“ละครคุณธรรม” สื่อรูปแบบหนึ่งที่เริ่มถูกพูดถึงเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงต้นปีที่มีไวรัลประโยค “ฉันเป็นประธานบริษัท” จากละครคุณธรรมที่แม้กระแสดังกล่าวจะหมดลงแล้ว แต่สื่ออย่าง “ละครคุณธรรม” ก็ยังเป็นสื่อรูปแบบหนึ่งที่มีคนดูและติดตามอยู่เรื่อยๆ เช่นใน Facebook เพจ “ดอยแม่สลองสื่อสังคมออนไลน์” ที่มีผู้ติดตาม 9.2 ล้าน หรือใน Youtube “ห้าโมงเย็น แชนแนล” ที่มีผู้ติดตาม 6.9 แสน
จุดเด่นที่ทำให้คนติดกันงอมแงมคงหนีไม่พ้นโครงเรื่องที่ “ใครทำดีได้ดี ใครทำชั่วก็ได้ชั่ว” หรือเป็นตาม “กฎแห่งกรรม” ซึ่งสอดคล้องกับคตินิยมของคนไทย ตัวอย่างเช่น พนักงานบริษัทเดินชนคนทำความสะอาด เลยได้ด่ากราดและดูถูกว่า “แกเป็นแค่คนทำความสะอาดก็หัดเจียมตัวบ้าง” แต่จริงๆ แล้วกลับพบว่าคนคนนั้นคือเจ้าของบริษัทที่ปลอมตัวมาดูพฤติกรรมพนักงาน หรืออาจจะเป็นเหตุการณ์ที่มีคนแก่ล้มลงกลางถนนต่อหน้าคนสองคน คนหนึ่งเลือกจะเดินผ่านพร้อมดูถูกว่า “แก่ก็แก่ยังไม่รู้จักระวังอีก” แต่อีกคนเลือกที่จะช่วยเหลือ ซึ่งมาก็พบว่าคนแก่คนนั้นเป็นเศรษฐี คนที่ช่วยเหลือจึงได้รับการตอบแทนเป็นเงินก้อนใหญ่ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ก็แทบจะไปในทางเดียวกัน ทำให้คนดูรู้สึกดีใจหากคนที่ทำดีได้ผลลัพธ์ที่ดี ในขณะที่รู้สึกสะใจหากคนไม่ดีได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีตามสิ่งที่ตัวเองทำ
แต่เมื่อกลับมามองชีวิตจริง มีโอกาสไม่ถึง 1% ที่สถานการณ์นั้นจะเกิดขึ้นจริงๆ เจ้าของบริษัทคงไม่มาทำความสะอาด หรือหาได้ยากที่เศรษฐีจะมาเดินถนนคนเดียวในขณะที่ “กฎแห่งกรรม” ในโลกความจริงอาจดูเหมือนไม่มีจริงหรือทำงานล่าช้า เพราะหลายคนที่เราสงสัยว่าใช้อำนาจในทางที่ผิด ทุจริต คดโกง แต่กลับไม่ถูกตรวจ หรือคนที่ผิดกลับไม่ได้รับบทลงโทษ หนึ่งประโยคประชดประชันสังคมที่เรามักได้ยินคือ “ประเทศนี้คนรวยกับคนมีอำนาจไม่ต้องติดคุก” โดยยกตัวอย่าง “คดีบอส อยู่วิทยา” กรณีขับรถชนนายตำรวจ
เสียชีวิตแต่ไม่ติดคุก หรือ คดีทุจริตที่กว่าจะพบว่ามีการโกงก็เสียหายไปหลายล้านบาท กว่าจะตัดสินคดี คนผิดก็หนีออกนอกประเทศไปแล้ว ในขณะที่วิศวกรวัย 27 ปี ที่ปฏิเสธการทุจริตกลับต้องสังเวยชีวิต เมื่อปีที่แล้วที่จังหวัดหนองบัวลำภู และนี่อาจจะเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คนหลีกหนีจากโลกความเป็นไปอินกับละครคุณธรรม เพราะรู้สึกว่าสังคมมันไม่น่าอยู่และ
กฎแห่งกรรมในชีวิตเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตามแม้ในชีวิตจริงจะไม่ได้เป็นไปอย่างละครคุณธรรม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความหวังของสังคมจะหมดไป เราสามารถสร้างละครคุณธรรมที่ “คนทำดีได้ดี คนทำชั่วได้ชั่ว” ให้เกิดขึ้นได้เหมือนกันถ้าประชาชนอย่างเรามีส่วนร่วมกับสังคมมากขึ้น เพราะปัจจุบันทุกภาคส่วนของสังคมร่วมกันสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามาร่วม “ทำให้คนผิดได้รับโทษ” ด้วยเทคโนโลยีเอื้ออำนวยต่อการให้ข้อมูลคนทำผิด คนทุจริต คนโกง โดยขอยกตัวอย่างทั้งหมด 3 แพลตฟอร์ม
1.“Corruption Watch ฟ้องโกงด้วยแชทบอต” ถ้าเราได้ยินเรื่องการทุจริต สงสัยโครงการรัฐใกล้บ้าน ถูกเรียกเงินสินบน หรือส่วย ไม่ว่าเรื่องทุจริตอะไรสามารถส่งเรื่องมาที่แชทไลน์ของ Corruption Watch โดยไม่ต้องระบุตัวตน และหลังจากที่ได้รับเรื่องก็มีการตรวจสอบหากมีคนผิดจะถูกดำเนินไปตามกระบวนการ ซึ่งปัจจุบัน “Corruption Watch ฟ้องโกงด้วยแชทบอต” ได้รับแจ้งเรื่องมาแล้วมากถึง 84 เรื่อง และถ้าคนสนใจสามารถแจ้งเรื่องเพิ่มเติมได้โดยสแกนคิวอาร์โค้ดไลน์ในหน้าเว็บไซต์ https://cs.actai.co/about/
2. “ต้องแฉ” เพจ Facebook รับร้องเรียนปัญหาทุจริต ที่เคยมีผลงานอย่างกรณีเสาไฟกินรีที่กลายเป็นไวรัลบนโลกอินเตอร์เนต นอกจากนี้ยังมีกรณีเหตุสงสัยโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ขององค์การบริหารส่วนตำบลราชาเทวะราคาสูงเกินจริง และหลายๆ กรณีซึ่งมาจากประชาชนเองช่วยกันตรวจหาข้อมูลและส่งเรื่องมาทางเพจต้องแฉซึ่งไปสู่การตรวจสอบการทุจริต
3. Traffy Fondue หนึ่งในแพลตฟอร์มรับเรื่องร้องเรียนปัญหาใน กทม. ที่ไม่ได้มีไว้แจ้งเฉพาะปัญหาถนน ทางเท้า น้ำท่วม ความสะอาดเท่านั้น แต่ยังสามารถแจ้งปัญหาการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐได้อีกด้วย โดยถ้าเราแจ้งเรื่องข้อมูลจะถูกส่งให้กับ ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. ก่อนจะส่งเรื่องยังเขตพื้นที่ที่เกี่ยวข้องและลงตรวจสอบ ซึ่งหากใครพบเจอปัญหาสามารถร้องเรียนไปได้ไลน์ @traffyfondue
เครื่องมือทั้งหมดที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ปัจจุบันสังคมเรายังมีเครื่องมืออีกหลากหลาย เช่น ACT Ai, Build Better Lives by CoST ที่ช่วยให้เราสามารถตรวจสอบข้อมูลโครงการ การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อนำไปสู่เบาะแสการทุจริต และแน่นอนว่าหากคนเหล่านี้ทำผิดจริงก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนจะจบด้วยการถูกลงโทษจำคุกและชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งก็ไม่ต่างละครคุณธรรมที่สุดท้ายแล้วคนทำชั่วก็จะไม่ได้รับสิ่งที่ดีตอบแทน ประชาชนในฐานะที่มีส่วนร่วมก็เป็นเหมือนผู้ที่ทำให้คุณธรรมนั้นเกิดขึ้นจริงไม่ใช่เพียงในละคร
สุรวัฒน์ เดวา HAND Social Enterprise
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี