สถานการณ์ในยูเครนนั้นเป็นสถานการณ์ที่ประเทศซึ่งสงบสุขสันติเจริญรุ่งเรือง มีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมอารยธรรมมาแต่โบราณ มีสิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่สวยงามระดับโลกมานานแล้ว แต่เพราะความเลวร้ายของพวกกระหายสงครามจึงทำให้ยูเครนเปลี่ยนไปเป็นสนามรบ
บ้านเมืองทั้งหมดถูกทำลายพินาศย่อยยับวายวอด ผู้คนต้องอพยพหลบภัยออกจากบ้านเกิดเมืองนอนนับสิบล้านคน ประเทศชาติล่มสลาย ส่งผลกระทบไปทั่วทั้งยุโรปและทั่วโลกด้วย นั่นเป็นเพราะขบวนการกระหายเลือด ขายชาติ ที่ปรากฏเป็นจริงให้เห็นเด่นชัดแล้ว
ในขณะเดียวกัน ภูมิภาคอาเซียนของเราก็เป็นภูมิภาคที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ ประกอบด้วย 10 ประเทศ มีประชากรถึง 650 ล้านคน เป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา และเป็นผลประโยชน์ร่วมกันของประชาชาติทั่วโลก ไม่ว่าในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน หรือการท่องเที่ยวและความมั่นคง
ต่อมาสหรัฐในสมัยประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ซึ่งมีหลักการสำคัญคือถือจีนเป็นภัยคุกคามของโลก จะต้องป้องกัน กำจัด ขัดขวาง และทำลายล้างไม่ให้เป็นภัยคุกคามต่อชาวโลกได้ และไม่ว่าจะใช้ภาษาทางการทูตที่สละสลวยนุ่มนวลประการใด แต่วัตถุประสงค์ก็แจ่มแจ้งว่าเพื่อกำจัดภัยคุกคามนี้ แม้จะต้องทำสงครามกำราบปราบปรามจีนให้พินาศวายวอดไปก็จะเป็นเรื่องภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกนี้
เพื่อจัดการกับจีนตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ได้มีการแบ่งพื้นที่ตั้งแต่มหาสมุทรอินเดียไปถึงมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นสามพื้นที่ คือพื้นที่มหาสมุทรอินเดียและอาณาบริเวณ โดยตั้งกลุ่มแกนกำลังรับผิดชอบจัดการกับจีน เรียกว่ากลุ่มควอด
สำหรับพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกและอาณาบริเวณก็ได้ตั้งกลุ่มแกนกำลังรับผิดชอบจัดการกับจีน เรียกว่ากลุ่มออกุซ
สำหรับพื้นที่แผ่นดินที่เรียกว่าประเทศอาเซียนนั้นก็ได้ตั้งแกนอาเซียนขึ้นเป็นกลุ่มแกนกำลังรับผิดชอบจัดการกับจีน ประกอบด้วยสหรัฐ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ และไทย ซึ่งสิงคโปร์ได้ถอนตัว แต่ไทยไม่ถอนตัว ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่แยแสต่อความรู้สึกใดๆ ของบรรดาประเทศอาเซียนอื่น
ในบรรดาประเทศอาเซียนนั้นแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่ม คืออาเซียนตอนบน ได้แก่ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม และอาเซียนตอนล่าง ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย
โดยสภาพภูมิยุทธศาสตร์ ประเทศไทยจึงเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ของแกนอาเซียน และเป็นศูนย์กลางทางยุทธศาสตร์ของยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกด้วย
เพราะว่าอาเซียนตอนบนนั้นมีพื้นที่ติดกับประเทศจีน ตั้งแต่มณฑลกว่างสี ยูนนาน ฉงชิ่ง เสฉวน และขึ้นบนไปถึงซินเกียงและทิเบต ซึ่งจีนถือว่าเป็น
ภูมิยุทธศาสตร์อันเป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงที่สำคัญมากของจีน
ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกนั้น พื้นที่อันเป็นภูมิยุทธศาสตร์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อจีนมากที่สุดไม่ว่าด้านใดก็คือประเทศไทย เพราะเหตุนี้ประเทศไทยจึงตกเป็นเป้าหมายของผู้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ที่ต้องเข้าครอบงำ ควบคุม แทรกแซงประเทศไทยทุกอย่างเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก
ในขณะเดียวกัน ประเทศจีนก็ต้องระแวดระวังและพยายามสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับประเทศไทย
โดยสภาพเช่นนี้ถ้าหากประเทศไทยสามารถดำรงยุทธศาสตร์ชาติ โดยเฉพาะวิเทโศบายที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงวางไว้ได้อย่างมั่นคงแล้วคือไทยจะไม่เป็นศัตรูกับชาติใด และไทยจะเป็นมิตรกับทุกประเทศบนพื้นฐานเอกราชอธิปไตยและผลประโยชน์ร่วมกัน ประเทศไทยก็จะรอดปลอดภัยและได้รับผลประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่
แม้กระทั่งจะเป็นแกนหลักแห่งการสร้างสันติภาพของโลก อย่างน้อยก็ต้องมีบทบาทสำคัญในการทำให้สถานการณ์ที่ขับเคลื่อนกระทบกระแทกกันระหว่างยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก กับยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม เป็นไปในทางสันติและสร้างสรรค์เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกัน
แต่ทว่าสิ่งที่ควรเป็นจะเป็นไปตามที่ควรเป็นหรือไม่เป็นเรื่องที่ประชาชนชาวไทยจะต้องติดตามสถานการณ์ด้วยความรู้เท่าทันและป้องกันแก้ไขเสียให้ทันท่วงที
โดยต้องทำความเข้าใจเบื้องต้นว่าการลงนามเข้าร่วมยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ในรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้นมิได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติชัดเจนว่าการกระทำข้อตกลงระหว่างประเทศใดๆ ก็ตามที่มีผลต่อเอกราชอธิปไตยหรือผลประโยชน์แห่งชาติ หรือต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายของประเทศ ข้อตกลงนั้นจะต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน
ดังนั้นถ้าข้อตกลงนี้มีลักษณะตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ และมิได้ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ก็จะมีปัญหาว่าเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งผู้รู้ทั้งหลายจะต้องช่วยกันพิจารณา
แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่ได้ทำไปหลังจากเข้าร่วมเป็นภาคียุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกแล้ว และสิ่งที่ได้ทำเหล่านั้นจะเป็นต้นเหตุให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “อาเซียนบางประเทศจะต้องไม่ทำให้อาเซียนเป็นยูเครน 2”
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี