“พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง” นายก อบจ.ปทุมธานี ผู้ที่ขณะรับราชการตำรวจ บินไปพบบุคคลหลบหนีหมายจับ หนีคุก ที่ชื่อ “นายทักษิณ ชินวัตร” เพื่อให้ “ประดับยศตำรวจ” ให้ ให้สัมภาษณ์หลัง “นายทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับประเทศไทย ว่า
ตนต้องเรียนอย่างนี้ว่า การที่ท่านเดินทางกลับประเทศไทย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากฝากถึงกระบวนการของกฎหมาย ขอให้ปฏิบัติกับท่าน อย่าไปหาเรื่องเอาให้มันเป็นไปตามจริง อย่าไปหาเรื่องอื่นมาใส่ท่านอีกในเมื่อท่านตัดสินใจมา ท่านเป็นคนไทย ท่านกลับมาแผ่นดินไทย แต่กระบวนการต่างๆ นั้น ต้องให้ความเป็นธรรมกับท่าน
“ผมนำเรียนแค่ในความรู้สึกของผม แล้วผมเป็นห่วงว่า ในเมื่อกระบวนการต่างๆ ของไทย จากการ
ที่ท่านออกไป ถามว่าท่านได้รับความเป็นธรรมไหม เพราะฉะนั้นเมื่อท่านเดินเข้ามา ท่านเป็นคนไทย ท่านกลับเมืองไทย แล้วท่านเป็นคนรักเมืองไทย ทำให้ประเทศชาติเราเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาในช่วงก่อนโน้น เห็นไหมเราขึ้นมาขนาดไหน แต่ตอนนี้มันล้าหลังไปขนาดไหน ก็ฝากไว้ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ความเป็นธรรมกับท่านให้มากที่สุด ผมดีใจที่ท่านได้กลับมาเมืองไทย” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว
เราคงไม่ต้องตั้งคำถามกับมาตรฐาน “เห็นผิดเป็นชอบ-เห็นชั่วเป็นดี” ของคนคนนี้ แต่เรามาตั้งคำถามกับ “การปฏิบัติ” ของตำรวจกับกรมราชทัณฑ์ ต่อ“นายทักษิณ” กันดีกว่า ว่า เสมอเหมือน เท่าเทียม เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ “ผู้ต้องหมายจับ” หรือ “นักโทษ” รายอื่นๆ หรือไม่
1) คำถามแรกคือ ทันทีที่นายทักษิณเหยียบแผ่นดิน การควบคุมตัว กระทำทันทีหรือไม่ หรือมีเวลาให้ทำพิธีกรรมต่างๆ มากมาย ตั้งแต่กราบพระบรมฉายาลักษณ์ เดินออกมาทักทายแฟนคลับ พบกับบริวารนักการเมือง โบกมือให้สื่อมวลชน นักโทษคนอื่นๆ เคยได้สิทธิอย่างนี้หรือไม่?
2) ต่อมากองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ได้นำ นายทักษิณ ชันวัตร บุคคลตามหมายจับมาส่งต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อตรวจสอบบุคคลที่อยู่ต่อหน้าศาล ว่า เป็นจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดี ดังนี้
1.คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการ
กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ พ.ต.ท.ทักษิณหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย กรณีสั่งให้ธนาคารเพื่อการนำเข้าส่งออก (เอ็กซิมแบงก์)ปล่อยกู้ให้แก่รัฐบาลพม่าเอื้อประโยชน์แก่บริษัทในเครือชินคอร์ปฯ
2. คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ระหว่าง คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ พ.ต.ท.ทักษิณหรือนายทักษิณ ชินวัตร ที่ 1 กับพวกรวม 47 คน กรณีการออกหวยบนดินโดยไม่มีกฎหมายรองรับ
3. คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ของศาลนี้ ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ พ.ต.ท.ทักษิณหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย กรณีแก้ไขสัมปทานโทรคมนาคมเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ปฯ
ศาลรับตัวจำเลยหรือจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสามคดีดังกล่าวไว้ และได้แจ้งให้จำเลยหรือจำเลยที่ 1 ทราบ
คำพิพากษาแล้ว โดยคดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 ลงโทษจำคุก 3 ปี คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 ลงโทษจำคุก 2 ปี คำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 ลงโทษจำคุกรวม 5 ปี
นับโทษจำคุกของจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 และต่อจากโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ในคดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 จึงรวมแล้ว จำคุก 3 คดี เป็นระยะเวลา 8 ปี ศาลออกหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในแต่ละคดีแล้ว จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายทักษิณ ไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
3) กรมราชทัณฑ์ร่วมกันแถลงข่าวหลังจากรับตัว “นายทักษิณ ชินวัตร” ผู้ต้องขังในคดีทางการเมือง โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม,นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์, นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และนายแพทย์วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
นายอายุตม์ เปิดเผยว่า ภายหลังรับตัวนายทักษิณ มาแล้ว เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้จัดสถานที่เพื่อรองรับกรณีมีญาติมาเยี่ยม เนื่องจากผู้ต้องขังมีญาติเพื่อน และองค์กรต่างๆ ที่ให้การสนับสนุน และมีความประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาเยี่ยมจำนวนมาก โดยที่ทุกคนสามารถมาลงทะเบียนขอเยี่ยมได้ตามระเบียบของเรือนจำ
นอกจากนี้ เนื่องจากนายทักษิณ มีอายุ 74 ปีแล้ว ซึ่งถือว่าอยู่ในกลุ่มผู้ต้องขังสูงอายุที่ต้องเฝ้าระวังทั้งเรื่องสุขภาพร่างกายและอนามัย เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยขณะนี้ได้แยกตัวผู้ต้องขังไปอยู่ในสถานพยาบาลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เพียงคนเดียวก่อนเพื่อไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขังคนอื่น
นายอายุตม์ ยังบอกว่า ขณะนี้นายทักษิณ ยังไม่ต้องกล้อนผมเหมือนผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากผมยัง
ไม่ยาว และนายทักษิณ ได้ไว้ผมรองทรงซึ่งก็ถือว่าไม่ยาวมาก รวมทั้งเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ เป็นผู้ใหญ่ที่ทางเรือนจำ
ให้เกียรติ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่เข้าเรือนจำวันนี้ เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวและยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อของทางเรือนจำ โดยจุดแรกเข้าไปประตู 2 ผ่านไปยังประตู 3 ก่อนไปยังจุดตรวจสอบประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ ไม่ได้ใช้เวลานาน ไม่มีสีหน้าวิตกกังวล และไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ
ขณะที่นายสิทธิ กล่าวว่า ขณะนี้นายทักษิณ ได้ถูกแยกขังอยู่ในแดน 7 บนชั้น 2 ของอาคารเพียงคนเดียว ซึ่งเป็นห้องปกติไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีกล้องวงจรปิด และแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดูแลตามกระบวนการและความปลอดภัย
สำหรับการเข้าเยี่ยมของญาติ ตามระเบียบผู้ต้องขังจะถูกกักตัวก่อน 10 วัน โดยใน 5 วันแรก จะให้เพียงทนายความเข้าเยี่ยมเท่านั้น ส่วนวันที่ 6-10 จะญาติเยี่ยมได้ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งนายทักษิณ ถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง 608 สามารถเรียกร้องขออาหารเสริม หรือยารักษาโรคเพิ่มเติมได้
ด้านนายนัสที เปิดเผยว่า กรณีที่นายทักษิณ ต้องอยู่ในแดนที่เป็นสถานพยาบาลเพื่อระมัดระวังรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นกลุ่มเปราะบาง และยึดหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยใช้ทีมแพทย์และพยาบาลของเรือนจำตรวจร่างกายตลอด สำหรับอาหารของทางเรือนจำ ก็เป็นอาหารตามวงรอบ แต่ก็มีอาหารพิเศษที่มีร้านค้าเปิดจำหน่าย โดยผู้ต้องขังสามารถซื้อได้วันละ 500-600 บาท และเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพ ไม่มีโซเดียม ส่วนกิจวัตรของเรือนจำ นายทักษิณ ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบเหมือนผู้ต้องขังคนอื่นทั่วไป ส่วนอาหารมื้อแรกในเรือนจำ ซึ่งเป็นมื้อกลางวัน ที่นายทักษิณ รับประทานเพียงน้ำดื่ม และขนมปังเพียงเล็กน้อย และบอกว่ายังไม่ค่อยหิว ส่วนอาหารมื้อเย็นในเรือนจำวันนี้ เป็นข้าวต้ม และผักต้ม
นายแพทย์วัฒน์ชัย เปิดเผยว่า ญาติของนายทักษิณ ได้นำประวัติการรักษา การตรวจร่างกายแบบ MRI จากการรักษาในโรงพยาบาลที่ต่างประเทศ 2 แห่ง มาประกอบด้วยโดยเบื้องต้นพบว่านายทักษิณกำลังรักษาอยู่ 4 โรค คือโรคหัวใจขาดเลือด ปอดอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท ซึ่งทั้ง 4 โรคนี้ ก็ถือว่าเป็นโรคที่ต้องใช้แพทย์เฉพาะทางทำการรักษา โดยเบื้องต้นได้เตรียมแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไว้แล้ว แต่หากโรคใดไม่มีแพทย์เฉพาะทางก็จำเป็นต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลที่มีแพทย์เฉพาะทางของโรคนั้นอยู่ ซึ่งตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ การส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาภายนอกจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย หรือการหลบหนีจากการคุมขังอีกด้วย ฉะนั้นจึงต้องใช้โรงพยาบาลของรัฐเป็นหลัก โดยอันดับแรกคือ โรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลเฉพาะทางในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข หลังจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโรคจากระบบทางเดินหายใจ ซึ่งทางเรือนจำมีห้องกักโรคไว้แล้ว รวมทั้งเฝ้าระวังโรคติดต่อจากต่างประเทศเนื่องจากผู้ต้องขังได้เดินทางไปหลายประเทศ
นายสิทธิกล่าวถึง การขอพระราชทานอภัยโทษ ว่า นายทักษิณ สามารถยื่นคำร้องได้ตั้งแต่วันนี้ โดยตัวนายทักษิณหรือญาติ สามารถส่งเอกสารให้ทางเรือนจำฯ ก็ได้ และขั้นตอนหลังจากนี้จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม และยื่นให้เรือนจำพิจารณา ก่อนที่จะส่งให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ก่อนเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามส่งให้สำนักองคมนตรี นำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯถวาย ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน และหลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจ ซึ่งส่วนใหญ่จะช้าอยู่ที่ขั้นตอนการรวบรวมเอกสารของผู้ต้องขัง ซึ่งการขอพระราชทานอภัยโทษมี 2 ประเภท คือ เฉพาะบุคคล และเป็นการทั่วไป โดยแต่ละเรื่องจะมีพระบรมราชวินิจฉัยเป็นแต่ละคราวไป
คำถาม : นักโทษคนอื่นๆ ได้รับการปฏิบัติเรื่องเสื้อผ้า ทรงผม เช่นเดียวกันนี้หรือไม่
เหล่านี้กระมัง ที่ทำให้ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทย ความว่า “นักโทษหนีคดีนะจ๊ะมีใช่เทวดา การปฏิบัติของทางการไทยทุกคนต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกันกับนักโทษอื่น เดี๋ยวเจอร้องเรียนเลือกปฏิบัติโดยมิชอบนะ”
เชื่อว่า คนไทย สังคมไทย จะจับตาดูเรื่องนี้ต่อไป ว่านายทักษิณ จะได้รับสิทธิพิเศษอะไรอีกหรือไม่จะพ้นโทษเร็วปานใด เพราะโดย “สันดาน” ของนายทักษิณ เท่าที่คนไทย สังคมไทยเรียนรู้ เขาจะไม่ทำอะไรที่ตัวเอง “เสียเปรียบ” และ “ไม่คุ้มค่า”!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี