ปัญหาหมูเถื่อนในไทย ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในระยะนี้แต่คนที่เป็นเจ้าของฟาร์มหมูในเมืองไทยเล่าให้ฟังว่ามันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว อย่างน้อยๆที่ปรากฏเป็นข่าวก็ตั้งแต่ปี 2564
ถามว่าแล้วหมูเถื่อนทะลักเข้าไทยได้อย่างไร เพราะมันไม่ได้อยู่ในเมืองไทย ไม่เหมือนกับบ่อนซ่องที่มีอยู่เต็มเมืองไทย คำถามคือหมูเถื่อนเข้าไทยได้อย่างไร นำเข้าทางไหน หน่วยงานไหนที่ดูแลเรื่องเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อน เพราะชาวบ้านจะแบกเข้ามาเป็นตัวๆ ก็คงไม่สามารถทำได้ เรื่องการทุจริตแบบนี้ ตรวจสอบได้ไม่ยาก หากรัฐบาลจะตั้งใจตรวจสอบจริงจัง ไม่ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูกไปวันๆ
ทุกคนรู้ว่ามีการนำเข้าหมูเถื่อนทางเรือ เมื่อเป็นแบบนี้ ก็รู้โดยพลันว่าสินค้าที่มาทางเรือนั้นหน่วยงานไหนควบคุมดูแล เรื่องนี้ถามว่ากรมศุลกากรไม่รู้หรือว่ามีการลักลอบนำหมูเถื่อนเข้าไทยทางเรือ แล้วถามต่อไปว่าเมื่อมันคือหมูเถื่อนที่นำเข้าทางเรือ แล้วเหตุไฉนกรมศุลกากรจึงไม่สกัดไว้ เหตุใดจึงปล่อยออกไปได้
เรื่องนี้มีผู้รู้บอกว่า มันเป็นเนื้อหมูก็จริง แต่เวลามันถูกสำแดงรายการสินค้า มันถูกบอกว่าเป็นเนื้อปลา ถามต่อไปว่าทำไมเนื้อหมูจึงกลายเป็นเนื้อปลาเรื่องนี้ก็ต้องไปดูว่ามันเกี่ยวข้องกับกรมอะไร โดยเฉพาะกรมที่เกี่ยวกับเรื่องประมง ใช่ไหม เพราะปลาเป็นสินค้าประมง ใช่ไหม แล้วต่อจากนั้น เมื่อเนื้อหมูกลายเป็นเนื้อปลา แล้วมันถูกกระจายออกไปยังตลาดได้อย่างไร ใครคือตัวการกระจาย และใครช่วยให้กระจายของเถื่อนได้สำเร็จ ก็ต้องตั้งคำถามไปที่กรมปศุสัตว์ ว่าตอนที่กระจายสินค้าเถื่อนชนิดนี้ กรมปศุสัตว์เข้าไปตรวจสอบถี่ถ้วนหรือไม่
เรื่องหมูเถื่อนทำให้เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงกับตะบะแตก เรียกอธิบดี DSI ไปตำหนิอย่างรุนแรงต่อหน้าธารกำนัล ก่อนที่เศรษฐาจะบินไปร่วมประชุม APEC ครั้งล่าสุดที่ San Francisco แล้วล่าสุดบัดนี้อธิบดี DSI คือ สุรยา สิงหกมล ก็กระเด็นพ้นจากเก้าอี้อธิบดีไปแล้ว โดยให้ไปนั่งลอยๆ อยู่ในตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม
น่าสงสัยไหมในกรณีที่มีคำสั่งโยกย้าย (เด้ง) อธิบดี DSI แต่ยังไม่มีคำสั่งลงโทษใดๆ ไปยังหน่วยงานที่ถูกสังคมวิพากษ์ว่าเกี่ยวข้องโดยตรงกับเนื้อหมูเถื่อนอันที่จริงก็ไม่ได้รู้สึกเห็นอกเห็นใจอธิบดี DSI แต่ประการใด เพียงแต่สงสัยว่าเหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องเนื้อหมูเถื่อนยังไม่ถูกลงโทษ
คนที่อยู่ในวงการค้าขายหมูเล่าให้ฟังอีกว่า ประเมินเบื้องต้นพบว่าขบวนการเนื้อหมูเถื่อนน่าจะทำผลประโยชน์โดยมิชอบให้ผู้เกี่ยวข้องปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท แล้วก็ตั้งข้อสังเกตด้วยว่าขบวนการเถื่อนนี้พัวพันกับนักการเมืองใหญ่รายหนึ่งที่เป็นอดีตรัฐมนตรี (บอกแบบนี้มันกว้างมากจริงๆ แต่สำหรับคนในวงการก็นึกหน้าออกโดยพลัน) เจ้าของห้องเย็น
ที่ร่วมขบวนการ และยังพัวพันไปถึงเหล่ามาเฟียในท้องถิ่นอีกหลายราย รวมถึงเจ้าของฟาร์มหมูขนาดใหญ่ บริษัทshipping บางราย และพ่อค้าบางกลุ่ม
เมื่อแหล่งข่าวบอกแบบนี้ ผู้เขียนก็แย้งว่า พูดแบบนี้มันกว้างมากเหมือนเหวี่ยงแห ขอให้ช่วยตีวงให้แคบหน่อยเถอะ แหล่งข่าวก็บอกว่าพูดมากกว่านี้ไม่ได้หรอก แต่หากอยากจะรู้ให้ไปถามเจ้าสัวใหญ่ของเมืองไทยรายหนึ่งเอาก็แล้วกัน รับรองเขาบอกได้ชัดเจน เพราะเขามีทั้งได้และเสียประโยชน์ในประเด็นนี้
ถามต่อไปว่าหากเชื่อว่ากรมศุลกากร กรมประมงและกรมปศุสัตว์เกี่ยวข้องกับเรื่องหมูเถื่อน ก็มีคำถามโดยพลันว่าแล้วทำไมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงไม่ถูกลงโทษคำตอบคือจะมีนักการเมืองผู้มีอำนาจรัฐหน้าไหนลงโทษตัวเอง เมื่อเขามีอำนาจรัฐ เขาก็ต้องใช้อำนาจลงโทษผู้อื่น ไม่มีวันที่เขาจะลงโทษตัวเองเป็นอันขาด
ถามต่อไปว่า หมูเถื่อนมาจากประเทศไหน มาจากประเทศรอบๆ บ้านเรา หรืออย่างไร คนให้ข่าวนี้บอกว่าไม่ใช่มาเลเซีย และอินโดนีเซียแน่นอน เพราะเป็นประเทศที่นับถืออิสลาม แล้วก็มีผู้บอกว่าหมูเถื่อนมาจากแดนไกลเช่น จากยุโรป และลาตินอเมริกา
ย้ำว่าเรื่องเนื้อหมูเถื่อนมีในไทยมาตั้งแต่รัฐบาลชุดที่แล้ว เรื่องนี้สร้างความโกรธกริ้วให้นายทุนเลี้ยงหมูใหญ่ในไทยอย่างมาก ครั้นเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ก็จึงได้บอกเล่าเรื่องนี้กับรัฐบาลใหม่ ก็จึงทำให้รัฐบาลใหม่ได้จังหวะสร้างคะแนนนิยมทางการเมือง จึงเร่งรัดให้จับกุมหมูเถื่อนอย่างแข็งขัน ส่วนจะแข็งขันจริงจังแค่ไหน ก็ต้องรอดูกันไป เพราะไปๆ มาๆ อาจจะกลายเป็นลูบหน้าปะจมูกอีกก็เป็นได้ ก็รอดูกันต่อไปว่ารัฐบาลนี้จะกล้าล้างขบวนการหมูเถื่อนหรือไม่ หรือจะทำได้แค่เล่นละครตบตาประชาชนไปวันๆ เท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี