เหตุการณ์การกราดยิงโดยเยาวชนอายุ 14 ปี ในห้างใหญ่ กลางกรุงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเป็นเรื่องที่ถูกกล่าวขวัญถึงอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บอีก 5 ราย โดยผู้กระทำการยอมให้ตำรวจเข้ารวบจับตัว ซึ่งเชื่อว่าเพราะกระสุนที่เตรียมมานั้นหมดแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจจะมีการสูญเสียมากกว่านี้ ทั้งนี้ถึงแม้กระบวนการสอบสวนและการขยายผลไปยังผู้ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องได้เริ่มดำเนินการแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทราบถึงสาเหตุและแรงจูงใจที่ทำให้เยาวชนคนดังกล่าวใช้ปืน blank gun ดัดแปลงกระทำการแต่อย่างใด
ประเทศไทยมีกฎหมายและระเบียบหลายฉบับที่เกี่ยวกับการมีและใช้อาวุธปืน ซึ่งในทางปฏิบัติไม่อาจจะแน่ใจได้ว่า มีการละเลยหรือนำกฎหมายดังกล่าวมาบังคับใช้อย่างเหมาะสมหรือไม่ ทำให้เชื่อได้ว่าประเทศไทยมีอาวุธปืนทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายอยู่เป็นจำนวนหลายล้านกระบอก ถึงแม้ว่าในอดีตที่ผ่านมาจะเคยมีการดำเนินการใหญ่ ในการให้ผู้ที่ครอบครองปืนโดยไม่ถูกกฎหมายทั้งปืนที่ผลิตออกมาจากโรงงานมาตรฐาน และที่ชาวบ้านผลิตกันเอง ที่เรียกกันว่าปืนเถื่อน ให้นำปืนดังกล่าวส่งคืนให้กับหน่วยงานของรัฐตามที่กำหนด และหากใครยังละเลยอยู่ หากถูกตรวจจับได้จะถือว่ามีความผิดที่จะต้องถูกลงโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ซึ่งก็ทำให้มีผู้นำส่งคืนปืนที่ได้มาโดยไม่ถูกกฎหมายเป็นจำนวนมาก
ถึงอย่างไรปืนที่ไม่ถูกกฎหมาย ก็ยังคงมีอยู่ในสังคมไทยอย่างมากมาย และนอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่าสิ่งเทียมอาวุธปืน เช่น ปืน BB Gun ปืนเพ้นท์บอล และปืน blank gun ซึ่งดูเหมือนจะไม่มีอันตราย ถูกนำมาใช้ในลักษณะเล่นเกมการแข่งขัน ซึ่งปืนประเภทนี้จะสามารถหาซื้อได้ทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 กำหนดไว้แต่อย่างใดและก็พบว่าปืนดังกล่าวนั้นอาจถูกนำมาดัดแปลง และสามารถจะใช้ยิงเพื่อทำให้เกิดการทำลายล้างหรือสูญเสียชีวิตได้
สำหรับ BB Gun ที่เป็นที่รู้จักกันพอสมควรนั้น มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า airsoft gun หรือปืนอัดลมเบา โดยถูกออกแบบให้ใช้แรงลมอัดเพื่อดันกระสุนซึ่งเป็นเมล็ดกลมเกลี้ยง ทำจากพลาสติกหรือเซรามิกสังเคราะห์มีน้ำหนักเบา ขนาดไม่เกิน 8 มม. และมีแรงปะทะต่ำมากเพียง 250 ฟุตต่อวินาที ซึ่งตามกฎหมายประเทศไทย กำหนดไว้ว่าต้องไม่เกิน 400 ฟุตต่อวินาที อันจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
ส่วนปืนที่เยาวชนคนนี้นำมาก่อเหตุนั้น เป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนอีกแบบหนึ่ง แต่รูปแบบการทำงานจะเสมือนปืนจริง โดยเมื่อลั่นไกจะมีเข็มแทงชนวนที่ไปกระแทกตรงก้นของกระสุนที่ไม่ใช่กระสุนจริงและไม่มีหัวกระสุน ทำให้เกิดเสียงและอาจจะมีเปลวไฟกระจายออกมา นิยมใช้ในการแสดงภาพยนตร์ ปืน blank gun เป็นปืนที่สามารถจะดัดแปลงส่วนของลำกล้องและการทำงานให้ใช้กระสุนปืนจริงได้ ซึ่งตรงนี้ไม่มีกฎหมายควบคุม เป็นการแอบกระทำและมีการจำหน่ายในช่องทางที่เข้าถึงได้ไม่ยาก ซึ่งทำให้มีคนจำนวนหนึ่งซื้อปืนนี้ไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่อาจจะก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายดังที่ปรากฏขึ้นในครั้งนี้
หากย้อนประวัติศาสตร์ไทยเพื่อไปศึกษาเรื่องราวของการนำปืนมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะเป็นปืนที่มีลำกล้องยาวที่เรียกว่าปืนยาวหรือปืนไฟนั้น ได้เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 13 แห่งอาณาจักรอยุธยา ซึ่งในช่วงนั้นได้มีฝรั่งซึ่งเป็นทหารชาวโปรตุเกสเข้ามาอยู่ในประเทศไทยบ้าง และได้เริ่มต้นทำให้ทหารไทยรู้จักการใช้ปืน
ประเภทของปืนที่ใช้ในช่วงนั้น จะเป็นปืนยาวที่เรียกว่าปืนคาบชุด ซึ่งต่อมาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ มีการพัฒนาเป็นปืนคาบศิลา โดยปืนทั้ง 2 ชนิดนั้นก่อนยิงจะต้องมีการบรรจุดินปืนเข้าทางปากกระบอกและกระแทกให้แน่น ส่วนกระสุน จะเป็นโลหะลูกกลม การทำงานนั้นปืนคาบชุดจะมีชุดสายชนวนติดอยู่ที่ปลายนกสับเมื่อลั่นไกปืนจะไปกระแทกกับแป้นดินปืนที่ส่วนก้นของกระบอกปืนที่บรรจุดินปืนอยู่แล้ว เกิดประกายไฟและทำให้เกิดการระเบิดของดินปืน ดันกระสุนพุ่งออกจากลำกล้อง ส่วนปืนคาบศิลานั้นเมื่อลั่นไกปืนจะทำให้ตะขอที่เรียกว่านกสับกระแทกกับแผ่นเหล็กที่ก้นของกระบอกปืนที่มีแป้นดินปืนติดอยู่ เกิดเป็นประกายไฟ ทำให้ดินปืนที่อยู่ในลำกล้องระเบิดขึ้น และดันกระสุนออกทางปากกระบอก
เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาติที่ถูกบันทึกไว้ คือเรื่องราวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงพระแสงปืนต้นยิงข้ามแม่น้ำสะโตง เมื่อปี พ.ศ. 2127 โดยในครั้งนั้นเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ประกาศอิสรภาพ ไม่ขอขึ้นกับประเทศพม่าอีกต่อไป ลำดับเหตุการณ์ก็คือพระเจ้านันทบุเรงกษัตริย์พม่าแห่งราชวงศ์ตองอู ต้องการยกทัพไปปราบพระเจ้าอังวะซึ่งตั้งตัวเป็นกบฏ จึงได้ขอให้กรุงศรีอยุธยาส่งกองทัพไปช่วย ซึ่งพระมหาธรรมราชา กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ก็ได้ส่งสมเด็จพระนเรศวรฯ นำทัพไปเพื่อจะช่วยรบ แต่ก่อนที่กองทัพจะถึงเมืองอังวะ พระเจ้านันทบุเรงซึ่งทรงทราบโดยตลอดว่า สมเด็จพระนเรศวรฯทรงเป็นนักรบผู้สามารถ และอาจจะคิดการใหญ่ที่จะไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไป จึงวางแผนกำจัดสมเด็จพระนเรศวรฯ แต่ด้วยบุญญาบารมีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทำให้พญาเกียรติและพระยาราม ขุนนางมอญผู้เคยใกล้ชิดกับสมเด็จพระนเรศวรฯในช่วงที่ถูกนำตัวไปเลี้ยงดูโดยพระเจ้าบุเรงนอง ได้นำข่าวดังกล่าวไปบอกกับพระผู้ใหญ่คือพระมหาเถรคันฉ่อง ผู้เคยร่วมดูแลสมเด็จพระนเรศวรฯมาก่อน ทำให้พระมหาเถรคันฉ่องที่มีความผูกพันกับสมเด็จพระนเรศวรฯ นำความนี้ไปบอกแก่สมเด็จพระนเรศวรฯ สร้างความพิโรธให้พระองค์เป็นอย่างยิ่ง
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงยกทัพกลับ รวมทั้งรวบรวมไพร่พลทั้งชาวมอญและชาวไทยเพื่อจะกลับกรุงศรีอยุธยาด้วย เมื่อถึงเมืองแครงก่อนจะข้ามแม่น้ำสะโตงจึงได้กระทำพิธีหลั่งทักษิโณทก ประกาศอิสรภาพว่ากรุงศรีอยุธยาจะไม่ขึ้นกับพม่าอีกต่อไปตั้งแต่วันนั้น ซึ่งเมื่อพระเจ้านันทบุเรงทราบข่าวดังกล่าว จึงให้พระมหาอุปราชามังสามเกียด ยกทัพจำนวน 100,000 นายติดตามขบวนของสมเด็จพระนเรศวรฯ โดยมีสุรกรรมาเป็นแม่ทัพหน้า และกำลังจะมาทันกองทัพไทย
สมเด็จพระนเรศวรฯ ได้เร่งรีบยกทัพกลับ โดยการระดมผูกแพเพื่อนำกำลังทั้งหมดข้ามแม่น้ำสะโตง เมื่อข้ามมาได้ก็ทำลายแพทิ้ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่สุรกรรมายกทัพมาถึงริมฝั่งแม่น้ำสะโตง เกิดการก่อสู้กันด้วยปืนใหญ่ ทำให้สมเด็จพระนเรศวรฯ มีรับสั่งให้นำปืนยาวคาบชุด มีความยาว 9 ศอกมา เพื่อจะยิงสุรกรรมาที่อยู่บนหลังช้างริมฝั่งอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำสะโตง ที่มีความกว้างประมาณ 600 เมตรเศษ
ด้วยบุญญาภินิหาร ทำให้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชยิงปืนดังกล่าวถูกสุรกรรมาจนเสียชีวิตอยู่บนคอช้าง ทำให้พม่ายกทัพกลับ และชาติไทยก็กลับมาสู่การมีอิสรภาพโดยสมบูรณ์อีกครั้งหนึ่ง จึงถือได้ว่าการใช้พระแสงปืนต้นที่ต่อมาได้รับการสถาปนาชื่อว่าพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้น นับเป็นประโยชน์อันเป็นคุณต่อประเทศชาติอย่างมหาศาล
สิ่งของเครื่องใช้เกือบทุกอย่าง มีทั้งก่อให้เกิดประโยชน์หรือเกิดโทษได้ทั้งสิ้น เพียงแต่จะเลือกใช้อย่างไรและโดยใคร การที่ประเทศไทยมีกฎหมายให้ ประชาชนมีปืนได้นั้น หากมีความเข้มงวด มีการใช้และบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การขอใบอนุญาต การซื้อ การเก็บรักษา การพกพา และอบรมวิธีการใช้อย่างถูกต้อง มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ครอบครองใช้ในการป้องกันตัว โดยการกำหนดอายุผู้ที่จะมีอาวุธปืนได้ไว้อย่างชัดเจน เช่น ต้อง 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีตำแหน่งหน้าที่ หรือมีความรับผิดชอบ ผ่านการคัดกรองประวัติ ที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม ไม่มีสภาวะจิตที่ผิดปกติ และมีสติสัมปชัญญะที่ดี จึงเป็นเรื่องที่ควรจะถูกนำมาพิจารณาให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้อาวุธนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างชีวิต อย่างปราศจากเหตุผลแ
ปิยะ เนตรวิเชียร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี