เสียงสำรอกสำรากโหยหวนของประดาแกนนำพรรคเพื่อไทยต่อกรณี “นโยบายแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท แก่ประชากรไม่แบ่งชั้นวรรณะ 5.6 ล้านคน” อย่างดื้อด้านสุดโต่ง กับข้ออ้างที่ว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่
ทั้ง “เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี,อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาลเป็นเพียงหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ว่าที่หัวหน้าพรรคคนใหม่ และดีเอ็นเอ “สัมภเวสีโทนี่ วู้ดซัม ที่กลายเป็นนักโทษที่ถูกปฏิบัติให้เป็นเทวดา” เท่านั้น อ้างอย่างไม่กระดากปากกระดากใจแต่น้อยนิดว่า มีเสียงของประชาชนกว่า 10 ล้านเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นพรรคอันดับสองด้วยจำนวน141 ที่นั่ง ให้ดำเนินนโยบายนี้
ตรรกะที่ยกมาอ้างแตกต่างอะไรกับเสียงสำรอกสำรากของ “พิธาคิโอ - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ยกเสียงประชาชน 14 ล้านเสียงสนับสนุนให้พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจึงเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสองระบบมาเป็นอันดับหนึ่ง 150 ที่นั่ง
สังคมไทยจำกันได้ไหมว่า ก่อนหน้านี้“พิธาคิโอ” และพลพรรคก้าวไกลเดินหน้าสนองตัณหาดับความกระสันตัวเองกับนโยบาย “แก้ไข/ยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112” นโยบายที่พรรคการเมืองที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนั้นแม้จะไม่ชื่นชมหรือคัดค้านแต่เมื่อกระแสทำให้สมาชิกวุฒิสภาไม่สนับสนุน เป็นเหตุให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กลายเป็น “นายกฯทิพย์, นายกฯรถแห่, นายกโซเชียลที่ไม่ได้นั่งโต๊ะทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า”
ในการประชุมรัฐสภาเพื่อดำเนินการตามมาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เพื่อพิจารณาบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคก้าวไกลและพันธมิตรอีก 7 พรรคที่รวมถึง “พรรคเพื่อไทย” ถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีการประกาศเดินหน้านโยบายที่ได้หาเสียงเลือกตั้งไว้คือ “แก้ไข/ยกเลิก ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112” ที่เป็นบทบัญญัติปกป้ององค์พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์
หัวหน้าพรรคการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา, ประชาชนผู้จงรักภักดีจำนวนมากแสดงความไม่เห็นด้วย เพราะมองว่าจะสั่นคลอนความมั่นคงของชาติ ขอให้“พิธาคิโอ และ พรรคก้าวไกล” ถอนนโยบายนี้ออกเพื่อความสบายใจจะได้พิจารณาให้เป็นนายกรัฐมนตรี
ทว่า “พิธาคิโอ”กลับไม่ใส่ใจยังยืนยันที่จะดำเนินการแถมเพิ่มเติมด้วยว่า จะได้จัดพระราชอำนาจและพระราชสถานะขององค์พระมหากษัตริย์ได้อย่างเหมาะสมภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ครั้งนี้นักวิชาการ, อาจารย์เศรษฐศาสตร์, ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยทั้งอดีตและปัจจุบัน กูรูทางการเงินแสดงเหตุและผลหลายประการกับข้อเสียของการดำเนินการตามนโยบาย หลายคนพยายามยกนโยบายจำนำข้าวทุกเม็ดที่ผิดพลาดจนหายนะทางเศรษฐกิจบังเกิด
แต่รัฐมนตรีและคนในรัฐบาลกลับปลุกระดมให้สังคมเกิดความแตกแยกสร้างตรรกะวิบัติให้ผู้คนที่แสดงความเห็นอย่างมีตรรกะ กลายเป็นคนร้ายที่อิจฉาริษยาเสียอย่างนั้น
สันดานเยี่ยงนี้จะต่างอะไรกับพฤติกรรมที่ “พิธาคิโอ”ดำเนินการก่อนหน้าเล่า
หาเรื่องเล่าสิบสองบรรทัด “จิ้งจกร้องทัก”มาอ่านน่าจะดี
ดื้อด้าน ... อิเหนาเป็นเองก็อย่างนี้แหละ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี