไม่ขัดขวางแนวทางข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยเลย
เพื่อไทยผลักดันว่า “วันนอร์” เป็นประธาน พรรคขั้วรัฐบาลปัจจุบันไม่เสนอแข่ง
เพื่อไทยผลักดัน “พิเชษฐ์” เป็นรองประธานคนที่สอง พรรคขั้วรัฐบาลปัจจุบันก็ไม่เสนอแข่ง
แต่พรรคขั้วรัฐบาล 188 เสียง โดยรวมไทยสร้างชาติ เสนอแข่งเฉพาะกับนายปดิพัทธ์ สส. พรรคก้าวไกล
แถมได้คะแนนเสียงถึง 105 เสียง
7.พรรครวมไทยสร้างชาติ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ชี้แจงว่า
“วันนี้ พรรครทสช. ได้ทำหน้าที่ที่สำคัญในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก
คือ เสนอชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ เข้ารับการแข่งขันในตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1
หลังจากที่มีผู้เสนอสมาชิกจากพรรคก้าวไกลให้ดำรงตำแหน่งนี้
ซึ่งหากไม่มีใครเสนอชื่อแข่ง ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียวก็จะลอยลำได้ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 โดยทันที
จะเท่ากับว่าเรายอมรับไปด้วย
ดังนั้น เราจึงต้องทำหน้าที่แม้เป็นพรรคเล็กมี สส.เพียง 35 คน เพราะอนุชา บูรพชัยศรี ยังไม่ได้เลื่อนขึ้นมาแทนผม จึงต้องเสนอสู้
เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ผลชนะหรือแพ้ แต่อยู่ที่ใจและสำนึกการทำหน้าที่ปกป้องสิ่งที่เรารัก
ใครจะร่วมสู้กับเราบ้างก็แล้วแต่ อย่างที่บอก แพ้ชนะไม่สำคัญสำคัญที่สุดคือเราสู้ไม่ถอย”
8.ในการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯ มีโอกาสจะเป็นอย่างไรบ้าง?
เชื่อแน่ว่า พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค จะเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อย่างแน่นอน โดยไม่มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นแข่ง
จะได้คะแนน สส. 312 แน่นอน
แต่จะได้รับคะแนนรวม (สส.และสว.) ถึง 376 เสียงหรือไม่?
โอกาสน้อยมาก
เพราะสมาชิกรัฐสภา อันประกอบด้วย สส. และ สว. ที่เหลือไม่ลงมติเห็นชอบนายพิธาเป็นนายกฯ
โดย สว.ส่วนใหญ่ อาจจะงดออกเสียง
หลังจากนั้น ประธานฯ วันนอร์ ก็คงดำเนินการตามที่ประกาศไว้ว่าจะเสนอชื่อพิธาอีกครั้งสองครั้งเท่านั้น
เว้นแต่คดีหุ้นสื่อไปถึงศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน
หลังจากนั้น เป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อบุคคลในบัญชีรายชื่อนายกฯของตน
เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อาจดึงพรรคอื่นเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้พรรคก้าวไกลถอนตัวไปเป็นฝ่ายค้าน
โปรดติดตามว่าจะเป็นเช่นว่า หรือไม่?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี