“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า แนวหน้าออนไลน์ สื่ออุดมการณ์ มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยรู้เท่าทันเล่ห์ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ติ่งแดงด้อมส้มอุปกรณ์การเกษตร ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีนักโทษเทวดาอย่างเท่าเทียม”...
nn ปัญหาปากท้องของประชาชนคือปัญหาที่ต้องดูแลแก้ไขอย่างเร่งด่วนตามที่นักการเมืองไร้สามัญสำนึกสำรอกสำรากจริงหรือไม่ กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาโดยแท้ อย่างที่นักปรัชญากล่าวไว้เป็นอุททาหรณ์เรียนรู้คนบางคนที่ว่า “...บางคนฝากดูแลบ้านได้...แต่ฝากผีฝากไข้ไม่ได้...” ฉันใดก็ฉันนั้นคงต้องอธิบายให้มากความย่อมประจักษ์แก่ใจและสายตาสังคมไทยอยู่แล้ว...
nn ในเมื่อ “โฆษกรัฐบาล” ประกาศกร้าว “รัฐบาลนี้เป็น “รัฏฐาธิปัตย์” อะไรย่อมเกิดขึ้นตามความพึงพอใจของผู้มีอำนาจ ทว่า “ไม้หน้าสาม” ไม่เข้าใจคำว่า “รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์” นั่นหมายความว่ามีการล้มล้าง เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของราชอาณาจักรไทย ไม่ได้ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่ เรื่องนี้รัฐบาลต้องเร่งชี้แจงก่อนที่จะเจอทีเด็ด “นักร้องฟ้องไม่เลือก–ศรีสุวรรณ จรรยา” ร้องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการกระทำอันเป็นการล้มล้างการปกครองเสียก่อน...
nn ตลอด 8-9 ปีที่ผ่านมา เราทั้งหลายต้องยอมรับว่า “ลุงตู่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นักการทหารแม้จะไม่ใช่นักธุรกิจมือพระกาฬ ไม่ใช่ “อัศวินคลื่นลูกที่สาม” ไม่ใช่นักการเมือง ทว่ากลับเป็นนักบริหารชั้นยอดที่มาในสูตร “right man on the right job-ใช้คนที่ใช่ในงานที่ถูกต้อง” เลือก “หมอหนู–อนุทิน ชาญวีรกูล”นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาบริหารกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถจับมือสังคมไทยเดินก้าวข้ามผ่าน “วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19)” อย่างที่ได้รับเสียงแซ่ซ้องสรรเสริญจากนานาอารยประเทศทั่วโลก สร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้แก่นักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วโลก...
nn เลือก “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ–เนิร์ดเศรษฐศาสตร์ มาเป็น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย” ต่อจาก“วีรไท สันติประภพ”, เศรษฐพุฒิเป็นนักเศรษฐศาสตร์แถวหน้าของเมืองไทย นักศึกษาปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล ผ่านประสบการณ์ทำงานในหลากหลายแวดวง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ-ผู้อำนวยการร่วม สถาบันวิจัยนโยบายการคลัง กระทรวงการคลัง ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ 2540, นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี., ภายใต้แนวคิดที่ว่า “...ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การกลับไปหาหลักการตั้งต้นมีประโยชน์ก็จริง แต่สำหรับปัญหาที่ทั้งใหม่และซับซ้อนมากๆ หลักที่เรายึดควรต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ด้วยหรือไม่ อย่างไร...” ทำให้แบงก์ชาติภายใต้ร่มเงาการถือธงของ “เศรษฐพุฒิ” จึงเกิดการเปลี่ยนวัฒนธรรมเทคโนแครตของ ธปท.... เทรนด์ใหญ่ของธนาคารกลางทั่วโลก และ เป็นการตั้งหลักใหม่ของประเทศไทยแห่งอนาคต แล้วสุดท้ายการเงินการคลังของรัฐบาลลุงตู่จึงปรากฏผลอย่างที่เห็นเป็นรูปธรรมให้ “ติ่งแดงด้อมส้ม” ชักดิ้นชักงอราวโดนน้ำร้อนสาดรวกเสียอย่างนั้น...
nn ไม่กล่าวถึงคงไม่ได้กับบริบทนี้ “พิธาคิโอ–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายกรัฐมนตรีทิพย์?(สิงห์โซเชียล)”ทนไม่ได้จะเป็นจะตายยอมยกก้นออกจากเก้าอี้ “หัวหน้า พรรคก้าวไกล” เสียแล้ว พร้อมบทละครเดิมๆ ไม่ได้ติดยึดตำแหน่ง แต่คิดไม่ได้ตั้งแต่สมาชิกรัฐสภาพิจารณาไม่เห็นชอบให้เป็น “นายกรัฐมนตรี” แล้ว โธ่วววว...เวงกำ ยังดีที่เริ่มมีสามัญสำนึก...
nn “ไม้หน้าสาม” เห็นด้วยกับ “บทบรรณาธิการ นสพ.แนวหน้า” ไม่กี่วันก่อนที่เห็นว่า “งบท่านผู้ทรงเกียรติ ทั้งงบเผื่อหมา กับ งบสุนัขป่วย”มันไร้สาระไม่คุ้มค่าภาษีอากรเลย “เสี่ยนิด-เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีที่เป็นไอดอลเป็นขวัญใจเด็กเล็กทั่วประเทศ ล่าสุดลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไป “ขอนแก่น–อุดรธานี” ติดตามปัญหาน้ำท่วมเด็กน้อยเอาน้ำหวานมาให้ท่านนายกฯ เป็นน้ำแก้วพิเศษเพื่อ “นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน” โดยเฉพาะความน่ารักใสซื่อของเด็กน้อยวันนั้นไม่ติดตรึงใจท่านนายกฯบ้างหรือ ไม่คิดพิจารณาตัดลดเลิกงบประมาณสุนัขป่วยตาม “พระราชบัญญัติ กองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. 2556” ซึ่งกำหนดให้รัฐจัดสรรเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีเป็นทุนดำเนินการ รวมทั้ง "งบเผื่อหมา" เงินงบประมาณที่จัดสรรให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ที่นำมาจัดสรรค่าอาหารกลางวันสมาชิกสภาฯที่เพิ่งกลายเป็นข่าวฉาวหลังเกิดเสียงชามข้าวดังสนั่นเพราะเหตุวิวาทกันด้วยเรื่องอาหารกลางวันที่เหลือบานเบอะกินทิ้งกินขว้าง “ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ” ยกงบนี้ให้เหี้ยนแล้วเอามาเพิ่มค่าหัวอาหารกลางวันเด็กนักเรียนน่าจะเป็นประโยชน์แก่สังคมไทยประเทศชาติบ้านเมืองไม่ดีกว่าหรือไปเพิ่มสวัสดิการผู้สูงอายุ (เบี้ยยังชีพคนชรา)น่าปลื้มใจแซ่ซ้องสรรเสริญ “รัฐบาลนิด 1” ยิ่งนัก...
nn ท่านนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ทราบเต็มหัวจิตหัวใจใช่ไหมว่า เกิดอะไรกับอาหารที่จัดให้กับ “ท่านผู้ทรงเกียรติ” ได้ยัดทะนานกันจนหกเรี่ยราดโดยรอบกะละมังนั้น ในขณะที่รัฐบาลจัดงบให้กระทรวงศึกษาธิการจัดสรรค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียนทั่วประเทศหัวละ 21.00 บาท ท่านายกรัฐมนตรีไม่รู้สึกอย่างไรเช่นเดียวกับท่านผู้ทรงเกียรติอย่างนั้นหรือ หรือหน้าด้าน เจอหน้าด้านกว่ายังไม่พอ ต้อง “หน้าด้านที่สุด” ล่ะถึงจะนิ่งเฉย ที่สำคัญ “ไม้หน้าสาม” ไม่เห็น พรรคฝ่ายค้านในสภาชุดที่ 25 ได้อภิปรายเสนอตัดลดงบประมาณกองทุนบำเหน็จบำนาญผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา บอกตามตรงว่า เม็ดรวมของงบประมาณจำนวนนี้เป็นเท่าไหร่ “ไม้หน้าสาม” ไม่ทราบจริงๆ แต่ในความรู้สึก จะสลึง, ห้าสิบสตางค์ หรือ 1 บาท ก็ตามเถอะ “สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่” ไม่สมควรจะได้รับแม้ตรรกะของการออกพระราชบัญญัติฉบับนี้จะไม่ระบุว่า สมาชิกรัฐสภาผู้ทำคุณงามความดี สร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมก็ตามที แต่ด้วยสามัญสำนึกแล้วถ้าผู้รับผลประโยชน์ไม่หน้าด้านไร้ยางอายอย่างที่สุดคงไม่มีใครกล้ารับแน่นอน ที่ผ่านมาท่านผู้ทรงเกียรติได้ปฏิบัติหน้าที่(เอาแค่รับผิดชอบหน้าที่การมาเป็นองค์ประชุม) อย่างเดียวก็พิสูจน์คุณค่าของคนเหล่านี้ได้ว่าสมควรจะจ่ายให้หรือไม่รัฐบาลสมควรตัดลดงบประมาณส่วนนี้เอาไปเติมเงินสวัสดิการผู้สูงอายุที่เรียกว่า “เบี้ยคนชรา” ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ในแต่ละเดือนดีขึ้นจะเป็นประโยชน์กว่า “งบสุนัขป่วยและ งบเผื่อหมา” แน่นอน ตามดูกันว่าพรรคฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 จะ “เห่าหอนกระโชกตัดลดงบประมาณ” ส่วนนี้ลงหรือไม่ !?!?!...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี