วันนี้เป็นวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 10 อีกไม่กี่วันก็จะถึงเทศกาลพระออกพรรษาแล้ว และนั่นเป็นสัญญาณหมายว่าฤดูฝนจะสิ้นสุดลง ฤดูแล้งกำลังจะมาถึง ความขาดแคลนน้ำ ความแห้งแล้งและไฟป่ากำลังจะมาเยือน
ในห้วงเวลาดังกล่าวนั้นก็เป็นห้วงเวลาที่สำคัญอีกห้วงหนึ่งของการป้องกันน้ำท่วมและการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูฝนหน้า เพราะเมื่อเป็นเทศกาลหน้าแล้งก็เป็นโอกาสที่เหมาะสมในการขุดลอกแม่น้ำ สายน้ำแหล่งน้ำทั้งหลายที่ตื้นเขินให้กว้างและลึก สามารถกักเก็บน้ำในยามเทศกาลฝนหน้าเพื่อใช้ในฤดูแล้งหน้าได้
ประเทศไทยมีเวรกรรมที่ผู้มีอำนาจไม่เคยคิดอ่านทำการล่วงหน้าไว้ฝนตก น้ำท่วม ก็รับมือกับน้ำท่วมและคิดจะป้องกันน้ำท่วม แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะในยามเทศกาลน้ำท่วมนั้นไม่มีทางป้องกันน้ำท่วมในเทศกาลนั้นได้ การเตรียมการป้องกันน้ำท่วมจะต้องทำการในเทศกาลหน้าแล้ง ซึ่งมีเวลาอยู่จำกัด เพียงไม่เกิน 3 เดือน
เพราะเหตุที่ผู้มีหน้าที่ทั้งหลายคิดถึงแต่สถานการณ์ที่เผชิญหน้าอยู่แค่ปลายจมูก ดังนั้น เมื่อถึงเทศกาลหน้าฝน น้ำก็ท่วมไหลบ่าหลากล้นผู้คนทั้งหลายก็ได้รับความเดือดร้อนข้าวกล้า พืชพันธุ์ธัญญาหารก็เสียหายหมด ครั้นถึงยามเทศกาลหน้าแล้งก็คิดแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าซึ่งทำได้อย่างมากก็แค่ใช้รถขนน้ำไปบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าไม่สามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้
ชะตากรรมของประเทศชาติและผู้คนทั้งหลายก็วนเวียนหมุนเปลี่ยนกันอยู่กับน้ำท่วม ภัยแล้ง และไฟป่าดังนี้ โดยหามีใครคิดอ่านทำการให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่
เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ยังทรงพระชนม์อยู่ พระมหาราชเจ้าพระองค์นั้นทรงมีน้ำพระทัยเปี่ยมด้วยความเมตตาอาทรต่อราษฎรทุกหัวระแหง ทรงอุทิศพระสติปัญญาปฏิภาณ และทนลำบากพระวรกาย ตลอดทั้งพระชนม์ชีพ ทรงทำการมากหลายเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ไฟป่า และเพื่อให้ชาวประชามีน้ำไว้ใช้ไว้กินได้ตลอดทั้งปี
อันควรที่รัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งรับมอบฉันทามติมาจากปวงชนชาวไทยจะได้น้อมนำพระเมตตาคุณนี้ใส่เกล้า ทำการทั้งหลายให้พรั่งพร้อมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม สมดังพระบรมราชโองการแห่งพระมหาราชเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งได้สืบทอดต่อยอดมาจนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันนี้
รัฐบาลเศรษฐาได้จัดตั้งขึ้นในยามปลายฤดูฝน แม้ปฏิทินทางจันทรคติจะบ่งบอกว่าฤดูฝนจะสิ้นสุดลงหลังวันที่พระจันทร์โคจรผ่านพ้นดาวอุตราสาฬหแล้ว ซึ่งจะเป็นวันถัดจากวันมหาปวารณาออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 แต่ความจริงในสภาพปัจจุบัน ฤดูฝนจะสิ้นลงก่อนกำหนดเวลานั้น และฤดูแล้งก็จะมาถึงเร็วกว่าปฏิทินจันทรคตินั้น
จนอาจกล่าวได้ว่าวันเวลานี้ก็คือช่วงเวลาสุกดิบของการเข้าสู่เทศกาลหน้าแล้ง ในยามนี้รัฐบาลพึงมีกิจจำเป็นอันใดในเรื่องภัยแล้ง น้ำท่วม และไฟป่า ซึ่งจำเป็นจะต้องพรรณนาพอเป็นเครื่องเตือนใจให้แก่รัฐบาลนักธุรกิจได้พิจารณาเพื่อทำการทั้งหลายให้บังเกิดประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยามในประการดังต่อไปนี้
ประการแรก พึงทำความเข้าใจโดยแยบคายว่าแผ่นดินประเทศไทยของเรานี้มีเรื่องสามเรื่องที่ต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกัน คือเรื่องภัยแล้ง น้ำท่วม และไฟป่า ไม่สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาโดยแยกส่วนได้ เป็นลักษณะพิเศษที่บังเกิดมีขึ้นในประเทศนี้ ดังนั้น การจะแก้ไขปัญหานี้ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด จำเป็นจะต้องพิจารณาดำเนินการในฐานะที่เป็นองค์รวมด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้
อันภัยแล้งในบ้านเมืองของเรานี้ไม่ใช่เกิดจากไม่มีน้ำเพียงพอ ความจริงประเทศของเรานี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ มีธาตุน้ำตั้งอยู่ในเรือนปุตตะ มรณะ และวินาศของดวงเมือง ซึ่งหมายความว่าเมื่อใดก็ตามที่ผู้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ทำนุบำรุงเรื่องน้ำให้บังเกิดผลอุดมสมบูรณ์แล้ว บ้านเมืองก็จะถึงซึ่งความเจริญรุ่งเรือง ราษฎรก็จะร่มเย็นเป็นสุขโจรผู้ร้ายก็จะผ่อนคลายหายไป
แต่ถ้าเมื่อใดขาดการเหลียวแลใส่ใจในเรื่องน้ำ ความเดือดร้อนทุกข์เข็ญจะบังเกิดขึ้นแก่อาณาราษฎรทั้งปวงผู้คนจะป่วยไข้เบียดเบียนล้างผลาญแก่กัน จนกระทั่งอาจเกิดเป็นสงคราม ชะตาเมืองเป็นอย่างนี้ ผู้มีน้ำใจเมตตาอาทรราษฎรทั้งหลายจึงควรทำความเข้าใจ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะพิจารณาโดยเหตุผลก็ตาม
ประการที่สอง เหตุที่เกิดภัยแล้งก็เพราะประเทศนี้ไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำไว้อย่างพอเพียง ปล่อยให้น้ำจำนวนมากที่สุดไหลทิ้งลงทะเลเสียเปล่าๆ แม่น้ำสายหลักทั้ง 6 สาย คือ ปิง วัง ยม น่าน ชี มูล ล้วนตื้นเขินกักเก็บน้ำไม่ได้ แหล่งน้ำใหญ่น้อยก็ตื้นเขิน แม้กระทั่งทะเลสาบธรรมชาติใหญ่ที่สุดที่สงขลาก็ตื้นเขินระดับน้ำเพียงแค่หัวเข่า แม้แหล่งน้ำที่พระราชทานไว้ให้ เช่น เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ก็ตื้นเขินไปหมดแล้ว ทั้งสายน้ำต่างๆ ทั่วประเทศก็ตื้นเขิน แห้งขอด
ดังนั้นเมื่อเทศกาลหน้าแล้งมาถึงก็ไม่มีน้ำใช้ ทั้งคนและสัตว์ก็เป็นอันเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า พืชพันธุ์ธัญญาหารข้าวกล้าก็เสียหาย จะขุดบ่อหรือขนน้ำไปรดก็ไม่เพียงพอ และเป็นทางให้คนมีอำนาจฉ้อฉลปล้นราษฎรไม่มีที่สิ้นสุด
เพราะเหตุที่ไม่มีการขุดลอกแม่น้ำ แหล่งน้ำ และสายน้ำทั้งหลาย ปล่อยให้ตื้นเขิน ครั้นเทศกาลหน้าฝนมาถึงฝนตกไม่กี่ห่าน้ำก็ท่วมไหลล้นท่วมบ้านเรือนราษฎร ไร่นาสาโท จนฉิบหายวายวอดทั้งประเทศ และคนบางพวกยังใช้เป็นเหตุอ้างสถานการณ์วิกฤตภัยเพื่อใช้จ่ายงบประมาณกันอย่างบันเทิงเริงรมย์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้เป็นปีๆ อย่างดักดาน ท่ามกลางความเดือดร้อนฉิบหายของราษฎร
เพราะเหตุที่พื้นที่ทางเหนือและอีสานบางพื้นที่เข้าเทศกาลแล้งก่อนภาคใต้ ดังนั้น เมื่อยามแล้งก็แล้งจัด ต้นไม้แห้งตายซาก ใบเหี่ยวแห้งหล่นทับกองอยู่บนพื้น ได้ประกายความร้อนสักหน่อยหนึ่งก็เกิดเป็นไฟไหม้ป่า ทำลายป่าเขาจนมลายวายวอดซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนี้
ทั้งหมดนี้คือเรื่องเดียวกัน ดังนั้น ณ บัดนี้จึงเป็นเวลาอันเหมาะสมที่สุดที่รัฐบาลเศรษฐาจะระดมกำลังของรัฐทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนทำการขุดลอกแม่น้ำ แหล่งน้ำ สายน้ำทั้งหลาย ให้สามารถกักเก็บน้ำที่เพียงพอต่อการใช้สอยในเทศกาลหน้าแล้งในปีหน้า ซึ่งมีเวลาทำการอยู่เพียง 3 เดือน
รัฐบาลเศรษฐาทำเรื่องนี้ได้สำเร็จก็คือความสำเร็จของรัฐบาลและชีวิตการเมืองของนายเศรษฐา ทวีสิน และรัฐบาลผสมชุดจำยอมและยอมทน ซึ่งอาจเป็น
ผลดีเลิศแก่บ้านเมืองในอนาคตสืบไป
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี