“บุคคลแนวหน้า ในหนังสือพิมพ์แนวหน้า, แนวหน้าออนไลน์ www.naewna.com สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้“ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้างทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อสังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ติ่งแดงด้อมส้ม-อุปกรณ์การเกษตรส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...

nn ยุคดิจิทัล 5 จี ถือว่าเสมอภาคเท่าเทียมที่สุด ไม่ว่าจะยากดีวีไอพีแค่ไหนโอกาสโดนปล้นจิตวิญญาณเป็นไปได้เสมอ ... “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีรัฐบาลพรรคเพื่อไทย เจอมือดีเจาะแอคเคาท์สื่อโซเชียลยอดฮิต “ทวิตเตอร์” สวมรอย
แก้ไขข้อความเดิมเพื่อปลุกปั่นและสร้างความเข้าใจผิด เจ้าตัวเจ็บจี๊ดดดดดประกาศลั่น “อยู่ระหว่างการสอบสวน แต่จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด” ...

nn จากบ้านจากคอก “จันทร์ส่องหล้า” ไปนาน ภูมิคุ้มกันร่างกายจึงไม่ชินอากาศแถบอาเซียน มีกำหนดกลับชัดเจนสักครั้งก็มีเหตุอุบัติใหม่เกิดขึ้นเสมอ “โทนี่ วู้ดซัม” ทวีตข้อความประกาศเลื่อนเดินทางกลับประเทศไทยอีกกระทอกแล้ว ด้วยเหตุว่า หมอเรียกไปตรวจร่างกายก่อน “ไม้หน้าสาม” ว่าถ้ามันลำบากอายุอานามก็มากสุขภาพคงไม่ค่อยดีไม่ต้องมีชีวิตโค้งสุดท้ายในประเทศไทยก็ได้มั้งหาดินกลบหน้าที่ต่างประเทศสร้างกุศลให้เจ้าหน้าที่ไม่ต้องวุ่นวายกับการดำเนินการตามกฎหมายน่าจะดีกว่า
...

nn นี่ก็เจ็บจี๊ดเจียนตายเหมือนกัน “ช่อ-พรรณิการ์ วานิช” สนามการเมืองไม่มีพื้นที่ให้นางกรีดกราย แต่ในฐานะ “กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า” นางจัดเต็มคลิปไวรัลกัดจิกหยิกข่วน “พรรคเพื่อไทย” ระบายความในใจของตัวเองด้วยคำคมว่า “...เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย แต่เจ็บแค่ไหน ก็ยังพร้อมรับพรรคเพื่อไทย กลับมาเสมอ...” แต่เจอคอมเมนท์นี้คอมเมนท์เดียวเจ็บกว่ากันเยอะที่ว่า ... “พรรคเพื่อไทยผสมพันธุ์กับควายไม่ได้ค่ะ เสียใจแทนคุณช่อด้วย!?!?!”...

nn ขณะที่ News Commentator รายการ Wake Up Thailand ทางสถานีโทรทัศน์ช่องวอยซ์ 34 ที่เคียงข้าง “ด้อมส้ม-อุปกรณ์การเกษตร” มาตลอดยังตอกกลับแบนเนอร์ “ช่อ-พรรณิการ์” ที่ว่า “... ให้นายกรัฐมนตรีเป็นลุงป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รู้แล้วรู้รอด ยังเจ็บใจน้อยกว่าอีก ... น้อยกว่าผสมข้ามขั้วข้ามพันธุ์” ว่า ถ้าคิดว่าประชาชน คิดแบบนี้ คงไม่น่าจะใช่ไปถามชาวบ้านร้านตลาดที่ไหนก็ได้ ให้เลือกเศรษฐากับประวิตร เขาจะเลือกใครเป็นนายกฯ คิดแบบนี้คือเอาความเป็น “พรรคก้าวไกล” เป็น
ที่ตั้ง มากกว่าเอาประชาธิปไตยเป็นตัวตั้ง ถ้าตัวเองก็คิดแบบนี้ อย่าไปต่อว่ากล่าวหากรีดใส่พรรคเพื่อไทยเพราะ ไม่ได้ดีกว่ากันสักนิด...

nn“เสี่ยเอ๋-สมชาย แสวงการ” สมาชิกวุฒิสภาตัวตึงทวีตข้อความลงทวิตเตอร์ส่วนตัวติดแฮชแท็ก 2 ข้อความว่า #ลับลวงพราง #ดีลลับฮ่องกง ... พร้อมแบนเนอร์มีข้อความอ้างว่า “...เสรีพิศุทธ์ หลุดปาก อีก 3-4 เดือนปรับครม.ดึงกก.ผสมพันธุ์ ถีบพรรคอื่นออก”...

nn ต่ำตมคาวงการศึกษากว่านี้ก็มีมาแล้ว “ลูกแม่โดม/ เกษมสันต์ วีระกุล อดีตนักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์” หมดกลั้น ออกมาทวีตข้อความแสดงความไม่เห็นด้วยกับมหาวิทยาลัยที่จะเชิญ “พิธาคิโอ/พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล” ผู้ยึดมั่นในจุดยืนและหลักการ
ในการแก้ไข/ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และประกาศจะจัดวางพระราชอำนาจและพระราชสถานะพระมหากษัตริย์ใหม่ไปพูดในงานปฐมนิเทศนศ.ใหม่ ด้วยการกล่าวอ้างว่า “จิตวิญญาณของธรรมศาสตร์เหมือนกับวิถีก้าวไกล”!?!?!จริงหรือ จิตวิญญาณของธรรมศาสตร์คือฉันรักธรรมศาสตร์ เพราะธรรมศาสตร์สอนให้ฉันรักประชาชน อย่างที่ “ศรีบูรพา-กุหลาบ สายประดิษฐ์” กล่าวไว้ ... ธรรมศาสตร์ไม่เคยสอนให้พวกเราก้าวร้าว ก้าวล่วงและพยายามจะเปลี่ยนแปลงสถาบันหลักของชาติแต่อย่างใด ...มิใช่หรือ...

nn “ไม้หน้าสาม” จำได้ว่าก่อนหน้านี้ “บุคลากร” ในสังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เองเคยมีข้อเขียนแสดงความเห็นกรณี ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เชิญ “เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำกลุ่มคณะราษฎร 2563/ม็อบสามนิ้ว” นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ผู้ต้องหาคดีอาญามาตรา 112
มาเป็นองค์ปาฐกแสดงปาฐกถา โครงการประชุมวิชาการในโอกาสครบรอบ 55 ปี ภาควิชาประวัติศาสตร์ หัวข้อ เขียนสังคมใหม่ เขียนประวัติศาสตร์ประชาชน ในฐานะ “นักวิชาการอิสระ” มีอะไรจะสมเพชต่ำตมในวงการศึกษาไทยกว่านี้อีกครับ “อาจารย์เกษมสันต์ วีระกุล”...

nn สมราคา “พิธาคิโอ/ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล” ให้สัมภาษณ์สื่อบางค่ายเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ไว้ว่า “...สมาชิกวุฒิสภาเขาสัญญากับผมไว้ว่า เขาเห็นด้วยกับเสียงข้างมาก และจะโหวตตาม แต่วันที่มีการโหวตจริงกลับอยู่ประเทศญี่ปุ่น อยู่ยุโรป แค่ไม่มาเป็นองค์ประชุม สามารถล้มแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากพี่น้องประชาชนได้ แล้วเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่บอกว่าคนเท่ากัน ...” ... “พิธาคิโอ” ลืมอะไรไปหรือเปล่า วันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งแรก 13 กรกฎาคม 2566 มี สมาชิกวุฒิสภาโหวตเห็นชอบแค่ 13 คน ไม่เห็นชอบ 34 คน งดออกเสียง 159 คน รวมแล้ว 206 คน จากจำนวนสมาชิกรัฐสภาที่เข้าร่วมพิจารณาทั้งสิ้น 705 จาก 749 คน สมาชิกวุฒิสภามาเข้าร่วมเกือบครบจำนวนไม่ได้หายไปทั้งหมด แต่เขาไม่ได้รับปากจะโหวตให้พิธาต่างหาก เพราะเขาพิจารณาจุดยืนและหลักการแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีขาดทั้งวุฒิและนิติภาวะแล้วจึงไม่เห็นชอบและงดออกเสียง ที่สำคัญ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนเลือกไม่ได้มีแค่ “พิธาคิโอ/ทิม-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล” เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายคนคือ “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา/พรรครวมไทยสร้างชาติ”, “ลุงป้อม-พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ/พรรคพลังประชารัฐ”, “อนุทิน ชาญวีรกูล/พรรคภูมิใจไทย”,“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์/พรรคประชาธิปัตย์”, “เศรษฐา ทวีสิน,แพทองธาร ชินวัตร, ชัยเกษม นิติสิริ/พรรคเพื่อไทย” อีกต่างหากจึงไม่ใช่เรื่องล้มแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มาจากพี่น้องประชาชนได้ แล้วเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยที่บอกว่าคนเท่ากัน พระท่านว่า “นตฺถิอการิยํ ปาปํ มุสาวาทิสฺส ชนฺตุโน “คนชอบพูดมุสา จะไม่พึงทำชั่ว ย่อมไม่มี”...nn

ไม้หน้าสาม