ในวันที่ 23 กรกฎาคม นี้ จะมีการเลือกตั้งทั่วไปที่ประเทศกัมพูชาเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งการเลือกตั้งจะเป็นไปในกรอบของคำว่าประชาธิปไตย นั่นคือ มีพรรคการเมือง มีผู้สมัครจากพรรคการเมือง และประชาชนพลเมืองไปใช้สิทธิ์หย่อนบัตรเลือกตั้ง
หากดูผิวเผินก็คงจะคิดว่า ประชาธิปไตยของกัมพูชานั้นเข้าท่าดี เพราะไม่ได้ผิดแปลกไปจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยในประเทศอื่นๆ โดยทั่วไป แต่ถ้ามองลึกเข้าไปอีกนิดหนึ่ง ก็จะเห็นความพิลึกพิลั่น เห็นการเป็นประชาธิปไตยแบบบิดเบือน ซึ่งก็มีปรากฏการณ์ที่บ่งบอก อาทิ
1.สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์กติกา และสั่งการแต่ผู้เดียว
2.คณะกรรมการการเลือกตั้ง ศาลยุติธรรม รวมทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ต่างตกอยู่ในอาณัติของสมเด็จฮุนเซน แบบเบ็ดเสร็จ
3.สมเด็จฮุนเซน ได้ใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมเป็นเครื่องมือทางการเมือง ในการยึดพรรค ตัดสิทธิ์ของพรรคการเมืองอื่นๆ และนักการเมืองที่เห็นต่างให้หายไปจนหมดสิ้น รวมทั้งการตั้งข้อหาเถื่อนๆ เช่น มีการดำเนินการเป็นการก่อการร้าย ทำลายศีลธรรม ทำลายเสถียรภาพและความสงบสุขของบ้านเมืองต่างๆ นานา ส่งผลให้นักการเมือง นักเคลื่อนไหว นักหนังสือพิมพ์ หรือสื่ออิสระ ต้องหนีลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ไปเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง เพื่อที่จะพ้นเงื้อมมือขอสมเด็จฮุนเซนได้ (Weaponization of Law)
4.พรรคการเมืองที่ได้รับอนุญาตให้คงชีวิตอยู่มีประมาณ 15-16 พรรค ต่างก็เป็นพรรคเล็กพรรคน้อย ไม่มีความสลักสำคัญ และต้องสมยอม หรือโอนอ่อนต่ออำนาจของสมเด็จฮุนเซน กลายเป็นเพียงพรรคไม้ประดับเพื่อให้ดูดี เป็นการหลอกลวง
ทั้งตัวเอง และชาวบ้านทั่วไป
5.ฉะนั้นการเลือกตั้งในวันที่ 23 กรกฎาคม ดังกล่าว จึงเท่ากับว่า เป็นการเลือกตั้งที่มีพรรคการเมืองพรรคเดียวลงสนาม นั่นคือ พรรคประชาชน (The People’s Party) ของสมเด็จฮุนเซน ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าพรรคของสมเด็จฮุนเซนก็จะกุมชัยชนะเป็นเด็ดขาดแต่ฝ่ายเดียว การเลือกตั้งที่จัดขึ้นจึงเป็นเรื่องเสแสร้ง ลวงโลก ไร้ความถูกต้องชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น (Sham Elections)
6.ในการนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจระงับการให้ความช่วยเหลือรัฐบาลของสมเด็จฮุนเซน ในเรื่องค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง และบรรดาประเทศพัฒนาแล้วที่เป็นประชาธิปไตยต่างปฏิเสธที่จะจัดส่งคณะผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งมาร่วมสังเกตการณ์ เพราะเห็นว่าไร้ประโยชน์ และไร้คุณค่า สะท้อนให้เห็นว่าประชาคมโลกที่เป็นประชาธิปไตยเขาไม่เอาด้วยกับประชาธิปไตยสไตล์สมเด็จฮุนเซน แล้วก็เป็นไปได้ว่า หลายๆ ประเทศอาจจะคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยการประกาศว่า ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบธรรม ซึ่งหลายประเทศคงจะต้องเริ่มหันกลับมาให้ความสนใจกับความเป็นไปในกัมพูชา โดยเฉพาะในเรื่องการบิดเบือนประชาธิปไตย และโดยเฉพาะการละเมิด และทำลายล้างสิทธิมนุษยชนของชาวกัมพูชา ซึ่งชาวโลกคงจะไม่สามารถทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
ส่วนรัฐบาลไทยชุดปัจจุบันที่เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ ได้รับรู้พฤติกรรมเหล่านี้มาโดยตลอด ที่ผ่านๆ มาก็แสดงตนแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ ทั้งสิ้น รวมทั้งการดำเนินการเพื่อสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองให้กับชาวกัมพูชาที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นก็ยังไม่มีความชัดเจนนัก
ก็ได้แต่หวังว่า รัฐบาลชุดใหม่ของไทยที่กำลังจะตั้งกัน คงจะมีเยื่อใยกับชาวกัมพูชาเป็นสำคัญ และจะไม่มัวเกรงอกเกรงใจสมเด็จฮุนเซน ที่รู้จักอยู่แค่เรื่องอำนาจ และอัตตาอีกต่อไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี