สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเสนอ รายงานพิเศษเบื้องหลังสหรัฐอเมริกาเจรจาให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอันซับซ้อนยุ่งยาก จนท้าวมาลีวราชหลายหน้าอย่างสหรัฐฯถึงกับออกปากว่ามันยากและเจ็บปวดทรมานราวกับถอนฟันกราม ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า สหรัฐซึ่งเป็นตัวการวิ่งเต้นเจรจาระหว่างอิสราเอล อียิปต์ กาตาร์ และฮามาส ที่ต้องมีศิลปะในการเจรจาทั้งการกดดัน ข่มขู่ และ หว่านล้อมตะล่อม คู่ปรปักษ์ และตัวกลางในการเจรจา
ความยุ่งยากส่วนใหญ่มาจากอิสราเอลยืนกรานในการใช้กำลังอาวุธช่วยเหลือตัวประกันออกมา ฝ่ายฮามาสผู้ควบคุมตัวประกัน ก็ไม่ไว้ใจใคร ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับตัวประกันด้านอิสราเอลก็ไม่เชื่อว่าตัวประกันยังมีชีวิตอยู่จริงจนกว่าจะมีข้อมูลรายละเอียดเชิงประจักษ์เกี่ยวกับตัวประกัน อิสราเอลยืนกรานว่าเมื่อถึงจุดที่ได้ข้อมูลตัวประกันมากจนเป็นที่พอใจค่อยเจรจาว่ากันด้วยเงื่อนไขที่นำไปสู่การแลกเปลี่ยนตัวประกันอย่างไร ก่อนถึงจุดนั้นอิสราเอลยังเดินหน้าถล่มกาซาต่อไปและสังเวยชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วกว่า 12,000 คน
หรือว่าสหรัฐอเมริกากับอิสราเอลเล่นบทสองหน้า โดยอิสราเอลเล่นบทผู้ร้ายใช้กำลังเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปาเลสไตน์ ส่วนสหรัฐเล่นบทท้าวมาลีวราชหลายหน้า ทั้งกดดัน ผ่อนปรนข่มขู่และเจรจาเพื่อให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอิสราเอลและอเมริกันพ้นจากอันตรายก่อนตัวประกันชาติอื่น
เป็นที่น่าสังเกตว่า สหรัฐไม่เคยเรียกร้องให้ปล่อยตัวประกันทันที โดยไม่มีเงื่อนไขเหมือนนายกรัฐมนตรีไทยและผู้นำชาติอื่นๆ แต่สหรัฐวางแผนเจรจาลับๆ ตั้งแต่วันแรกที่ฮามาสจับตัวประกัน การเจรจาลับของสหรัฐเน้นให้ความสำคัญกับการปล่อยตัวประกันคนอิสราเอลและอเมริกันโดยไม่นำพาตัวประกันที่มีสัญชาติอื่นๆ สหรัฐต่อรองเจรจาในเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกันคนอเมริกันและอิสราเอลเท่านั้น การเจรจาของสหรัฐจึงน่าจะมีปัจจัยก้อนใหญ่ในการแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวประกัน
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศกาตาร์เปิดเผยว่าคนไทย 10 คน และหญิงฟิลิปปินส์หนึ่งคนที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาในกลุ่มแรกนั้น
“อยู่นอกเหนือข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างอิสราเอลกับฮามาสตัวประกันไทย 10 คน และสตรีฟิลิปปินส์1 คน ที่ฮามาสปล่อยออกมาเมื่อวันศุกร์ที่ 24 นั้นอยู่นอกเหนือข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกัน” มาเจด อัล-อันซารี กล่าวฮามาสปล่อยประกันกลุ่ม 24 คนแรก ในจำนวนนี้ 13 คนอยู่ในข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวประกัน 1 คน ต่อการปล่อยปาเลสไตน์ 3 คน ออกจากคุกอิสราเอล
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น โปรยข่าว เบื้องหลังการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับปาเลสไตน์ว่าเมื่อวันที่19 พฤศจิกายน ว่า ฮามาสกับอิสราเอล ตกลงในหลักการปล่อยตัวประกันสตรีและเด็กอิสราเอล 50 คนระหว่างอิสราเอลหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม 4 วัน
ซีเอ็นเอ็น เปิดฉากบทความพิเศษว่า นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เนทันยาฮู เกาะแขน เบรต แมคเกอร์ ผู้อำนวยการสภาความมั่นคงสหรัฐ ขณะเดินออกจากการประชุมอันเคร่งเครียดยาวนานกับรัฐมนตรีสงครามอิสราเอลในประเด็นทำอย่างไรให้ตัวประกันได้รับการปล่อยจากฮามาสอย่างปลอดภัย“เราจำเป็นต้องทำข้อตกลง” เนทันยาฮู กล่าวกับผู้ประสานงานตะวันออกกลางของทำเนียบขาวเมื่อสัปดาห์ก่อน
เนทันยาฮู พบกับผู้ประสานงานจากทำเนียบขาว ซึ่งหลายชั่วโมงก่อนหน้า เนทันยาฮู รับปากกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ทางโทรศัพท์ว่า ยอมรับข้อเสนอในหลักการกว้างๆที่ให้ฮามาสปล่อยตัวประกัน ซึ่งเป็นสตรีและเด็ก 50 คน จากที่กักขังของฮามาสในกาซา ถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญหลายวันก่อนหน้า เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ฮามาสบอกเป็นนัยว่าจะให้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับตัวประกัน เช่น เพศ อายุ และสัญชาติ หลังจากฮามาสปฏิเสธให้ข้อมูลตลอดมา นอกจากได้ข้อมูลเพศ อายุ สัญชาติแล้วข้อมูลใหม่ที่ได้มายืนยันว่าเด็กจำนวนมากยังถูกกักขังเป็นตัวประกัน ตั้งแต่ วันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
และเชื่อได้ว่านอกจาก 50 คน ที่จะได้รับการปล่อยตัวออกมาในชุดนี้ ยังมีตัวประกันที่เป็นอิสราเอลและอเมริกัน ถูกขังอยู่ในอุโมงค์ฮามาสมากกว่าที่ปล่อยตัวออกมา สหรัฐกับอิสราเอลจึงเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องช่วย 50 คนนี้ออกมาก่อนและคาดหมายว่ามันจะเป็นแรงกระตุ้นให้ฮามาสปล่อยตัวประกันอื่นๆ เพิ่มเติมอีกตามมา
แต่หลายชั่วโมงหลังจาก เนทันยาฮูพบกับนายแมคเกอร์ทุกอย่างยังมืดมน กาตาร์ซึ่งมีบทบาทสำคัญเป็นคนกลางในการเจรจาไม่สามารถติดต่อกับฮามาสได้ ฮามาสหายเอง ก็ทำตัวหายเข้ากลีบเมฆ และเมื่อโผล่ขึ้นมาใหม่ฮามาสขู่คว่ำโต๊ะเจรจา หากกองกำลังพิทักษ์อิสราเอลที่บุกเข้ายึดค้นโรงพยาบาลอัล-ซีฟาไม่ถอนตัวออกจากพื้นที่ แต่ถูก IDF ปฏิเสธไม่ยอมถอนตัวออกจากโรงพยาบาล และบอกว่า ยอมให้โรงพยาบาลดำเนินต่อไปได้
เมื่อต้องเริ่มเจรจานับหนึ่งใหม่ ประธานาธิบดีไบเดนซึ่งในขณะนั้นอยู่ในซานฟรานซิสโก เพิ่งเตรียมการเจรจาสุดยอดผู้นำกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้โทรศัพท์ไปหา เอมีร์ เจ้าผู้ครองกาตาร์ สาส์นของไบเดนบอกว่า “หมดเวลาเจรจาแล้ว”
เอมีร์ยืนยันว่าพระองค์จะทำทุกวิถีทางให้บรรลุข้อตกลงรุ่งขึ้นวันต่อมาแมคเกอร์เข้าเฝ้าเอมีร์แห่งกาตาร์เพื่อตรวจสอบร่างข้อตกลงในตอนนั้นมีอยู่หกหน้า ซึ่งข้อตกลงบ่งชี้ว่าสตรีและเด็กๆ จะได้รับการปล่อยตัวออกมาเป็นขั้นตอนแรก และฮามาสมีแรงดลใจปล่อยตัวประกันมากกว่านั้นในขั้นตอนต่อไป
ไอเอบิล เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอเรียกประชุมทางโทรศัพท์กับคณะรัฐมนตรีอิสราเอลและที่ประชุมรับรองข้อตกลงและเงื่อนไขการปล่อยตัวประกันโดยมีการแก้ไขถ้อยคำเล็กน้อย และในวันอาทิตย์เอกสารรับรองข้อตกลง ได้ส่งไปถึงฮามาส โดยผ่านทางเอมีร์แห่งกาตาร์และเอมีร์ยืนยันว่าเป็นข้อตกลงขั้นตอนสุดท้าย
การเจรจานำร่อง
การเจรจานำร่อง ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจะมาถึงจุดเจรจาเพื่อปล่อยตัวประกัน 50 คน การเจรจานำร่องเกิดขึ้นทันทีที่ฮามาสจับตัวประกัน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และข้อตกลงในเบื้องต้น ก็ตามมาหลายอาทิตย์หลังจากนั้น ซึ่งทำให้รัฐบาลนายไบเดนมั่นใจว่าการเจรจากับฮามาสผ่านทางกาตาร์เกิดประสิทธิผลมากกว่าทางอื่น ซึ่งเจ้าหน้าที่อธิบายภายหลังว่าการเจรจาให้ฮามาสปล่อยสตรีสัญชาติอิสราเอลอเมริกันกับลูกสาวของเธอก่อนหน้านั้นเรียกว่า“เจรจานำร่อง”
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำเนียบขาวประสบความสำเร็จในการเจรจาให้ปล่อยตัวหญิงอเมริกันสองคน คือ Natlee และ Judith Raanan ในวันที่แม่ และลูกสาวสัญชาติอเมริกัน ได้รับการปล่อยตัวออกมาและทางเดินผ่านฉนวนกาซา
แจ๊ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทำเนียบขาวจอน ไฟเนอร์ และแมคเกอร์ นั่งมอนิเตอร์การเดินทางของแม่ลูก Raanan ด้วยใจระทึก เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานมาก และเมื่อสองแม่ลูกมาถึงด่านชายแดนอุปทูต สตีเฟน ฮาเลตต์ ไปต้อนรับพวกเธอถึงหน้าด่าน ถึงจุดนี้ประธานาธิบดีไบเดนโทรศัพท์ไปหาพ่อNatlee Raanan และทั้งสองก็แสดงความยินดีร่วมกันในตอนเย็นของวันนั้น ประธานาธิบดีไบเดน ได้พูดโทรศัพท์กับหญิงสองคนที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ
วันนั้นเป็นการพิสูจน์ว่าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทำเนียบขาวประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายการสื่อสารเพื่อเจรจากับฮามาสผ่านกาตาร์
โปรดติดตามตอนจบวันเสาร์
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี