จากกรณี เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม นายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล และในฐานะรองประธานสภาฯ โพสต์เฟซบุ๊กโปรโมทเบียร์คราฟท์ยี่ห้อหนึ่ง
ถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนัก เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และส่อผิดกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เจ้าตัวยังดื้อด้าน ให้สัมภาษณ์เฉไฉ ยกกฎหมายต่างชาติ ยกข้ออ้างอยากส่งเสริมสินค้าในท้องถิ่น ยกว่าถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง ฯลฯ
เหลือเชื่อ!!!
ทำไมคนที่มีวิธีคิดน่าอดสูเช่นนี้ ถึงได้ดิบได้ดี ถึงขนาดเป็นรองประธานสภา?
1. นายแพทย์นิพนธ์ ชินานนท์เวช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค ระบุว่า กรณีดังกล่าว เป็นความผิดชัดเจน ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มาตรา 32
มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย หลังมีผู้นำรูปภาพเขามาร้องเรียนกับทางหน่วยงาน
นพ.นิพนธ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ส่วนตัวมองว่า อินฟลูเอนเซอร์ เป็นส่วนหนึ่งที่มีอิทธิพลกับพฤติกรรมการบริโภคแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันมีการโฆษณาแฝงผ่านทางสื่อโซเชียลฯ เป็นการชักชวนให้ผู้บริโภคหันมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น โดยไม่มองผลกระทบต่อผู้บริโภค ซึ่งประสบอุบัติเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ แล้วขับขี่ยานพาหนะ โดยแต่ละปีมีผู้ประสบอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับมากกว่า 50,000-60,000 ราย ในจำนวนนี้ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้เกิดการสูญเสียคนในครอบครัวและผู้อื่น
ในฐานะที่ดูแลงานด้านนี้ จึงอยากขอร้องเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ให้ช่วยกันรณรงค์ เพราะกฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ได้ห้ามขายหรือห้ามดื่มแต่เป็นการควบคุมการโฆษณาไม่อยากให้ผู้บริโภคหันมาดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อสังคมให้มากที่สุด และส่งเสริมแคมเปญ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” ซึ่งกำลังรณรงค์กันอยู่ ณ ปัจจุบัน
2. หมอเดชา หรือนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เห็นท่านรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ทรงเกียรติ) โพสต์แบบนี้แล้ว ก็เกิดข้อสงสัย
ข้อแรก ท่านเป็นถึงรองประธานสภาผู้แทน ท่านไม่ทราบว่ามีกฎหมายควบคุมสุราฯหรือ หรือท่านทราบดี
ผมเชื่อว่าท่านทราบดี แต่ท่านจงใจฝ่าฝืน และแสดงออกต่อสาธารณชน
ท่านคงมีจุดมุ่งหมายบางอย่าง จึงได้ทำอย่างนี้ โดยไม่เห็นเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
นายเดชา ระบุต่อว่า เรื่องกฎหมายผมไม่ค่อยติดใจเท่าไหร่ เพราะมีคนออกมาพูดเรื่องนี้กันมากแล้ว
แต่ผมติดใจตรงที่ท่านโพสต์ว่า “ไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมอะไรทั้งสิ้น”ผมไม่เห็นด้วย ไม่แน่ใจว่าคุณหมอสัตวแพทย์ปดิพัทธ์ รู้ความหมายของคำว่า “ศีลธรรม” ดีหรือไม่
ถ้าเข้าใจ“ศีลธรรม” ดี ก็จะไม่โพสต์ว่า เรื่องที่ทำ “ไม่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมอะไรทั้งสิ้น”
ไม่ต้องยกมาทั้งเรื่อง “ศีลธรรม”ก็ได้ ยกมาแค่ “ศีล” อย่างเดียวก็พอแค่ศีล 5 ที่เป็นเบื้องต้น ศีลข้อที่ 5 “สุราเมระยะ มัชชะปะมาฯ” การงดเว้นดื่มสุราซึ่งเป็นเหล้ากลั่น และเมรัยซึ่งเป็นเหล้าหมัก” คุณหมอฯแนะนำ เชิญชวนให้อุดหนุนคราฟท์เบียร์ ซึ่งเป็นเหล้าหมัก ก็เกี่ยวข้องกับศีลข้อ 5 ชัดๆ นับว่าคุณหมอฯ ทำผิดทั้งทางโลก กฎหมาย และทางธรรม ศีล 5 ไปพร้อมกันเลย
นายเดชา ทิ้งท้ายอย่างแหลมคมว่า
“เรื่องทางกฎหมาย คุณหมอคงมีนักกฎหมายอยู่ในพรรคฯมากมายแล้ว ไม่น่าเป็นห่วง
แต่เรื่องศีลธรรม ในพรรคฯของคุณหมอฯ คงหาที่ปรึกษาได้ยาก
ผมจึงอยากแนะนำให้คุณหมอฯน่าจะไปปรึกษา พระพยอม กัลยาโณเพราะท่านชื่นชมหัวหน้าพรรคก้าวไกล และท่านมีความรู้ด้านศีลธรรมเกี่ยวกับเหล้า ทั้งสุราเมรัยดีเป็นพิเศษ
พระพยอมฯเคยเทศนาอบรมคนไทย เกี่ยวกับเรื่องสุราเอาไว้ว่า หมานั้นฉลาดกว่าคนบางคน เพราะหมาไม่กินเหล้า แต่คนบางคนกินเหล้า จึงโง่กว่าหมา
ผมขอขยายความพระพยอมฯ อีกหน่อยว่า หมานั้นนอกจากไม่กินเหล้าแล้ว ยังไม่ส่งเสริมชักจูงให้คนกินเหล้าอีกด้วย”
3. นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดนายปดิพัทธ์ สันติภาดา แล้ว
เนื่องจากเข้าข่ายเป็นการโฆษณา ต้องห้ามตามกฎหมาย ซึ่งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 มาตรา 32 บัญญัติไว้ชัดเจนว่า
“ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือทางอ้อม”
บทบัญญัติในกฎหมายดังกล่าว กำหนดบทลงโทษไว้ในมาตรา 43 สำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 32 คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่ เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากต้องระวางโทษแล้ว ผู้ฝ่าฝืนยังต้องระวางโทษปรับอีกวันละไม่เกิน 50,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง อีกทั้งยังฝ่าฝืนประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ 2563 อีกด้วย
เรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ม.234(1) ประกอบพ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 ในการไต่สวนและมีความเห็นเกี่ยวกับมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 ว่าการกระทำของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา เข้าข่ายการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 ประกอบประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีฯข้างต้นหรือไม่
หากวินิจฉัยว่าเข้าข่ายก็จะต้องส่งเรื่องให้อัยการฟ้องต่อศาลฎีกาเพื่อพิพากษาลงโทษตามครรลองของกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม มาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรงที่นายปดิพัทธ์ อาจฝ่าฝืนมีหลายข้อ อาทิ ข้อ 7 ข้อ 8 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 17 และข้อ 21 ประกอบข้อ 27 ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะการไม่ประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน การก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เป็นต้น
“การกระทำของนายปดิพัทธ์อาจทำให้เยาวชนของชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะ FC ของพรรคก้าวไกลที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน
อาจจะมีพฤติกรรมลอกเลียนแบบนายปดิพัทธ์ซึ่งเป็นผู้นำของพรรคคนหนึ่งก็ได้
ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายต่ออนาคตของชาติ
องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิดเกี่ยวกับการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามครรลองของกฎหมายต่อไป” - นายศรีสุวรรณ กล่าว
4. ล่าสุด เจ้าตัวได้ลบโพสต์ดังกล่าวแล้ว
ถูกตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะเป็นเพราะนายปดิพัทธ์ทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นไม่ไหว
หรือเพิ่งจะคิดได้ว่า จะโดนดำเนินคดีจริงๆ
5. อย่างไรก็ตาม การกระทำข้างต้นนั้น ได้กระทำสำเร็จไปแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ยิ่งตำแหน่งสูง ยิ่งต้องมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง
โพสต์ภาพโฆษณาเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง โดยเป็นภาพถือกระป๋องเบียร์ยี่ห้อหนึ่ง เห็นเครื่องหมายทางการค้า โลโก้ชัดเจน
พร้อมข้อความระบุว่า “เอาแล้วๆๆๆๆ พิษณุโลกมีคราฟท์เบียร์ตัวแรกอย่างเป็นทางการแล้วครับ เป็นของดีพิดโลก นอกจากกล้วยตากและหมี่ซั่วครับ”
แล้วยังปรากฏคลิปภาพและเสียงว่อนโซเชียลด้วย
ประชาชนเข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ ตักเตือนรองประธานสภาฯ ก็ปล่อยให้เอฟซีด่าเขา
แล้วก็เที่ยวให้สัมภาษณ์สื่อ ตอบโต้เฉไฉไปเรื่อย
ที่น่าสมเพช คือ หัวหน้าพรรค นายพิธา ไร้ภาวะความเป็นผู้นำ ถึงขนาดให้สัมภาษณ์ปกป้อง อุ้มการกระทำผิด
นายเท่าพิภพ สส. อีกคนของพรรคก้าวไกล ก็ถึงขนาดประกาศจะแก้กฎหมายเพื่อให้ใครก็ได้สามารถโพสต์เชียร์เบียร์ได้ !!!!
สมองคิดไม่ออกกันเลยหรือ ว่าถ้าให้ใครโพสต์โฆษณาก็ได้ แล้วเหล้าเจ้าสัว เบียร์นายทุนทั้งหลาย เขาจะไม่ทุ่มเงินจ้างคนดัง อินฟลู ดารา นักร้อง โพสต์กันกระหน่ำยิ่งกว่า ทำให้เหลื่อมล้ำมากเข้าไปอีก
6. ติดตามต่อไปว่า รองประธานสภาฯ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร?
ไร้ความเหมาะสมในตำแหน่งรองประธานสภา และตำแหน่ง สส.เต็มที
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี