เมื่อวานนี้ 22 สิงหาคม 2566 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้หลบหนี
หมายจับคดีทุจริตประพฤติมิชอบ หลบหนีโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ เดินทางกลับมาสู่ประเทศไทยด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว ลงจอดสนามบินดอนเมือง ถูกคุมตัวเข้ารายการงานตัวต่อศาลฎีกาฯ และถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
1. จากอดีตนายกฯ ผู้หลบหนีหมายจับ สู่นักโทษ
ปัจจุบัน นายทักษิณ ชินวัตร มีสถานะเป็น “นักโทษชาย” หรือ “น.ช.” เต็มตัวแล้ว
ผ่านขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังใหม่ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสุขภาพ
ใส่เสื้อสีขาว กางเกงสีกรมท่าเข้ม รายงานระบุว่าไม่ถึงกับต้องกล้อนผม เพราะนายทักษิณ เป็นผู้สูงอายุ
2. โรคภัยไข้เจ็บ
ทางราชทัณฑ์ตรวจสอบ พบว่า น.ช.ทักษิณ อายุ 74 ปี มีโรคประจำตัว
ต้องติดตามโดยแพทย์เฉพาะทางตลอด
- กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จำเป็นต้องกินยาละลายลิ่มเลือดตลอดเวลา
- มีประวัติปอดอักเสบรุนแรงเมื่อครั้งติดโควิด 2 รอบ ทำให้เกิด
ภาวะพังผืดในปอด เหนื่อยง่าย
- มีความดันโลหิตสูง ต้องกินยาควบคุมตลอดเวลา
- มีภาวะร่างกายเริ่มเสื่อมตามอายุ จากการตรวจโดย MRI พบมีกระดูกสันหลังเสื่อม มีการกดทับเส้นประสาท ส่งผลให้มีการปวดเรื้อรังหรือมีการเดินการทรงตัวที่ผิดปกติ
เบื้องต้น แยกขังไว้ที่โซนพิเศษ แดนพยาบาล แดน 7 (สถานพยาบาลในเรือนจำ) แยกขังคนเดียว มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง
เข้าข่ายเป็นกลุ่มเปราะบาง จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวัง
เรียกว่า ร่างกายอุดมด้วยโรคภัยไข้เจ็บ
พร้อมที่จะขอส่งตัวไปอยู่โรงพยาบาล
หลังจากนี้ อาจจะขอไปอยู่โรงพยาบาลเอกชนด้วย โดยอาจจะอ้างเหตุว่า ต้องได้รับการดูแลเฉพาะทางด้วยผู้ชำนาญการพิเศษ
ด้อมส้มจะโจมตีก็ลำบาก เพราะรุ้ง แกนนำม็อบสามนิ้ว ก็เคยได้ออกไปนอนกินกุ้งที่โรงพยาบาลเอกชนหรูหรามาแล้ว
3. โทษจำคุกรวม 8 ปี
นายทักษิณ ชินวัตร ต้องโทษจำคุก คดีถึงที่สุดแล้ว 3 คดี ได้แก่
1.คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ จำคุก 3 ปี ตัดสินเป็นคดีแรกเมื่อ 23 เม.ย.2562 คดีหมายเลขดำที่ อม. 3/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 4/2551 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นโจทก์
2.คดีหวยบนดิน จำคุก 2 ปี ตัดสินเป็นคดีที่ 2 เมื่อ 6 มิ.ย.2562 คดีหมายเลขดำที่ อม. 1/2541 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 10/2552 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นโจทก์
และ 3.คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป จำคุก 5 ปี ตัดสินเป็นคดีที่ 3 เมื่อ 30 ก.ค. 2563 คดีหมายเลขดำที่ อม. 9/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม. 5/2551 อัยการสูงสุดเป็นโจทก์
ปรากฏว่า คดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ และคดีหวยบนดิน โจทก์ (ป.ป.ช.) ไม่ได้ขอให้ศาลสั่งให้นับโทษต่อกัน
คงมีคดีที่ 3 คือ คดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป ที่โจทก์ขอให้ศาลสั่งให้นับโทษต่อจากสองคดีแรก
ดังนั้น เมื่อสองคดีแรกระยะเวลารับโทษจำคุกทับซ้อนกัน
เท่ากับว่า นายทักษิณจะต้องรับโทษจำคุกรวมคดีที่สาม เป็นจำคุกรวม 8 ปี
4. หลังจากนี้ ต้องติดตามดูว่า น.ช.ทักษิณจะติดคุกจริงๆ อยู่ในเรือนจำ กี่ปี หรือกี่เดือน หรือกี่วัน
ไม่ต้องดูอื่นไกล อย่างนักเล่าข่าวชื่อดัง นายสรยุทธ์ ก็ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ แล้วก็ได้ออกจากเรือนจำมาใช้ชีวิตแบบใส่กำไลอีเอ็ม ลอยหน้าลอยตาในสังคมได้ ติดคุกจริงแค่ปีกว่า ทั้งๆ ที่ โทษจำคุกตามคำพิพากษา 6 ปี 24 เดือน
สังเกตว่า พลพรรคเพื่อไทย สื่อในเครือข่าว จะใช้คำว่า “ทักษิณกลับบ้านหลังรอคอยมา 17 ปี”
เป็นไปตามวาทกรรม คำโฆษณาชวนเชื่อ ที่อุ๊งอิ๊ง ยิ่งลักษณ์ เพื่อไทย ส่งต่อให้บรรดาอินฟลูฯ เพจข่าว ฯลฯ
พูดซ้ำๆ ต่อๆ กันไป
ทั้งๆ ที่ เป็นความเท็จสิ้นเชิง !!!
ระยะเวลา 17 ปี คือ นับจากปี 2549 ที่มีการยึดอำนาจ
แต่ความจริง ทักษิณเคยกลับไทยแล้ว เมื่อปี 2551 ยุคนายกฯนอมินีหุ่นเชิด นายสมัคร สุนทรเวช
แต่หลังจากนั้น เมื่อไปต่อสู้คดีที่ดินรัชดาฯ เกิดเหตุทนายถุงขนม 2 ล้าน ทักษิณก็หนีคดีออกไปเอง (โดยอ้างกับศาลฎีกาว่าจะไปดูโอลิมปิก)
เพราะฉะนั้น ความจริง ถ้านับจาก 2551 คือ 15 ปี
ประการสำคัญ ระหว่างนั้น ทักษิณก็ยังเคลื่อนไหว บงการการเมืองประเทศไทยโดยตลอด
ปี 2552 ม็อบล้มประชุมอาเซียน
ปี 2553 ม็อบเผาบ้านเผาเมืองเผาศาลากลาง กองกำลังชุดดำ
ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯบุญทรงติดคุกโกงจำนำข้าว นิรโทษกรรมสุดซอย พี่น้องแจวเรือพาผมข้ามฝั่งมาแล้ว จะแบกเรือตามมาทำไม ฯลฯ
การพยายามพูดย้ำๆ ซ้ำๆ ว่า “ทักษิณกลับบ้าน หลังรอคอยมา 17 ปี” ส่อเจตนาตัดตอน หวังสร้างเรื่องราวในประวัติศาสตร์ใหม่ ราวกับว่าทักษิณไม่เคยกลับมาเลยตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 2549
เหมือนถูกห้ามกลับประเทศ ราวกับว่าทักษิณไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความขัดแย้งวุ่นวายตลอดมา
ทั้งๆ ที่ ปัจจุบัน บ้านเมืองยังแบกภาระความเสียหายจากการกระทำและนโยบายของระบอบทักษิณมหาศาล (หนี้จำนำข้าว บาดแผลไฟใต้ผลจากคดีโกงต่างๆ)
5. ศัตรูทางการเมืองของทักษิณ
ในประเทศ นายทักษิณคงต้องเป็นศัตรูทางการเมืองของด้อมส้ม พรรคก้าวไกล ทั้งแย่งชิงฐานเสียงเดียวกัน แล้วยังเป็นศึกศักดิ์ศรี (เว้นแต่ใครจะไม่มีศักดิ์ศรี) ปาดหน้าเก้าอี้นายกฯ ไปเป็นของเพื่อไทยเสียด้วย
ต่างประเทศ จากท่าทีของทักษิณที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการพูดถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ในทิศทางตรงกันข้ามกับสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า รัสเซียไม่แพ้สงครามนี้ เพราะมีประชากรจำนวนมาก ขณะเดียวกันกลับจะเป็นผลร้ายต่อสหรัฐและชาติต่างๆ ในยุโรป ที่ทุ่มงบประมาณมหาศาลในการช่วยเหลือยูเครนรับมือการรุกรานดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น ทักษิณยังบอกว่า การที่ชาติตะวันตกเหล่านี้คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัสเซีย ทำให้รัสเซียหาทางออกใหม่ด้วยการพึ่งพากลุ่ม BRICS (บริกส์) ที่ประกอบด้วย บราซิล, อินเดีย, จีน, แอฟริกาใต้ มากขึ้น ผลต่อมาคือการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมทางการเงินโลกใหม่ ที่ทำให้ความสำคัญของระบบที่สหรัฐและยุโรปสร้างขึ้นมา เช่น ระบบโอนเงินสวิฟต์ ลดความสำคัญลง แต่ทำให้เงินหยวนดิจิทัลของรัฐบาลจีนแพร่หลายมากขึ้น
นายทักษิณยังยกตัวอย่างว่าสหรัฐเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามที่ใดก็มักหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ เช่น อิรัก, ลิเบีย เรื่อยไปจนถึง ซีเรีย ก่อนกล่าวถึงยูเครน
“ผมคิดว่ายูเครนเนี่ยซวย เพราะว่าอยู่ๆ ประธานาธิบดี ซึ่งเป็น- ที่มาจากตัวตลก ถูกสร้างให้เป็นพระเอกชั้นนำ ก็เลยเป็นพระเอกสนุกไปหน่อย แต่ว่าขณะเดียวกันบ้านเมืองพัง ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ยควรจะเจรจาตั้งแต่ต้น ตอนนี้
ก็ค่อนข้างจะสายไปในการเจรจา ก็ผมคิดว่ามันคงจบอะ แต่ว่าจบช้านิดนึง แต่วันเนี้ยโลกก็เริ่มไม่สนใจละ” นายทักษิณกล่าว
แบบนี้ นายทักษิณน่าจะกลายเป็นศัตรูทางการเมืองกับสหรัฐอเมริกาด้วย
ดังนั้น ถ้ามีเหตุร้ายอะไร โปรดรู้ด้วยว่า ใคร คือ ผู้ต้องสงสัย ?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี