ดูเหมือนว่า พรรคก้าวไกล กำลังจะก้าวไม่ไกล จากวงจรพรรคการเมืองและนักการเมืองน้ำเน่า หรือไม่?
คือ มุ่งจะเป็นฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว
ถ้าตัวเองไม่ได้เป็นรัฐบาล ก็ปั่นกระแสว่าพรรครัฐบาลไม่ใช่ฝ่ายประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน ก็ “อ้าขา-ผวาปีก” แบะท่ารอ
พร้อมจะเข้าร่วมเป็นรัฐบาลกับเขาได้ทุกเมื่อ
1. ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พรรคการเมืองทุกพรรค จะอยากเป็นรัฐบาล
ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ที่ก่อนและหลังเลือกตั้ง พรรคการเมืองจะพยายามทำให้ตนเองได้เป็นฝ่ายรัฐบาล
แต่เมื่อไหร่การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จเรียบร้อย
มีนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำฝ่ายบริหาร
ก็จะมีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล
หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็ควรจะต้องรู้จักทำหน้ที่ของตนเองอย่าง “ซื่อตรง” จริงจัง
มิใช่พออกหัก ไม่ได้เป็นฝ่ายรัฐบาล แล้วจะยังโหยหา กระสันอยากจะเป็นฝ่ายรัฐบาลไม่รู้จักจบสิ้น
2. เมื่อวานนี้ พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยก่อนการประชุมสส.ของพรรคก้าวไกล
ระบุว่า ตนจะเสนอให้พรรคก้าวไกลโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เนื่องจากต้องการโหวตเพื่อปิดสวิตช์ สว. โดยเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยจะรับปากว่า จะไม่มีการดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกล จะโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยต้องมีเงื่อนไขหรือไม่?
พล.ต.ต.สุพิศาล ระบุว่า เราเดินมาด้วยกัน และต้องการปิดสวิตช์สว.ไม่ต้องง้อสว. และเพื่อให้เกิดรัฐบาล รวมถึงเรายินดีกับการเมืองแบบใหม่ ที่เราไม่ได้ผูกติดอยู่กับอำนาจ ต้องการให้ประเทศชาติเดินไปด้วยดี ส่วนพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมกับใคร ก็ถือเป็นอำนาจของพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกัน พรรคก้าวไกลก็เปิดประตูไว้ หากพรรคเพื่อไทยจะกลับมาหาก็ได้
นักข่าวถามว่า ถึงแม้พรรคก้าวไกลจะโหวตเห็นชอบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย แล้วต้องไปเป็นฝ่ายค้าน?
พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าวว่า เป็นหน้าที่ที่ชำนาญอยู่แล้ว และถ้าหากเป็นฝ่ายค้านก็จะเห็นพรรคก้าวไกลรุ่นที่ 4
“วันหนึ่ง เราอาจจะร่วมมือกันอีกครั้ง เพราะเค้าเป็นมหามิตรเรา เป็นเพื่อนเรา ซึ่งพรรคเพื่อไทยอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องไป ก็ต้องปล่อยให้เค้าไป” พล.ต.ต.สุพิศาลกล่าว
2. ก้าวไกลควรเสนอชื่อพิธาแข่งชิงนายกฯ
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า
“อยากให้ก้าวไกลเสนอชื่อพิธีเป็นนายกฯ แข่งเป็นนายกฯ จากเพื่อไทย
เพราะไม่ใช่ญัตติซ้ำแล้ว
หากก้าวไกลไม่ส่งชื่อพิธาแข่ง จะเกิดคำถามขึ้นมากมาย
ก้าวไกลเล่นการเมืองแบบไหน
จะเป็นอีแอบ ตีท้ายครัว รอเสียบร่วมรัฐบาลหลังเพื่อไทยได้นายกฯไปแล้ว
เพราะได้ยินมาตลอดว่า ทำไมพรรคอันดับหนึ่งต้องเป็นฝ่ายค้าน
อยากเห็นการเมืองที่ใสสะอาด
ไม่เล่นเกมการเมืองที่สกปรก”
3. หลักประกันว่าจะไม่ถูกตีท้ายครัว?
พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ มองว่า การเมืองวันนี้ เมื่อเพื่อไทยทิ้งก้าวไกล มารวมกับกลุ่มอนุรักษ์ ให้เศรษฐาเป็นนายกฯ
โดยระบุว่าไม่แก้ ม.112 แต่ยังคงนโยบายก้าวไกลในหลายๆ เรื่องไว้
และก้าวไกล ก็ยังไม่ยอมรับว่า เป็นพรรคฝ่ายค้านอีกด้วย จึงน่าสงสัยนักหนา
“กรณีนี้ ถ้า สว.ผ่านให้ พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ เพื่อไทยก็จะติดปีก ได้คุมทุกอย่าง
ทั้ง (1) ประธานสภาฯ (2) นายกฯ (3) ตำแหน่ง รมต.สำคัญๆ กว่า 10 ตำแหน่ง
และ (4) เสียงสนับสนุนจากก้าวไกลอีก
จึงเท่ากับ “พรรคอนุรักษ์ ถูกดองทำอะไรไม่ได้เลย”
นอกจากนั้น ถ้าเกิดขัดแย้งกัน เรื่องนโยบายกับเพื่อไทย ในเรื่องออก พ.ร.บ.ต่างๆถึงไปโหวตกันในสภา ฝ่ายอนุรักษ์ก็จะแพ้ เพราะเพื่อไทยมีก้าวไกลคอยหนุนอยู่ในสภา
แต่ถ้าเกิดความขัดแย้งมากขึ้น เพื่อไทยอาจปรับ ครม.เอา ก้าวไกลเข้ามาแทนก็ได้
เพราะ “เพื่อไทยได้เป็นนายกฯไปเสียแล้ว ไม่ต้องง้อ สว.”
การที่เพื่อไทยยังมีลักษณะคล้ายกับการปฏิเสธพรรค 2 ลุง อยู่นั้น ยังเป็นการแสดงเยื่อใยที่ผูกโยงกับพรรคก้าวไกลอยู่
ดังนั้น พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ไปแยะแล้ว ก็ควรให้หลักประกันแก่พรรคฝ่ายอนุรักษ์บ้าง คือ มอบตำแหน่ง นายกฯ ให้ไป และพรรคเพื่อไทยก็เลือกกระทรวงเกรด A ไปแทน
มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อหน่อย ใช่ไหมครับ”
4. ก้าวไกลควรตั้งรัฐบาลแข่งเพื่อไทย
นายสันติสุข มะโรงศรี พิธีกรรายการข่าว Top News ให้ความเห็นว่า
“เอาจริงๆ ก้าวไกลอยากตั้งรัฐบาลแข่ง ก็ได้เลยนะตอนนี้ เอาเลย
ใครจะแก้ 112 มาจับมือกัน 151+ ทำไมไม่ทำ มัวถวิลอาลัยหา พท.ทำไมล่ะ
เพราะรู้ตัวน่ะสิ ว่าตัวเองไม่ได้ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่เสียงประชาชนส่วนใหญ่อย่างที่ปั่นหลอกเด็กไปทั่ว
ส่วน พท. จับมือ ภท. (141+71) = 212 ก็ยังต้องหาเพิ่ม ไม่แตะมาตรา 112 เขาก็ประกาศตรงๆ ไม่เอาก้าวไกลด้วยนะ จะเอาพรรคไหนมาเติม ทุกพรรคก็มาจากเลือกตั้งทั้งนั้น
ถ้าไม่สำเร็จ ภท. ก็เป็นแกนต่อไป
ก้าวไกลมัวรออะไร ตั้งรัฐบาลแข่งสิ เสนอพิธาต่อไป พรรคไหนเอาด้วยกับการแก้ 112 เหมือน ก.ก. มาร่วมเลย ก็ประกาศไปทั่วว่าใหญ่โตมาก ทำกันตรงๆ ซึ่งหน้าสิ
ก.ก. ไม่ใช่ กลับกลอก
ใครหลบหลังแก๊งเด็กป่วน นี่คือกระจอกมาก น่าละอาย...”
5. ถ้า ภท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ดร.เสรี วงษ์มณฑา วิเคราะห์ถึงปมการจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ ระบุว่า
“เพื่อไทย 141+ภูมิใจไทย 71 = 212 ไม่ถึง 251 ไม่ใช่ครึ่งหนึ่งของ 500
ปชป. กับ เพื่อไทยไม่รวมกัน
เพื่อไทยประกาศไม่เอา 2 ลุง
แล้วอีก 40 จะมาจากไหน แต่ถ้าได้อีก 40 เสียงก็ปริ่มน้ำนะ
เอา ชทพ. มาก็ 10 เสียง ประชาชาติ 9 เสียง พรรคอื่นๆ รวมยังไงก็ไม่มีทางที่จะได้ 251 เสียง
ไม่ถึงครึ่งสภานิติบัญญัติ
จะกลับไปดึงเอา ก.ก. เข้ามา ภท. ก็ไม่เอา
หนีลุงยากนะ
ถ้าเปลี่ยนคนจัดเป็น ภท. แล้วให้ พท. เป็นแขกรับเชิญเข้าร่วมรัฐบาล FC เพื่อไทยก็คงไม่อาจกล่าวหาว่า พท. ตระบัดสัตย์นะ
เป็นแขกรับเชิญ เจ้าภาพเขาเชิญใครมา ก็เรื่องของเจ้าภาพ เมื่อเป็นเพียงแขกรับเชิญ ก็ต้องเข้าใจว่าต้องตามใจเจ้าภาพ
รทสช. ไม่มีลุงตู่แล้ว เอา รทสช. เข้าไปก็ไม่ผิดคำพูดนะ
ลุงป้อมลาออกจาก พปชร. แล้วให้น้องชายนั่งหัวหน้าพรรคแทน การเอา พปชร. เข้าร่วมรัฐบาลด้วย ก็ไม่มีลุง พท. ก็ไม่ผิดคำพูดแล้ว
ก.ก. ที่มีด้อมส้มเป็นลมใต้ปีกนั้น น่าจะบินต่อยาก เพราะพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง จะทำให้พรรคเป็นหมาหัวเน่า ไม่มีใครเอาด้วย
คิดถึงสูตร Choc Mint ให้ ภท. เป็นคนจัดรัฐบาล แล้วเอา รทสช. และ พปชร. มาร่วมด้วย เข้าสู่บรรยากาศความปรองดองเถอะนะ
อย่าหลงอยู่กับอดีต มองไปข้างหน้าเพื่อประเทศชาติ
หยุดด่ากัน ส่วนใครทำผิดกฎหมายอะไรไว้ ก็ขอให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยดุษณี ไม่ทำตัวเหนือกฎหมาย เราน่าจะเดินหน้ากันได้นะคะ”
6. ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล หากทุกฝ่ายรู้ “หน้าที่” และ “ทำหน้าที่” ของตนเอง บ้านเมืองย่อมจะไปต่อได้
ถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ก็ทำหน้าที่รัฐบาล บริหารประเทศ ไม่สร้างเงื่อนไขความขัดแย้งรอบใหม่ ไม่ทุจริตโกงกิน ไม่เอื้อประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้องโดยมิชอบ ทักษิณกลับมาก็ทำตามระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ย่อมจะไม่เกิดปัญหา
ถ้าพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ ก็ควรเป็นโอกาสของพรรคอันดับสามพรรคภูมิใจไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
และไม่ว่าพรรคการเมืองใด ทุกพรรค ล้วนแต่มาจากการเลือกตั้ง
ครั้งเดียวกันนั่นเอง
เลิกบูลลี่ ปั่นกระแส แบ่งแยกว่าพรรคการเมืองใดสืบทอดอำนาจเผด็จการ เพราะทุกพรรคได้ สส.มานั้น ก็ล้วนแต่ประชาชนเลือกมา
เมื่อมีรัฐบาล พรรคที่เหลือก็เป็นฝ่ายค้าน ก็ควรทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ใช่คอยแบะท่า ยุแหย่ เพื่อจะได้เสียบเข้าร่วมรัฐบาล
หากเล่นเกมการเมืองกันไม่รู้จักจบสิ้น
ถ้าแบบนี้ การเมืองมันต่ำทรามเสียยิ่งกว่าหมากัดกันข้างถนน
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี